“ปลื้ม” มาแล้ว ลูกชาย “นายหัวชวน” ประกาศสมัครเป็นสาวก ปชป. ขอลง ส.ส. ขนทีมงานนิวเจนฯ เจาะตลาดวัยรุ่น ทะลุทะลวงโลกโซเชียล มั่นใจไปได้สวยเพราะเป็นทางถนัดโชว์จุดยืนล้างบางความขัดแย้งยุคพ่อ-แม่ วาดฝันการเมืองรวมศูนย์ ฝ่ายค้าน-รัฐบาลร่วมมือใกล้ชิด ปชป.เชื่อคนไม่เอา “บิ๊กตู่” เพราะทำ ศก.ฝืด แฉภาคเหนือถูกรุมดูด จ่ายหนักถึงหลัก 50 ล้าน ด้าน พท.ยันไม่มีอดีต ส.ส.เหนือชิ่งหนีซบ “สามมิตร” โวย กกต.หละหลวม ปล่อย “พรรคเพื่อนไทย” ตีเนียนเลียนแบบ พปชร.ยัน 29 ก.ย. เปิดตัวฟูลทีม พร้อมพ่วงคนรุ่นใหม่ “ไก่อู” ยันปลดล็อกต้องเป็นไปตามวาระ คสช. เมินนักการเมืองครหานายกฯลงพื้นที่หาเสียง โหร คสช.ฟันธงมิดด้าม “บิ๊กตู่” คัมแบ็กนายกฯ ชี้โอกาสสูงมีรัฐบาลแห่งชาติ
ปี่กลองบรรเลงเพลงอินโทรเลือกตั้ง เกิดความเคลื่อนไหวกันคึกคักทั้งพรรคเล็ก พรรคใหญ่ รวมทั้งพรรคเกิดใหม่ ข่าวคราวการ “ดูด” ดึงตัวอดีต ส.ส. และผู้สมัคร ยังคงเป็นประเด็นโจมตีออกงิ้วใส่กัน ขณะที่กระแสคนรุ่นใหม่เป็นเทรนด์ใหม่มาแรงในยุค 2018 ที่แทบทุกพรรคไม่กล้ามองข้าม ล่าสุดพรรคประชาธิปัตย์ได้สุรบถ หลีกภัย ลูกชายนายชวน หลีกภัย อดีตนายกฯ มาเสริมแกร่ง เพิ่มจุดขายในตลาดนักเลือกตั้งวัยรุ่น
“ปลื้ม” ซบ ปชป.ตั้งเป้าซื้อใจวัยโจ๋
เมื่อเวลา 13.09 น. วันที่ 22 ก.ย. ที่ซีอาเซียน ห้อง Auditorium ชั้น 10 อาคาร CW Tower ถนนรัชดา กรุงเทพฯ นายสุรบถ หลีกภัย บุตรชายนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ให้สัมภาษณ์ว่า จะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทันทีที่พรรคเปิดรับสมาชิก และขึ้นอยู่กับพรรคว่าจะให้ช่วยงานอะไร ส่วนจะลงสมัคร ส.ส.ในระบบแบ่งเขต หรือปาร์ตี้ลิสต์ ยังไม่สามารถตอบได้ คงต้องรอคุยกับผู้บริหารพรรคก่อนว่าจะให้ลงสมัครแบบใด แต่คิดว่าอยู่จุดไหนก็ได้ที่พรรคเห็นว่าตนมีประสิทธิภาพให้ช่วยในจุดนั้น ทั้งนี้นอกจากตนแล้วยังมีทีมงานที่ถนัดแต่ละด้านเข้ามาทำงานด้วย โดยทีมของตนเป็นลูกหลานนักการเมืองจากหลายพรรคมาร่วมกัน และรู้ว่าจะเสนออะไร สื่อสารอะไรให้คนรุ่นใหม่เข้าใจด้วยภาษาที่ง่ายๆ โดยเฉพาะวัยรุ่น เพราะเราทำงานด้านนี้มานาน มีความเข้าใจในการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย
...
