กลุ่มคนรุ่นใหม่ลูกหลานพรรคเพื่อไทย จำนวน 30 ชีวิต แห่สมัครสมาชิก ขอทำการเมืองสร้างสรรค์ ลดขัดแย้ง ด้านภูมิธรรม ขอนายกฯ ใจกว้างเปิดรับฟังความเห็น 'เสนาะ' ชี้ ตระกูล 'สะสมทรัพย์' ยังไม่ย้ายไป 'ภูมิใจไทย' 

กลุ่มคนรุ่นใหม่ 30 คน ส่วนใหญ่เป็นนักวิชาการ และลูกหลานสมาชิกพรรคเพื่อไทย นำโดยนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล ที่ปรึกษาเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นางสาวอรุณี กาสยานนท์ นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ นายต้น ณ ระนอง บุตรชายนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง และนายเดชณัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์ บุตรชายนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ เป็นต้น ได้เดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย พร้อมเปิดตัว โดยมีแกนนำคนสำคัญของพรรค อย่างพลตำรวจโท วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรค และนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรค ร่วมให้กำลังใจ

นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยมีความตั้งใจที่จะเข้ามาทำงานการเมืองอย่างเเท้จริง ไม่ได้มีแค่ภาพ แต่มีความสามารถ มีอุดมการณ์ ที่จะผสมผสานนำภารกิจ วิสัยทัศน์ และนโยบายไปสู่การปฏิบัติด้วยการผสมผสานกับบุคลากรของพรรคที่มีอยู่เดิมทั้งอดีต ส.ส. เขตและปาร์ตี้ลิสต์ ซึ่งจะทำให้คนรุ่นใหม่ของพรรคเพื่อไทยมีความแตกต่างกับพรรคอื่นๆ

...

ด้าน นางสาวอรุณี บอกว่า คนรุ่นใหม่ของพรรคเพื่อไทย พร้อมทำงานร่วมกับทุกพรรค เพราะการเข้ามาทำงานทางการเมืองเพื่อพยายามลดความขัดแย้ง ทำให้ประเทศเดินหน้า ทำการเมืองสร้างสรรค์ มีทัศนคติทางการเมืองเชิงบวก ลดการตอบโต้ ที่จะนำไปสู่ความขัดแย้ง และส่วนตัวไม่มีความกังวลที่เข้ามาอยู่กับพรรคเพื่อไทยที่ถูกมองว่า เป็นคู่ขัดแย้งกับรัฐบาล โดยพร้อมจะต่อสู้ทุกรูปแบบ ในวิถีทางที่ถูกต้อง

นายภูมิธรรม กล่าวว่า คนรุ่นใหม่ที่มาสมัครสมาชิก มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะมาทำงานให้กับพรรค ส่วนหนึ่งจะลง ส.ส.เขต อีกส่วนจะมาทำงานเชิงนโยบาย และช่วยงานการเมืองในทุกมิติ ซึ่งถือว่า การมาครั้งนี้ทำให้พรรคมีความหลากหลาย โดยหลังวันที่ 3 ตุลาคม แกนนำของพรรคจะเริ่มลงพื้นที่ พบปะสมาชิก และติดตามการทำงานของสาขาพรรค 4 สาขาในจังหวัด เชียงใหม่ อุดรธานี นครศรีธรรมราช และสมุทรปราการ

นายภูมิธรรม ยังกล่าวถึงกรณีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตอบโต้ นายเสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทยที่ให้กลับไปพักผ่อนว่า อยากให้นายกรัฐมนตรี มีความสุขุม และเปิดกว้างรับฟังความคิดเห็น เพราะสิ่งที่นายเสนาะพูด ไม่ได้เป็นการก้าวล่วงใคร หรือใช้ถ้อยคำที่ไม่สุภาพ แต่เป็นการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง และสิ่งที่นายเสนาะพูด ก็เป็นข้อเท็จจริงที่สะท้อนความเห็นประชาชน เพราะ ส.ว.250 คน ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง จะเข้ามาเป็นเสียงสนับสนุนรัฐบาล แต่เมื่อพลเอกประยุทธ์ เข้ามาสู่ระบบของสภาผู้แทนราษฎร อาจจะทำให้เกิดปัญหาในการทำงาน เพราะต้องถูกตรวจสอบ ดังนั้นจึงอยากให้นายกรัฐมนตรี ใจกว้าง รับฟังความเห็นที่แตกต่างโดยไม่มองว่า ความเห็นต่าง เป็นความขัดแย้ง เพราะสิ่งเหล่านี้ ถือเป็นความสวยงามในระบอบประชาธิปไตย ที่นักการเมืองจะสามารถแสดงความคิดเห็น และแสดงออกในทางสร้างสรรค์ได้

ส่วนที่มีข่าวว่า ตระกูล สะสมทรัพย์ จะย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย นั้น เท่าที่ทราบเรื่องดังกล่าวยังเป็นแค่กระแสข่าว ยังไม่มีความชัดเจน เพราะนายอนุชา สะสมทรัพย์ ก็ยังเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยอยู่ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้พูดคุยกันแล้ว พรรคเคารพการตัดสินของสมาชิกแต่ละคน เพราะมีข้อจำกัดในสถานการณ์ที่ซับซ้อนจึงต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ประชาชน แต่ไม่ว่าอยู่หรือไป เราก็ยังเป็นพี่น้องกัน