นายกฯ ชวนคนไทยร่วมเฉลิมพระเกียรติ 66 พรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 ก.ค.ร่วมกิจกรรม 21 ก.ค.สวดมนต์ถวายเป็นพระราชกุศล ณ ลานพระราชวังดุสิต ร่วมทำบุญตักบาตร จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล 28 ก.ค. พร้อมร่วมจิตอาสาพัฒนาลำน้ำ พร้อมเพรียงกันทั้งประเทศ

เมื่อเวลา 20.15 น.วันที่ 20 ก.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 66 พรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 28 ก.ค.61 เพื่อเฉลิมพระเกียรติ และแสดงความจงรักภักดี รัฐบาลขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน ร่วมกิจกรรมต่างๆ อาทิ วันที่ 28 ก.ค.ร่วมสวดมนต์บำเพ็ญพระราชกุศล เพื่ออุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และเจริญพระพุทธมนต์ ถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 21 ก.ค.เวลา 18.00 น. ณ พระลานพระราชวังดุสิต 

ส่วนวันที่ 28 ก.ค.เวลา 06.00 น.จะมีพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง แด่พระสงฆ์และสามเณร ทั้งในกรุงเทพมหานครและทุกจังหวัด และวัดไทยทั่วโลก และในเวลา 19.00 น. มีพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล พร้อมเพรียงกันทั่วประเทศ โดยส่วนกลาง ณ ท้องสนามหลวง และส่วนภูมิภาค ณ ศาลากลางจังหวัด หรือสถานที่ที่จังหวัดกำหนด รวมทั้งในต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูตทั่วโลกกำหนด

ส่วนในช่วงวันที่ 22-28 ก.ค. เนื่องในสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา วันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา กระทรวงวัฒนธรรม จัดกิจ กรรมทางพระพุทธศาสนา และกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยทรงเป็นพุทธมามกะและอัครศาสนูปถัมภก ทรงปกครองบ้านเมืองด้วยหลักทศพิธราชธรรม และเพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของสมเด็จพระมหากษัตริยาธิราชของไทยทุกพระองค์ ตลอดจน จัดกิจกรรม 11 ริ้วขบวนพระบรมธาตุพุทธศิลป์ แผ่นดินพระทรงธรรม อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุตั้งแต่สมัยทวารวดีถึงรัตนโกสินทร์ และพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ เคลื่อนจากลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ไปยังมณฑลพิธีท้องสนามหลวง วันที่ 22 ก.ค.ประดิษฐาน ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง จนถึงวันที่ 28 ก.ค. พร้อมเปิดให้ประชาชนร่วมสักการะ

...

พร้อมกันนี้ รัฐบาลขอเชิญชวนปวงชนชาวไทย ทุกหมู่เหล่า รวมพลังแสดงความจงรักภักดี และร่วมสดุดีพระเกียรติคุณสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อันทรงเป็นแบบอย่างของความกตัญญู ทรงมีพระราชปณิธานสืบสาน รักษา ต่อยอด โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ศาสตร์พระราชา และเจริญรอยตามแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขพสกนิกร ด้วยการร่วมกิจกรรมจิตอาสา "เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ" ในรูปแบบต่างๆ อาทิ โครงการจิตอาสาเพื่อการพัฒนาลำน้ำกับชีวิต บนวิถีแห่งความพอเพียง เพื่อประโยชน์และความสุขประชาชน ใน 606 โครงการ ครอบคลุม 76 จังหวัดและกรุงเทพฯ.