พอกันทีความขัดแย้งยุคพ่อยุคแม่
“เรื่องสมัครเป็นสมาชิกได้คุยกับคุณพ่อชวน หลีกภัย แล้วท่านก็สนับสนุนดี คุยว่าอยากเข้าไปทำอะไรหลายๆอย่าง เพราะรู้สึกว่าน่าจะสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ได้ คิดว่าเป็นยุคที่ต้องคุยกันเยอะๆ ผมมองว่าหมดยุคที่เราเอาเรื่องเก่าความขัดแย้ง ความไม่เข้าใจมาทะเลาะกัน รู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้ควรหมดไปได้แล้ว และคนรุ่นผมไม่มีรูปแบบความขัดแย้งเก่าๆในรูปแบบนั้น เพราะคุยกันได้มาก อย่างผมมีเพื่อนที่อยู่ต่างฝ่าย ต่างพรรคกันมากๆ แต่ไม่ได้นำเรื่องผู้ใหญ่ หรือเรื่องยุคพ่อยุคแม่มาทะเลาะกัน คิดว่าควรหยุดได้แล้ว เพราะคือเรื่องพื้นฐานที่สุด กว่าเราจะก้าวไปสู่อนาคตได้ อย่างน้อยที่สุดต้องหยุดการบาดหมาง เชื่อว่าสังคมมีความแตกต่างทางความคิด แต่ต้องไม่แตกแยกทะเลาะกัน ไม่มีใครชอบ” นายสุรบถกล่าว
โลกสวยฝันการเมืองรวมศูนย์
“ผมรู้สึกว่ายุคพวกผมเราเลือกที่จะเข้ามาคุยกันด้วยเหตุผลได้ เชื่อว่าการเมืองในอนาคตจะเหมือนการทำธุรกิจในยุคนี้ คือสามารถร่วมงานกันได้หมด ไม่ใช่เรื่องต้องแบ่งฝ่ายชัดเจน เชื่อว่าเรามีเป้าหมายเดียวกัน คือทำให้ประเทศชาติและประชาชนดีขึ้น สำหรับผมการเมืองจะไม่ใช่การแบ่งแยกเหมือนในอดีต รู้สึกว่าเป็นยุคเก่าและน้ำเน่ามาก ไม่มีประโยชน์กับใครเลย เป็นแค่การทะเลาะของคนกลุ่มหนึ่งเล็กๆ ที่บาดหมางเรื่องอะไรไม่ทราบ แต่สุดท้ายทำให้คนกลุ่มมากเกิดความแตกแยก ดังนั้น การเมืองในอนาคตควรจะร่วมมือกันได้ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน หาคนเก่งที่สุดในทุกๆด้าน แล้วไปทำสิ่งนั้นๆ ให้เหมาะสมที่สุด นักการเมืองในอนาคตจะอยู่ในตำแหน่งคล้ายโปรดิวเซอร์ คือเลือกของดีที่สุดในแต่ละแขนงมาร่วมกัน ไม่ใช่เอาพวกพ้องที่สนิทกัน” นายสุรบถกล่าว
คนละสไตล์ไม่กลัวถูกเทียบพ่อ
เมื่อถามว่า กลัวการถูกเปรียบเทียบกับนายชวนผู้เป็นบิดาหรือไม่ เพราะประสบความสำเร็จทางการเมืองอย่างสูง นายสุรบถตอบว่า “ผมไม่กลัวถูกเปรียบเทียบ พ่อก็คือพ่อ ผมก็คือผม นับถือที่พ่อเป็นคนดี ซึ่งพ่อได้ปลูกฝังสิ่งต่างๆในใจ ทำให้ผมมีวันนี้ได้ แต่หากถามว่าต้องทำงานการเมืองหรือจุดยืนแบบพ่อหรือไม่ ก็ต้องตอบว่า ไม่ เพราะผมก็มีสไตล์ของตัวเอง มีสิ่งที่อยากทำและสิ่งที่ถนัด สำหรับพ่อเป็นคนดีที่ยิ่งใหญ่ของผม และจะอยู่ในทุกๆจุดของการตัดสินใจที่ดีงาม เชื่อว่าการตัดสินใจของพ่อยืนอยู่บนความดีและความถูกต้อง”
โชว์พลิ้วเด้งเชือกหนุน “มาร์ค”
