ถ้าคำสั่ง คสช.รีเซ็ตสมาชิกพรรคการเมืองเป็น “กับดัก” ทำให้สมาชิกพรรคการเมืองลดฮวบไปกว่า 90 เปอร์เซ็นต์

กติกาใหม่ที่บังคับพรรคการเมืองทุกพรรค ต้องทำ “ไพรมารีโหวต” ก็เป็น “กับดัก” พรรคการเมือง ทั้งพรรคเก่าพรรคใหม่ ทั้งพรรคเล็กพรรคใหญ่ที่จะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ต้องยุ่งยากเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว

“ไพรมารีโหวต” คืออะไร? เป็นอย่างไร? ทำอย่างไร? จำเป็นหรือไม่? และทำไมต้องมี??

“แม่ลูกจันทร์” เชื่อว่าพี่น้องประชาชน 99 เปอร์เซ็นต์ของประชากรไทยทั่วประเทศ 68 ล้านคน ยังไม่รู้จัก “ไพรมารีโหวต” และยังไม่เข้าใจ “ไพรมารีโหวต” ด้วยซํ้าไป

เพราะ “ไพรมารีโหวต” เพิ่งโผล่ขึ้นมาในยุค คสช.!!

ความจริง “ไพรมารีโหวต” เป็นระบบคัดเลือกผู้สมัครประธานาธิบดีอเมริกา ซึ่งมีความแตกต่างจากการเลือกตั้ง ส.ส.ของไทยอย่างสิ้นเชิง

ในร่าง ก.ม.ลูกของ “อจ.มีชัย ฤชุพันธุ์” ประธาน กรธ.ก็ไม่มีกติกา “ไพรมารีโหวต” ใส่เอาไว้แต่อย่างใด

แต่เป็นเพราะ “สนช.ลากตั้ง” ไปลอก “ไพรมารีโหวต” ของฝรั่งมาใส่เพิ่มในกติกาเลือกตั้ง ส.ส.ของไทย

โดยไม่ได้ประเมินผลดีผลเสียให้รอบคอบเท่าที่ควร

การให้ผู้เชี่ยวชาญการลากตั้ง มาวางกติกาการเลือกตั้ง จึงทำให้พรรคการเมืองเดือดร้อนด้วยประการฉะนี้แล

“แม่ลูกจันทร์” ขออธิบายเรื่อง “ไพรมารีโหวต” แบบสั้นๆ ง่ายๆให้ฟังกันแก้เซ็ง

“ระบบไพรมารีโหวต” คือการให้สมาชิกพรรคการเมือง มีส่วนร่วมคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส.ทั้งระบบ ส.ส.เขต และระบบบัญชีรายชื่อโดยตรง

ถ้ามองในแง่หลักการ การให้สมาชิกพรรคเป็นผู้คัดเลือกผู้สมัครของพรรคตัวเอง เป็นหลักการที่ดีแน่นอน

...

เพียงแต่กติกาไพรมารีโหวต ที่งอกขึ้นมาใหม่ มันมีความยุ่งยากซับซ้อนเกินกว่าที่พรรคการเมืองจะดำเนินการได้ครบถ้วนในเวลาสั้นๆ เพียง 90 วัน

ยุ่งยากซับซ้อนอย่างไร “แม่ลูกจันทร์” จะฉายเป็นแซมเปิล 2 ประเด็น

1, การทำไพรมารีโหวต เพื่อคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส.เขต กำหนดให้มีการจัดตั้งสาขาพรรคการเมืองแต่ละจังหวัด ซึ่งต้องมีสมาชิกไม่น้อยกว่า 500 คน

หรือต้องมีตัวแทนพรรคการเมืองในแต่ละเขตเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 100 คน ร่วมประชุมลงคะแนนคัดเลือกผู้สมัครเลือกตั้ง ส.ส.เขต ของตัวเอง

หมายความว่าพรรคการเมืองที่จะส่งผู้สมัครเลือกตั้ง ส.ส.เขตครบทั้ง 350 เขต ใน 77 จังหวัด จะต้องวิ่งหาสมาชิกพรรคให้ได้อย่างน้อย 7,700 คน

2,การทำไพรมารีโหวต คัดเลือกผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อจะต้องจัดประชุมสมาชิกพรรคจังหวัดไม่น้อยกว่า 100 คน

สมาชิก 1 คนมีสิทธิโหวตเลือกผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อไม่เกิน 15 คน

โดยกำหนดให้ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อทั้ง 150 คน ต้องมีอัตราส่วน “หญิงกับชาย” เท่าเทียมกัน

และต้องมาจากภูมิภาคต่างๆ เท่า เทียมกัน

หมายความว่านอกจากพรรค การเมืองต้องวิ่งหาสมาชิกพรรคให้ครบ 7,700 คนจนไข่ดันบวม

ยังต้องจัดบัญชีผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อหญิงกับชายให้เท่าเทียมกัน

และต้องจัดโควตาผู้สมัครจากภาคต่างๆอย่างเท่าเทียมกัน

นี่แหละ...“ไพรมารีโหวต” ที่บังคับพรรคการเมืองทุกพรรคต้องปฏิบัติให้ครบถ้วนทุกขั้นตอน

โอ้แม่เจ้า...ยากตายชักเชียวนะโยม.

“แม่ลูกจันทร์”