การเลือกตั้ง กัมพูชา เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ไม่มีอะไรในกอไผ่ ก็เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้มีแต่พรรครัฐบาล ซีพีพี ของ สมเด็จฮุน เซน ผู้นำตลอดกาลของกัมพูชา ที่ลงแข่งขันส่วนพรรคฝ่ายค้านถูก กกต.กัมพูชา ยุบไปเรียบร้อย ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งด้วยซ้ำ หัวหน้าฝ่ายค้านแรงๆ เช่น สม รังสี ก็ต้องลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ เพราะฉะนั้น พรรครัฐบาล จึงกวาดที่นั่งอย่างถล่มทลายเกิน 100 ที่นั่ง จากจำนวน ส.ส.ทั้งหมด 125 ที่นั่ง ส่วนที่นั่งที่เหลือเป็นของพรรคเล็กพรรคน้อยในจังหวัดต่างๆ ไม่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปซึ่งมีอยู่ประมาณ 19 พรรค รวมทั้ง พรรคฟุนซินเปก ที่ได้มา 5 ที่นั่ง และ พรรคสันนิบาตเพื่อประชาธิปไตย อีก 6 ที่นั่ง
ประธาน กกต.กัมพูชา บุน ฮก แถลงว่า มีผู้มาใช้สิทธิในการเลือกตั้งครั้งนี้กว่าร้อยละ 82 หรือประมาณ 6.88 ล้านคน นอกจากนี้ คณะผู้สังเกตการณ์ที่ประกอบไปด้วย จีน อุซเบกิสถาน และ พม่า ยืนยันว่า การเลือกตั้ง ไม่พบความผิดปกติ เป็นไปด้วยความโปร่งใส
จะว่าไปแล้ว สมเด็จฮุน เซน ก็เป็นผู้นำและเป็นนักการเมืองคนเดียวที่ประชาชนรู้จักมานาน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ๆก็จะเห็นแต่ภาพของ สมเด็จฮุน เซน อยู่คนเดียว มีผู้ใช้แรงงาน นักศึกษา และนักวิชาการพยายามต่อต้าน สมเด็จฮุน เซน อาจจะเพราะด้วยความเบื่อ หรือเพราะ สมเด็จฮุน เซน ไม่ค่อยจะได้มาลงสัมผัสชาวบ้านก็เป็นไปได้ โดยเฉพาะชาวกัมพูชาแท้ๆจะไม่ค่อยชอบใจ สมเด็จฮุน เซน เท่าไหร่
ก่อนเลือกตั้งไม่กี่เดือน สมเด็จฮุน เซน ลงพื้นที่แบบเคาะประตูบ้าน จากนั้นก็ใช้ สื่อโซเชียล โพสต์กิจกรรมการทำงานและชีวิตส่วนตัวแบบบ้านๆ จากภาพผู้นำผูกขาด สมเด็จฮุน เซน กลายเป็นผู้นำที่อบอุ่นทันที โดยเฉพาะคนระดับรากฐานผู้ใช้แรงงานที่มีจำนวนนับล้านคน ชี้ให้เห็นถึง อิทธิพลและพลานุภาพของสื่อโซเชียล ในยุคปัจจุบันที่สามารถทะลุทะลวงในเวลาอันรวดเร็ว
...
สมเด็จฮุน เซน ตั้งใจจะเป็นนายกฯไปอีก 10–20 ปี อย่างไรก็ตาม สื่อโซเชียลเป็นดาบสองคม ซึ่งอาจจะทำให้ สมเด็จฮุน เซน ปกครองกัมพูชาได้ตามเป้าหมายหรือ อาจไปเร็วกว่าที่คิด ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมและวาสนาของ สมเด็จฮุน เซน เองด้วย กรณีของ มหาธีร์ นายกฯมาเลเซียก็เหมือนกันอายุ 92 ปี นึกว่าจะต้องเลี้ยงหลานกลับมาเป็นผู้นำอีกรอบ
ประเทศไทยเท่าที่จำความได้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ครองตำแหน่งนายกฯอยู่ได้นานที่สุด 2 สมัยหรือกว่า 8 ปี และต้องยอมรับว่า ถ้า ทักษิณ ชินวัตร ไม่ตกม้าตายเสียก่อน ก็น่าจะเป็นนายกฯอยู่ได้ยาวนานไม่น้อยกว่า 2 สมัย ถึงขนาดเจ้าตัวมั่นใจประกาศจะยุติบทบาททางการเมืองตอนอายุ 60 ปี
อย่างว่า การเมืองออกแบบไม่ได้ ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปทำให้ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน สำหรับอนาคตทางการเมืองอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ใครจะไปคิดออกว่า อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตรต้องกลายเป็นผู้ต้องหาและไปลี้ภัยอยู่ต่างประเทศจนวันนี้ เพราะฉะนั้นก็อย่าไปคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเป็นนายกฯต่อไปได้หรือไม่
อาจตกม้าตายหรืออยู่ได้อีก 2 สมัยใครจะไปรู้.
หมัดเหล็ก