เมื่อถามถึงมุมมองบุคคลที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายสุรบถตอบว่า เรื่องนี้ไม่ทราบ บอกได้เพียงว่าคนรุ่นตนทำอะไรได้บ้าง แต่ไม่ได้แปลว่าคนยุคก่อนทำอะไรไม่ดี เป็นยุคที่บุกเบิกสิ่งต่างๆ ไว้ให้คนรุ่นหลัง เขาอาจทำสิ่งที่ดีและผิดพลาด แต่คือบทเรียนของเรา จึงอยากให้การเมืองยุคใหม่มองอนาคต ไม่เหลียวมองเรื่องเก่าๆ มองไปข้างหน้าด้วยกัน ลดความแตกแยกที่เป็นเบสิกที่สุด เหมือนเรือกลางทะเล ถ้าลูกเรือเอาแต่ทะเลาะกัน เรือก็ไม่เดินไปไหน เมื่อถามว่า จะสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้เป็นหัวหน้าพรรคต่อหรือไม่ นายสุรบถตอบเพียงว่า ท่านเป็นคนดีมีความสามารถ และเคารพท่านจากใจจริง อย่างไรก็ตามตนยังไม่ได้พูดคุยกับนายอภิสิทธิ์อย่างเป็นทางการ เพราะอยากเข้าไปสมัครสมาชิกแบบปกติตามที่พรรคประกาศ
“สาธิต” เชื่อชาวบ้านไม่เอา “บิ๊กตู่”
นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลภาคกลาง กล่าวถึงกรณีกลุ่มสามมิตรดูดอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ภาคตะวันออกไปเป็นจำนวนมาก เพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.เป็นนายกฯต่อว่า จะบอกว่ากระทบเราก็ถือว่ากระทบ แต่ไม่หวั่นไหวเพราะเชื่อมั่นในฐานเสียงของเราในภาคตะวันออก ถ้าคนเก่าออกไปคนใหม่ต้องมาทดแทน เรามีโอกาสหาคนรุ่นใหม่ มีความรู้และทันโลก ทันยุคความเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี มองอีกด้านหนึ่งก็ถือเป็นโอกาสดี ที่เราจะได้มองหาเลือดใหม่ พร้อมก้าวข้ามการเมืองแบบเก่า เข้าสู่ยุคปฏิรูปอย่างแท้จริง เรายังเชื่อมั่นว่าคนภาคตะวันออกเขาทนกับสภาพการอดอยาก เศรษฐกิจฝืดเคืองไม่ไหวแล้ว เป็นเรื่องยากที่ใครก็ตามจะย้ายพรรคไปอยู่กับพรรคที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯต่อ จะได้รับการเลือกตั้ง พูดง่ายๆ วันนี้ประชาชนเขาไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์แล้ว ขอให้นายกฯเลิกฝันหวาน
ปชป.เหนือแฉถูกดูดทุกทิศทาง
นายสัมพันธ์ ตั้งเบญจผล อดีต ส.ส.สุโขทัย พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวการดูดอดีต ส.ส.และผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ภาคเหนือว่า มีการติดต่ออดีต ส.ส.และว่าที่ผู้สมัครของพรรคให้ย้ายไปร่วมงานทั้งกับกลุ่มสามมิตร และพรรคการเมืองใหญ่ หรือพรรคขนาดกลางที่มีทุนหนา โดยเจรจาผ่านบุคคลที่สาม หรือนัดโดยตรง อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าอดีต ส.ส.คงไม่มีใครอยากย้ายพรรค เพราะทุกคนล้วนมีต้นทุนที่ทำงานในนามของพรรคการเมืองเดิมมาแล้ว จึงต้องถามว่าอยากเป็น ส.ส.ต่อ หรืออยากจะได้เงิน ทั้งนี้นอกจากความพยายามดูดโดยเสนอผลประโยชน์ให้ ยังมีวิธีการอื่นๆด้วย เช่น เรื่องธุรกิจของครอบครัว ตนก็ถูกคนมาทาบทามเช่นกันแต่ไม่ไปแน่
ปูดใช้ 50 ล้านล่อซบพลังประชารัฐ
