แกนนำชาติไทยพัฒนา เชื่อ ประชาชนยังศรัทธาพรรค แม้อดีต ส.ส.ย้ายซบ ภูมิใจไทย-เพื่อไทย รอความชัดเจนจาก กกต.แก้ข้อบังคับ ก่อนประชุมใหญ่ 26 ตุลาคมนี้ ยันเลือกตั้ง 24 ก.พ. 62 เหมาะสมแล้ว


วันที่ 2 ต.ค. นายธีระ วงศ์สมุทร หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคว่า พรรคชาติไทยพัฒนา ได้แจ้งไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ถึงการเปิดรับสมัครสมาชิก ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม เป็นต้นไป โดยที่พรรคชาติไทยพัฒนา จะเดินสายหาสมาชิกในพื้นที่ต่างๆ ซึ่ง กกต.ให้ความมั่นใจว่า สามารถทำได้ทุกพื้นที่ นอกจากนี้ ยังมีการพิจารณาถึงการแก้ไขข้อบังคับพรรคตามที่ฝ่ายกฎหมายได้ยกร่างขึ้น แต่หลังจากที่ กกต.ชี้แจง พบว่ายังมีบางประเด็นไม่ลงตัว เช่น การคัดเลือกคณะกรรมการคัดสรรผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ให้สมาชิกมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง ทำให้ตีความได้หลายแบบพรรคชาติไทยพัฒนา จึงต้องเลื่อนการประชุมใหญ่ออกไปเป็นวันที่ 26 ตุลาคม จากเดิมกำหนดไว้วันที่ 5 ตุลาคม เพื่อรอความชัดเจนจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่พรรคได้ส่งหนังสือไปสอบถาม

นอกจากนี้ พรรคชาติไทยพัฒนา ได้กำหนดที่ตั้งของ 4 สาขา ประกอบด้วย ภาคกลาง จ.สุพรรณบุรี ภาคเหนือ จ.เพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ จ.ร้อยเอ็ด และภาคใต้ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ทั้งนี้ พรรคพยายามส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ให้ครบทุกเขต

นายนิกร ยังกล่าวถึงคำสั่ง คสช. 13/2561 ที่ไม่ได้ยกเว้น มาตรา 145 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ทำให้การส่งต่อผู้สมัครลงรับเลือกตั้งพรรคการเมืองจำเป็นต้องมีตัวแทนประจำจังหวัดที่จะส่งผู้สมัคร ไม่น้อยกว่า 101 คน ซึ่งใน 101 คน จะต้องมีตัวแทนของทุกเขตในจังหวัดนั้นด้วย เท่ากับว่า หากจะส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งทั้ง 350 เขต ต้องมีตัวแทนประจำจังหวัด 7, 777 คน ปัญหาคือตอนนี้ กกต.ยังไม่แบ่งเขตเลือกตั้ง จึงยังไม่สามารถดำเนินการ เรื่องการตั้งตัวแทนประจำจังหวัดได้ ทำให้หลายพรรคมีปัญหาในเรื่องการส่งตัวผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง แต่สำหรับพรรคชาติไทยพัฒนาได้มีการเตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้าแล้ว เรื่องนี้จึงไม่เป็นปัญหาสำหรับพรรค พร้อมขอ คสช.อย่าใช้ประเด็นนี้เป็นข้ออ้างว่า พรรคการเมืองดำเนินการไม่ทัน และต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไป การเลือกตั้งต้องเกิดขึ้น ในที่ 24 กุมภาพันธุ์ 2561 เหมาะสมแล้ว

...

ด้าน นายธีระ กล่าวถึงกรณีอดีต ส.ส.ถูกดูดไปสังกัดพรรคการเมืองอื่นว่า เป็นเรื่องปกติของการเมือง ที่มีคนเข้าและคนออกจากพรรค แต่ยอมรับว่าการที่อดีต ส.ส.ของพรรคย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองอื่น อาจกระทบตัวเลขจำนวน ส.ส.ที่พรรคจะได้ ในทางกลับกันหากมีผู้สมัครคนอื่น เข้ามาสังกัดพรรค ก็อาจจะมีฐานเสียงของเขาตามมาด้วย แต่เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชนซึ่งยังมีเวลา และเชื่อว่ามีประชาชนบางส่วนที่ยังคงเชื่อมั่นและศรัทธาพรรคชาติไทยพัฒนา

ส่วนเรื่องที่ นายณัฐวุฒิ และ นายชาญชัย ประเสริฐสุวรรณ อดีต ส.ส.สุพรรณบุรี ย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทย นายนิกร ยอมรับว่า ยังไม่ทราบ ทราบเพียงกรณีของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีต ส.ส.อุทัยธานี ที่ย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทยเท่านั้น