"สุรชัย" เตือน สนช.สมัครสมาชิกพรรคการเมือง อาจตกเก้าอี้ ชี้ต้องทำหน้าที่ ส.ว.ชั่วคราวก่อนมีสภาใหม่ ส่วนการสมัคร ส.ว.ผ่าน กกต.รธน.ไม่ห้าม ขึ้นอยูดุลพินิจแต่ละคน

เมื่อวันที่ 9 ต.ค.61 ที่รัฐสภา นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ 1 กล่าวถึงการทำหน้าที่ของ สนช.ในช่วงโค้งสุดท้ายว่า ในระหว่างการรอเวลาเลือกตั้งอีกประมาณ 4 เดือนข้างหน้า สนช.จะยังคงประชุมพิจารณากฎหมายตามปกติ โดยเฉพาะร่าง พ.ร.บ.ที่ค้างอยู่ แต่จากการประสานงานกับรัฐบาลเห็นว่า ร่าง พ.ร.บ.ฉบับใหม่ที่จะเสนอมา สนช.จะต้องส่งมาให้ สนช.ก่อนสิ้นปี 2561 เพื่อให้ สนช.มีเวลาพิจารณาพอสมควร ก่อนที่จะถึงการเลือกตั้งในช่วงต้นปี 2562 แต่หากถึงที่สุดแล้ว สนช.ไม่สามารถพิจารณาเสร็จ จะเป็นหน้าที่ของรัฐสภาชุดใหม่ โดยรัฐธรรมนูญกำหนดให้สภาผู้แทนราษฎรมีสิทธิ ที่จะเลือกว่าสมควรนำกฎหมายที่สภาชุดเก่ายังพิจารณาไม่เสร็จมาพิจารณาต่อหรือไม่

เมื่อถามว่า ถ้ามีสมาชิก สนช.จะไปร่วมงานทางการเมืองกับพรรคการเมืองหรือจะไปสมัครเป็น ส.ว.ผ่านขั้นตอนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ควรจะต้องลาออกจากการเป็นสมาชิก สนช.ก่อนหรือไม่ นายสุรชัย กล่าวว่า กรณีไปร่วมงานการเมืองคิดว่าต้องดูว่าไปร่วมงานในลักษณะใด ถ้าถึงขั้นมีการสมัครสมาชิกพรรคจะมีผลต่อสมาชิกสภาพ สนช.ทันที เนื่องจากรัฐธรรมนูญบัญญัติให้ สนช.ทำหน้าที่ ส.ส.และ ส.ว.ด้วย จนกว่าจะมีรัฐสภาชุดใหม่ภายหลังการเลือกตั้ง ซึ่ง ส.ว.มีลักษณะต้องห้ามบางประการว่าห้าม ส.ว.เป็นสมาชิกพรรค ถ้ามีสมาชิก สนช.ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ก็อาจเข้ากรณีลักษณะต้องห้ามดังกล่าวได้ ส่วนการไปสมัคร ส.ว.ผ่านทาง กกต.นั้น รัฐธรรมนูญไม่ได้บัญญัติข้อห้ามใดๆ เอาไว้ มีเพียงแต่ข้อห้ามการไปสมัครเป็น ส.ส.เท่านั้น จึงคิดว่าถ้ามีสมาชิก สนช.ไปสมัครเป็น ส.ว.เช่นว่านั้นจริง ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแต่ละคนว่า จะพิจารณาคิดเห็นเป็นประการใด

...