ด้านนายยุพราช บัวอินทร์ อดีต ส.ส.เพชรบูรณ์ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนถูกติดต่อทาบทามโดยผู้ใหญ่ที่เป็นอดีตนักการเมืองอาวุโสคนหนึ่ง มาเจรจาตรงๆ เสนอว่าหากย้ายไปรวมอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ จะมีเงินให้ 50 ล้านบาท และยังมีอีกพรรคซึ่งเป็นพรรคขนาดกลางก็ได้ส่งคนมาเจรจาทาบทามเช่นกัน แต่ตนปฏิเสธไปทั้งหมด แต่ทราบว่าอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยใน จ.เพชรบูรณ์ ตัดสินใจย้ายไปพรรคใหม่กันหลายคนแล้ว
เผยลิสต์ถูกจ้องดูดอย่างน้อย 5 ราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อดีต ส.ส.ภาคเหนือ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ถูกติดต่อทาบทามให้ย้ายพรรค อาทิ นายสัมพันธ์ ตั้งเบญจผล นายวิรัตน์ วิริยะพงษ์ อดีต ส.ส.สุโขทัย นายสมเจตน์ ลิมประพันธ์ อดีต ส.ส.พรรคชาติพัฒนา ที่ได้เปิดตัวทำงานการเมืองในนามพรรคประชาธิปัตย์ ในพื้นที่ จ.สุโขทัย และอยู่ในการดูแลของนายอัศวิน วิภูศิริ นายยุพราช บัวอินทร์ อดีต ส.ส.เพชรบูรณ์ พรรคประชาธิปัตย์ และยังมีว่าที่ผู้สมัครที่เป็นสมาชิกสภาจังหวัด (ส.จ.) ซึ่งถูกวางตัวให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ใน จ.พิจิตร เป็นต้น
พท.ยันไม่มีอดีต ส.ส.เหนือชิ่งหนี
นายสามารถ แก้วมีชัย อดีต ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายภิรมย์ พลวิเศษ เลขากลุ่มสามมิตร ระบุจะมีอดีต ส.ส.ภาคเหนือ พรรคเพื่อไทยเข้าร่วมกลุ่มสามมิตรว่า ยืนยันว่าอดีต ส.ส.ภาคเหนือของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อปี 2554 ทุกคนยังคงอยู่กับพรรคเพื่อไทยเช่นเดิม ไม่มีใครคิดย้ายออกจากพรรคตามที่กลุ่มสามมิตรอ้าง คนที่กลุ่มสามมิตรเข้าไปคุยด้วยคงเป็นอดีต ส.ส.ที่เคยอยู่พรรคไทยรักไทย เมื่อการเลือกตั้งปี 2544 แต่เข้าใจผิดว่ายังอยู่กับพรรคเพื่อไทยอยู่ ทั้งที่เขาออกไปแล้ว ยืนยันไม่มีใครคิดย้ายออกจากพรรคเพื่อไทย ที่สำคัญวันนี้กลุ่มสามมิตรยังไม่ชัดเจนเลยด้วยซ้ำว่าจะไปอยู่พรรค การเมืองไหน
ลั่นเกิดเพื่อไทยก็ขอตายเพื่อไทย
นายประสิทธิ์ วุฒินันชัย อดีต ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากการพูดคุยกับเพื่อน อดีต ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ไม่มีใครย้ายไปไหน ทุกคนยังอยู่กับพรรคเหมือนเดิม เวลาตนลงพื้นที่ไปงานบุญงานบวชประชาชนก็บอกให้อยู่ที่เดิม เมื่อประชาชนบอกมาอย่างนี้ตนก็ไม่ไปไหนแน่นอน ตนเกิดที่พรรคเพื่อไทยถ้าจะตายก็ขอตายที่พรรคเพื่อไทย ไม่คิดย้ายไปไหนแน่นอน
จี้ กกต.ลงพื้นที่ชี้แจงกติกาใหม่
