คสช.ย้ำเจตนาร่วมพัฒนาประเทศและพาบ้านเมืองเดินหน้าดังเช่น 4 ปีที่ผ่านมา ฝากทุกส่วนร่วมปลูกป่าตามศาสตร์พระราชา ยังเข้มสกัดยาเสพติดควบคู่สร้างชุมชนเข้มแข็ง 

เมื่อวันที่ 7 พ.ค. พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก คสช. กล่าวว่า พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท เลขาธิการ คสช. กล่าวในที่ประชุมสำนักเลขาธิการ คสช. ถึงเจตนารมณ์ในเรื่องการสนับสนุนรัฐบาลและดำเนินตามแนวทางของ คสช.ว่า เพราะกองทัพคือส่วนสำคัญที่ร่วมดำเนินการในนาม คสช. มาตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.57 ในการเข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนและนำพาบ้านเมืองเดินหน้าอย่างเรียบร้อยมาตลอด 4 ปี 

สำหรับภาพรวมการดูแลด้านความมั่นคง การจัดระเบียบสังคมรวมถึงการดูแลกลุ่มเรียกร้องต่างๆ ที่ผ่านมาเป็นไปด้วยดี สำหรับกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง อาจต้องคำนึงถึงสภาพความเป็นจริงในบริบทของการเมืองที่กำลังมุ่งสู่การเลือกตั้งภายใต้กรอบกฎหมาย และความสงบสุขของบ้านเมืองเป็นสำคัญด้วย อย่างไรก็ตามหากเป็นข้อเรียกร้องเรื่องปากท้อง หรือคุณภาพชีวิตของประชาชน รัฐบาลและ คสช.พร้อมให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกและ คสช.จะให้การดูแลอำนวยความสะดวกตามความเหมาะสมด้วย

นอกจากนี้ กกล.รส. ให้ความสำคัญกับการเร่งรัดดำเนินการตามบัญชาของหัวหน้า คสช. ที่ให้หน่วยงานด้านความมั่นคงกวดขันและเพิ่มประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการกวดขันผู้ประกอบการที่ละเมิด พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค ด้านอาหารและยาอย่างจริงจัง โดยให้ทุกส่วนงานเร่งรัดในมาตรการต่างๆ เพื่อแก้ไขหรือยุติปัญหาดังกล่าว มิให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน

ส่วนในเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชนหรือหมู่บ้านโดยการขับเคลื่อนผ่านโครงการ "ไทยนิยม ยั่งยืน" ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกส่วนกำลังลงพื้นที่ปฏิบัติงานอยู่ในขณะนี้กำชับให้ กกล.รส.ประจำพื้นที่เข้าช่วยสนับสนุนการทำงานของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ในการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดทั้งในพื้นที่ชายแดนและพื้นที่ตอนใน ควบคู่ไปกับการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน ด้วยมาตรการหรือโครงการรณรงค์ป้องกัน ส่วนการดูแลทรัพยากรธรรมชาติโดยเฉพาะป่าไม้ ซึ่ง คสช.ให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง 

...

ทั้งนี้เลขาธิการ คสช.ได้กล่าวย้อนถึงนโยบายการปลูกป่าที่มอบให้ทุกส่วนงานดำเนินตามแนวพระราชดำริและศาสตร์พระราชา โดยขอให้ยังคงดำรงการปลูกป่าในทุกพื้นที่และดำเนินการอย่างจริงจังให้เกิดเป็น “ป่าผืนใหญ่” ซึ่งจะสร้างประโยชน์อย่างมหาศาลต่อชุมชนและภูมิภาค ทั้งนี้การปลูกป่าขอให้กระทำควบคู่ไปกับการอนุรักษ์และป้องกันการทำลายป่าที่เกิดจากฝีมือมนุษย์และตามธรรมชาติ โดยเฉพาะปัญหาไฟป่าและหมอกควันตามฤดูกาลที่ภาครัฐและประชาชนร่วมกันแก้ไขมาโดยตลอด ที่ผ่านมาในช่วงปี 2560-2561 การดำเนินการเกิดประสิทธิผลเป็นอย่างยิ่ง ความเสียหายจากไฟป่าและหมอกควันลดลง ล่าสุดยังส่งผลให้ค่าฝุ่นละอองที่เกินมาตรฐานลดลงจากปี 2560 ร้อยละ 5 ได้มอบให้ทุกส่วนงานได้ร่วมกันวางแผนงานการอนุรักษ์ในระยะยาวต่อไปด้วย.