นายอำนวย คลังผา อดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีกลุ่มสามมิตรเดินสายดูด ส.ส.ว่า ถือเป็นสิทธิที่กลุ่มสามมิตรเดินทางไปพูดคุยกับอดีต ส.ส. แกนนำกลุ่มสามมิตร ทั้งนายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ก็เคยอยู่พรรคไทยรักไทย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะไปพูดคุยกับอดีตเพื่อนร่วมพรรค ส่วนใครจะไปร่วมกับกลุ่มสามมิตรหรือไม่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ละคน แต่ส่วนตัวยืนยันยังอยู่กับพรรคเพื่อไทยเช่นเดิม สิ่งที่อยากเรียกร้องขณะนี้คือแม้ คสช.ยังไม่ปลดล็อกให้พรรค การเมืองทำกิจกรรม แต่ควรให้ กกต.ลงพื้นที่ชี้แจงกระบวนการเลือกตั้งที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งบัตรเลือกตั้งใบเดียว การจัดหมายเลขผู้สมัครที่ต่างกันไปในแต่ละจังหวัดให้ประชาชนรับทราบ ถ้ารอให้ พรรคการเมืองลงไปชี้แจงขั้นตอนต่างๆ เหล่านี้ เกรงว่าระยะเวลาที่เหลืออาจกระชั้นชิด ประชาชนจะเข้าใจสับสนได้
โวย “พรรคเพื่อนไทย” เลียนแบบ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ทราบข่าวว่า กกต.ได้รับ จดทะเบียนพรรคการเมืองใหม่พรรคหนึ่งโดยใช้ชื่อพรรคว่า “พรรคเพื่อนไทย” ไม่ทราบว่า กกต. รับจดทะเบียนชื่อพรรคนี้ได้อย่างไร เพราะเห็นได้ชัดว่าพรรคนี้ตั้งใจใช้คำคล้ายกันกับพรรคเพื่อไทย เพื่อให้ประชาชนสำคัญผิดคิดว่าเป็นพรรคเดียวกันกับพรรคเพื่อไทยจนลงคะแนนให้ อีกทั้งโลโก้พรรคก็คล้ายกับพรรคเพื่อไทย ต่างกันแค่คนละสีเท่านั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ในสัปดาห์หน้าจะให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคทำหนังสือร้องเรียนไปยัง กกต.เพื่อสอบถามรายละเอียด
นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กกต.รับจดทะเบียนพรรคเพื่อนไทยมีเหตุผลอะไร อาจทำให้ประชาชนที่ตั้งใจมาลงคะแนนให้พรรคเพื่อไทยสับสนได้ กกต.ต้องออกมาชี้แจงให้ กระจ่างด้วย
อัดใช้รถกองทัพ-กำลังพลผิดเพี้ยน
ร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีมีการเผยแพร่ภาพการใช้รถทหารขนย้ายของในหมู่บ้านแห่งหนึ่งว่า การนำรถยนต์บรรทุกทางทหาร ซึ่งเป็นทรัพย์สินของทางราชการ ไปขนของเพื่อย้ายบ้าน และใช้แรงงานของทหารเกณฑ์ ถือเป็นตัวอย่างของการเบียดบังทรัพย์สินของราชการไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว จัดเป็นการคอร์รัปชันประเภทหนึ่ง และเป็นการใช้ทหารเกณฑ์อย่างไม่เหมาะสม ควรยกเลิกได้แล้ว เป็นเรื่องหนึ่งในหลายๆ เรื่องที่กองทัพควรปฏิรูป ที่ผ่านมากองทัพได้เคยตรวจสอบสถานะการใช้งานยานพาหนะของหน่วยทหารต่างๆ บ้างหรือไม่ ใครบ้างที่มักจะนำรถยนต์ของหน่วยไปใช้ เพราะมีรถเก๋งหรูๆของกองทัพจำนวนมากที่ไม่ได้ติดตราสัญลักษณ์ของกองทัพและไม่ได้ใช้แผ่นป้ายทะเบียนตรากงจักรทุกคัน ดังนั้น คนทั่วไปย่อมดูไม่ออกว่ารถยนต์คันนั้นเป็นสมบัติของกองทัพ ไม่อย่างนั้นป่านนี้อาจมีคนถ่ายรูปมาแฉเต็มโลกโซเชียลไปนานแล้วก็ได้
“ตือ” เชื่อทุกพรรคทำใจเลือดไหล
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกระแสข่าวอดีต ส.ส.พรรค การเมืองต่างๆถูกดูดว่า เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ แต่ละพรรคต้องเผชิญปัญหาเหล่านี้ เป็นธรรมดาของพรรคการเมืองใหม่เขาไม่มีสมาชิกไหลออกมีแต่ไหลเข้า อย่างไรก็ตาม พรรคการเมืองเก่าเมื่อมีไหลออกก็มีไหลเข้าเหมือนกัน ไม่ส่งผลอะไรมากมาย เชื่อว่าทุกพรรคทำใจหมดแล้ว การเมืองเป็นเรื่องของความสมัครใจของนักการเมืองแต่ละคน ถ้าใจไม่ไป ต่อให้เอาโซ่มาฉุด ต่อให้เอาผลประโยชน์ เอาเงินมาให้ก็ไม่ไป ต้องรอดูต่อไปว่าพรรคใหม่ในอนาคตจะยั่งยืนอยู่จนเป็นสถาบันการเมืองได้หรือไม่ และเมื่อถึงเวลาเลือกตั้งคนจะดูที่ตัวผู้สมัคร เพราะนโยบายพรรคถูกชูด้วยยุทธศาสตร์ชาติอยู่แล้ว จะฉีกนอกกรอบคงไม่ได้ ถึงตอนนี้อยู่ที่ตัวคนและยุทธวิธีของพรรคที่จะดึงไฮไลต์ของยุทธศาสตร์ชาติมาดึงความสนใจได้แค่ไหน ดังนั้นคนจึงมีความสำคัญ เพราะตอนนี้ไม่สามารถเลือกพรรคได้ ทำให้คนชนบทเลือกคนที่เห็นหน้าเห็นตา พึ่งพาอาศัยได้เป็นหลัก
เปิดตัว พปชร.ฟูลทีมพ่วงคนรุ่นใหม่
นายชวน ชูจันทร์ ผู้ยื่นขอจดจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมจัดการประชุมใหญ่ในวันที่ 29 ก.ย. ที่อิมแพค เมืองทองธานี ว่า ตอนนี้พร้อมหมดแล้วทั้งเอกสาร และผู้ที่อาสามาทำงานตำแหน่งต่างๆ ทั้งหัวหน้า เลขาธิการพรรค กรรมการบริหาร รวมถึงโฆษก เตรียมไว้แล้ว หลายคนเป็นคนที่สื่อรู้ๆกันอยู่แล้ว วันนั้นน่าจะไปเปิดตัวกันทั้งหมดถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง พร้อมกันนี้จะเปิดคนรุ่นใหม่ที่มีเข้ามาเป็นจำนวนมาก เพื่อความหลากหลาย ไม่ได้เป็นของคนรุ่นใดรุ่นหนึ่ง หลังจากยื่นจดทะเบียนพรรค จะดูเรื่องการแบ่งเขต การเตรียมผู้สมัคร ส่วนที่ทำการพรรคกำลังตกแต่งอยู่ย่านประชาชื่น จะเปิดเร็วๆนี้ เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่อดีต ส.ส.หลายพรรคตบเท้าเข้าร่วมพรรคพลังประชารัฐเป็นจำนวนมาก นายชวนตอบว่า ต้องมาดูว่าจะช่วยกันทำงานกันอย่างไร ดูความนิยมแต่ละพื้นที่ และสุดท้ายขึ้นอยู่กับประชาชนเป็นคนตัดสินใจ
“อนุทิน” แนะฟื้น “เมด อิน ไทยแลนด์”
นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจไทยว่า เห็นความพยายามของรัฐบาลในการพัฒนาเศรษฐกิจไทย แต่สิ่งที่กังวลคือวิธีการ เพราะทำตามหลักความยั่งยืน แต่กว่าการลงทุนจะผลิดอกออกผลต้องใช้เวลา 3-4 ปี ประชาชนรอไม่ได้ ถ้าประชาชนไม่มีเงิน การจับจ่ายใช้สอยหยุดชะงัก การไหลเวียนของระบบเศรษฐกิจไทยต้องมีปัญหาตามมา จะกระทบไปทั้งระบบ อยากให้คนไทยเห็นความสำคัญของการใช้สินค้าและบริการจากคนในชาติเป็นหลัก หรือที่เรียกว่า “เมด อิน ไทยแลนด์” อาทิ ถ้ารัฐบาลมีงบ 1 ล้านล้านบาท ควรใช้เงินนั้นสร้างสิ่งที่คนไทยต้องการ สอดคล้องกับวิถีชีวิตคนไทย เช่น สร้างโรงเรียน โรงพยาบาล ลานกีฬา สวนสาธารณะ ถนน โดยซื้อสินค้าไทย ใช้บริการคนไทย ให้เม็ดเงินหมุนเวียนอยู่ในระบบ ชาติจะได้ประโยชน์ทั้งขึ้นทั้งล่อง
“บิ๊กเคี่ยม” ปัดร่วมลงพื้นที่กลุ่มสามมิตร
พล.ท.สุรพล ตาปนานนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก กล่าวถึงกรณีลงพื้นที่รับเรื่องราวร้องทุกข์ชาวบ้าน พร้อมกับนายภิรมย์ พลวิเศษ เลขาฯกลุ่มสามมิตร ที่ จ.นครราชสีมา ว่า ตนมีภารกิจไปตรวจงานกิจการของ บขส.ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา อาจด้วยเพราะเป็นนายทหารระดับผู้ใหญ่ และมีการบอกกล่าวกันในพื้นที่ว่าจะมีนายทหารจากส่วนกลางไปตรวจเยี่ยม จึงถูกเชิญขอให้ช่วยไปรับเอกสารร้องทุกข์เกี่ยวกับเรื่องที่ดินทำกินดังกล่าว ซึ่งหลายครั้งได้แนะนำใช้ช่องทางปกติ เช่น ศูนย์ดำรงธรรม แต่ชาวบ้านร้องขอว่าอยากยื่นผ่านทางนี้ด้วยอีกช่องทางเพื่อเป็นการเร่งรัด สำหรับกรณีนี้ขณะไปรับหนังสือร้องทุกข์ในบริเวณพื้นที่นั้น มีการหารือในเรื่องความทุกข์ร้อนเรื่องนี้กันอยู่แล้ว โดยในส่วนภาครัฐก็มีทั้งฝ่ายท้องถิ่น ฝ่ายปกครอง และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ส่วนภาคประชาชน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากทั้ง 2 ฝ่าย ตนไม่รู้จักใครเป็นการส่วนตัว รวมถึงบุคคลในกลุ่มการ เมืองที่สื่อมวลชนกล่าวถึง ยืนยันว่าภารกิจที่ไปนั้นเพียงเพื่อช่วยไปรับหนังสือร้องทุกข์ให้เท่านั้น
สมช.จ่อคุมเข้มช่วงปลดล็อก
พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ระบุพบมีความพยายามให้ประชาชนไปเลือกตั้งโดยทำให้บัตรเลือกตั้งเสียหรือกาบัตรโดยไม่เลือกใครเลยว่า สมช.ตรวจสอบดูอยู่พบว่ามีการปล่อยข่าวลักษณะนี้จริง ส่วนความเชื่อมโยงถึงใครนั้นคงเร็วเกินไปที่จะบอก ถือเป็นเรื่องธรรมดาเมื่อใกล้เลือกตั้งจะมีการปล่อยข่าวบอกประชาชนในเรื่องผิดๆ ฝ่ายรัฐบาลมีหน้าที่ลงไปชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนถึงการเลือกตั้งที่ถูกต้อง และเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม ขณะนี้ฝ่ายความมั่นคงเฝ้าดูอยู่ ช่วงนี้อาจยังปล่อยข่าวไม่มาก ช่วงเลือกตั้งน่าจะมีการปล่อยข่าวมากกว่านี้ เมื่อปลดล็อกต้องมีมาตรการเข้มข้นมากขึ้น
“ไก่อู” ลั่นปลดล็อกตามวาระ คสช.
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.สั่งหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องลงไปทำความเข้าใจการเลือกตั้งที่ถูกต้อง ภายหลังได้รับรายงานพบมีความพยายามให้ประชาชนไปเลือกตั้งโดยทำให้บัตรเลือกตั้งเสียหรือกาบัตรโดยไม่เลือกใครเลยว่า เมื่อนายกฯสั่งการแล้วหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องต้องลงไปชี้แจงประชาชนให้เข้าใจ เมื่อถามว่า ช่วงปลดล็อกและเลือกตั้งต้องเข้มข้นเฝ้าระวังการสร้างความเข้าใจผิดมากขึ้นหรือไม่ พล.ท.สรรเสริญตอบว่า คงระวังยาก แต่เมื่อมีข่าวไม่จริงหน่วยงานต้องเร่งชี้แจงให้เร็วที่สุด เพื่อให้ประชาชนเข้าใจสถานการณ์ที่แท้จริง รับฟังพิจารณาดูให้เกิดความมั่นใจว่าเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง ขนาดแค่ช่วงคลายล็อกยังเป็นอย่างนี้เลย เพราะฉะนั้นการปลดล็อกต้องเป็นไปตามตารางวาระที่ คสช.กำหนด ไม่ต้องห่วงมีเวลาในการทำงานอยู่แล้ว
ไม่ยี่หระคำครหาลงพื้นที่หาเสียง
พล.ท.สรรเสริญยังกล่าวถึงภารกิจต่างประเทศของนายกฯที่มีตลอดทั้งเดือน ต.ค.ว่า การประชุม ครม.สัญจรในเดือน ต.ค.อาจต้องพิจารณาดูก่อน เพราะภารกิจต่างประเทศของนายกฯค่อนข้างแน่น ถ้าจำเป็นต้องเลื่อนอาจต้องเลื่อนออกไปก่อน งานต่างประเทศเป็นวาระที่เราไม่สามารกำหนดได้ เป็นเรื่องที่หลายประเทศตกลงกัน เมื่อถามว่า การลงพื้นที่และประชุม ครม.สัญจร ช่วงใกล้เลือกตั้งต้องเริ่มมาพิจารณาดูด้วยหรือไม่ เพื่อป้องกันนำไปเป็นประเด็นโจมตีทางการเมือง พล.ท.สรรเสริญตอบว่า ปกตินายกฯมีนโยบายชัดเจนอยู่แล้วถึงการลงพื้นที่เพื่อดูนโยบายที่ลงไปได้ แปรไปสู่ภาคการปฏิบัติถูกต้องหรือไม่ มีปัญหาอะไรไหม กำหนดลงพื้นที่เป็นระยะๆอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเมื่อกำหนดแล้วก็เป็นไปตามนั้น ไม่วิตกกังวลถูกนำไปโจมตีว่าเป็นการหาเสียง ใครอยากคิดอะไรก็คิดไป นายกฯไม่ว่าอะไร รัฐบาลที่ผ่านมาในอดีตเมื่อใกล้เลือกตั้งก็ลงพื้นที่เหมือนกัน
โหร คมช.ย้ำคำเดิม “บิ๊กตู่” ได้ไปต่อ
นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ โหร คมช. กล่าวถึงดวงเมืองช่วงเข้าสู่การเลือกตั้งว่า ดูแล้วทุกอย่างปกติเปิดโอกาสให้นักการเมืองออกมาดำเนินการกิจกรรมต่างๆ ไม่มีอะไรยุ่งยาก วุ่นวายหรือต้องกังวล การเลือกตั้งจะเป็นไปตามโรดแม็ป ส่วนผู้ที่จะมารับหน้าที่เป็นผู้นำรัฐบาลยังได้คนเดิมสืบสานทำงานต่อไป เพราะเป็นที่ต้องการของประชาชน เมื่อถามว่า แสดงว่าดวงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.ยังต้องทำหน้าที่ต่อไป นายวารินทร์ตอบว่า ยืนยันคำเดิมตั้งแต่แรกเริ่ม เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ระบุมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดรัฐบาลแห่งชาติ นายวารินทร์ตอบว่า หลังเลือกตั้งมีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดในลักษณะคล้ายกับรัฐบาลแห่งชาติ พรรคการเมืองหันหน้ามาขับเคลื่อนร่วมกัน เพราะทุกฝ่ายได้รู้แล้วว่าการทำงานของรัฐบาล คสช.วันนี้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ที่ได้วางไว้ หลายกลุ่ม หลายพรรคหันหน้าเข้าหากัน ไม่มีการต่อสู้แย่งชิงกันแล้ว หันมาปรองดอง เพราะวันนี้บ้านเมืองพ้นวิกฤติมาแล้ว
“แรมโบ้อีสาน” โผล่กราบ “อนุทิน”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นวันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ไปร่วมในพิธีพระราชทานเพลิงศพมารดาของนายธีระชัย แสนแก้ว อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ที่วัดป่าไชยวาน ต.ไชยวาน อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี ปรากฏว่านายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ “แรมโบ้อีสาน” ที่เคยเป็นคู่หูกับนายธีระชัยในฉายา “แรมโบ้-อีโต้” ได้เข้าไปกราบนายอนุทิน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ยื่นเรื่องให้ กกต.สอบสวนยุบพรรคภูมิใจไทย ปมเก็บบัตรประชาชนที่ จ.นครราชสีมา เมื่อต้นเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา