ขอให้อดทน จะช่วยเต็มที่ ยื่นมา ‘16ข้อ’ ทำไปแล้ว10

“บิ๊กตู่” โปรยยาหอมรับวันแรงงานแห่งชาติ บอกรักแรงงานทุกคน รู้ความเดือดร้อนแต่ขอให้อดทน ยินดีทำทุกเรื่อง เรียกร้องให้ได้มากที่สุดและอย่าเชื่อจะตกงานเพราะไทยแลนด์ 4.0 พร้อมสั่งสำรวจบางกิจการบีบแรงงานไทยออก หันไปจ้างต่างด้าวแทนเหตุค่าแรงต่ำกว่า ด้านผู้ใช้แรงงานยื่น 10 ข้อเรียกร้องรัฐบาล “อดุลย์” ยันเดินหน้าไปแล้วหลายเรื่อง ทั้งปรับค่าจ้างขั้นต่ำสูงสุดในรอบ 3 ปี ขยายอายุเกษียณเป็น 60 ปี ขณะที่ ครม.ไฟเขียว ก.ม.ปกป้องแรงงาน

เนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ วันที่ 1 พ.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดช่วงเช้า ภาครัฐและองค์กรด้านแรงงานต่างแยกกันจัดกิจกรรมรับวันแรงงาน เหมือนเช่นทุกปี โดยจุดสำคัญยังคงเป็นการเดินขบวนของเหล่าผู้ใช้แรงงานที่ฟากภาครัฐ เริ่มต้นจากบริเวณราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย หรือสนามม้านางเลิ้ง มี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์และถวายภัตตาหารเช้าพระสงฆ์ 9 รูป โดยมีนายพนัส ไทยล้วน ประธานสภาองค์การลูกจ้างแรงงานแห่งประเทศไทยและคณะกรรมการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติ 17 องค์กร นำผู้ใช้แรงงานร่วมพิธี ก่อนจะตั้งริ้วขบวนกระทรวงแรงงาน ริ้วขบวนเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และขบวนของผู้ใช้แรงงาน เคลื่อนออกจากสนามม้านางเลิ้งไปจัดกิจกรรมวันแรงงานแห่งชาติที่เวทีใหญ่ ลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการ กทม. ภายใต้คำขวัญ “แรงงานไทยสามัคคี สดุดีองค์ราชัน ก้าวทันเทคโนโลยี 4.0”

อีกด้านหนึ่ง เวลา 08.30 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง ผู้ใช้แรงงานกลุ่มคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) และสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจ (สรส.) ร่วมจัดกิจกรรม “วันกรรมกรสากล” ภายใต้แนวคิด “สามัคคีกรรมกร ต้านทุนนิยมครอบโลก สร้างสังคมใหม่ ประชาธิปไตยประชาชน” ภายในงานมีการสร้างสีสันด้วยการนำหุ่นยนต์จำลองมาจัดแสดงเพื่อสื่อถึงวงการอุตสาหกรรมยุค 4.0 ใช้หุ่นยนต์ทำงานแทนคน ทำให้เกิดความกังวลว่า จะทำให้เกิดปัญหาต่อผู้ใช้แรงงาน การนำผู้หญิงใส่ชุดคลุมท้อง เพื่อเรียกร้องการลาคลอดจำนวน 120 วัน โดยหลังจากมีผู้ใช้แรงงานมารวมตัวกันเป็นจำนวนมากแล้ว จึงออกเดินขบวนจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปยังทำเนียบรัฐบาล บริเวณประตู 5

...

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อขบวนของ คสรท. กับ สรส.เดินมาถึงทำเนียบรัฐบาล บริเวณประตู 5 ถนนราชดำเนินนอก ได้สวนกับกลุ่มผู้ใช้แรงงานจากกลุ่มสภาองค์การลูกจ้างแรงงานแห่งประเทศไทย ที่กำลังจะมุ่งหน้าไปลานคนเมือง กทม. โดยในกลุ่มสภาองค์การลูกจ้างฯ มีนายธราธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ และนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว มาร่วมเดินพร้อมกับถือธงระบุข้อความ “เลือกตั้งปีนี้” เป็นสีสันของขบวน ซึ่งเหตุการณ์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และทั้ง 2 คณะต่างยิ้มแย้มโบกมือทักทายกันดี

จากนั้นเมื่อขบวนของ คสรท.กับ สรส.มาถึงทำเนียบรัฐบาล บริเวณประตู 5 มีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ของผู้นำแรงงานด้วยการร่วมกันนำเท้าเหยียบไปที่มือขนาดใหญ่เพื่อสื่อถึงการไม่เอากลุ่มนายทุนสามานย์ และประกาศเจตนารมณ์ของผู้ใช้แรงงาน โดยไม่มีการยื่นหนังสือข้อเรียกร้องเพิ่มเติม เพราะเป็นข้อเรียกร้องเดิมที่เคยเสนอไปเมื่อปี 2560 โดยมีผู้แทนจากองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) มาร่วมสังเกตการณ์ด้วย ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่คอยรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกด้านจราจร

ทั้งนี้ นายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธาน คสรท. กล่าวว่า ข้อเรียกร้องกับรัฐบาลจะเป็นเรื่องเดิมที่ขอไปในปี 60 แต่ยังไม่เคยได้ปฏิบัติเลยสักข้อ แม้ว่าจะมีการปรับค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มขึ้น แต่พบว่าจำนวนที่ปรับไม่เพียงพอให้ดูแลครอบครัวได้ถึง 3 ชีวิตและไม่ทั่วถึงทุกจังหวัด นอกจากนี้ ข้อสำคัญที่ต้องการคือ ต้องให้สัตยาบันอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ฉบับที่ 87 ว่าด้วยเสรีภาพในการสมาคม และการคุ้มครองสิทธิในการรวมตัวกัน และอนุสัญญาฯ ฉบับที่ 98 ว่าด้วยการปฏิบัติตามหลักการแห่งสิทธิในการรวมตัวและการร่วมเจรจาต่อรอง รวมถึงต้องปฏิรูปรัฐวิสาหกิจให้เกิดการพัฒนาศักยภาพในการให้บริการที่ดี มีคุณภาพ ยกเลิกการแปรรูปหรือแปลงสภาพรัฐวิสาหกิจทุกรูปแบบ ปฏิรูประบบประกันสังคม ให้เป็นอิสระ โปร่งใส ตรวจสอบได้ ซึ่งหวังว่ารัฐบาลนี้จะทำให้เห็นเป็นรูปธรรม

จากนั้นในช่วงบ่าย ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงวันแรงงานประจำปี 2561 ว่าสำหรับของขวัญในวันแรงงานนั้น ในช่วงเวลาที่ผ่านมารัฐบาลได้ทำไปมาก โดยได้แก้ไขปัญหาต่างๆ เช่น การเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา แม้ตัวเลขจะน้อย แต่ก็ขึ้นได้อัตรา 5% ซึ่งสูงสุดในช่วงที่ผ่านมาที่ขึ้นได้ไม่เกิน 1-2 เปอร์เซ็นต์ เชื่อว่าอีกสักระยะทุกอย่างจะดีขึ้น ทุกภาคส่วนจะสามารถหาเงินเข้าระบบได้มากขึ้น นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ออกกฎหมายแรงงาน ให้เกษียณอายุ 60 ปี จาก 55 ปี ทั้งยังมีเรื่องการให้สิทธิผู้ประกันตนที่คืนสิทธิไปแล้ว กลับมาใช้สิทธิได้อีก โดยมีแรงงาน 770,000 คน ได้รับประโยชน์ นอกจากนี้ ยังให้บำนาญไว้ใช้จ่าย 5 ปี หลังเกษียณอายุ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทุกวันนี้มีกฎหมายหลายฉบับเพื่อคุ้มครองแรงงาน โดยทุกอย่างต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป ซึ่งเรื่องค่าแรงจะต้องหารือกัน 3 ฝ่าย ทั้งรัฐ ผู้ประกอบการ และแรงงาน จึงขอให้ ทุกคนอดทน แรงงานเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติ แรงงานถือเป็นทุนมนุษย์อย่างหนึ่ง รัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ตนรักทุกคน เข้าใจถึงปัญหาความเดือดร้อน แต่ทุกอย่างต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป เพราะเราไม่มีงบฯมากมายที่จะทำทุกอย่างในเวลาเดียวเพราะต้องคำนึงถึงการลงทุน เศรษฐกิจ และเรื่องอื่นๆ เนื่องจากวันนี้หลายประเทศต่างชักจูงนักลงทุนเข้าประเทศตัวเอง โดยเสนอสิทธิประโยชน์ต่างๆให้ และหลายประเทศค่าแรงก็ต่ำกว่าไทย ทำให้เราเกิดปัญหาพอสมควร อย่างไรก็ตาม รัฐบาลต้องหาวิธีคุ้มครองแรงงาน ให้มีหลักประกันสุขภาพที่ดีขึ้นเรื่อยๆ

จากนั้นเวลา 14.30 น. พล.อ.ประยุทธ์มาเป็นประธานเปิดงานวันแรงงานประจำปี 2561 ที่จัดโดยกระทรวงแรงงาน ที่ลานคนเมือง ซึ่งถือเป็นประธานเปิดงานต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยมีนายพนัส ไทยล้วน ประธานคณะกรรมการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติ เข้ายื่นข้อเรียกร้อง 10 ข้อต่อนายกฯ อาทิ การกำหนดให้ลูกจ้างเกษียณอายุที่ 60 ปี, ปรับฐานการรับเงินบำนาญให้มีอัตราเริ่มต้นที่ 5,000 บาทต่อเดือน, ให้รัฐบาลกำหนดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นภาคบังคับที่นายจ้างต้องจัดให้มี, ออกกฎหมายคุ้มครอง พัฒนาคุณภาพแรงงานนอกระบบและมีสิทธิจัดตั้งองค์กรได้ ฯลฯ

ทั้งนี้ นายกฯกล่าวกับผู้มาร่วมงานว่า แรงงานทุกคนเป็นพลังงานสำคัญในการพัฒนาประเทศ รัฐบาลนี้จริงจังและจริงใจแก้ปัญหา เพราะทุกคนมีความเป็นคนเหมือนกับตน เวลานี้ทำไปแล้ว 6 ข้อ เหลืออีก 4 ข้อ ต้องหารือกันต่อไป ถ้าดึงดันให้ทำตามข้อเรียกร้องทั้งหมดก็ทำไม่ได้ จะเป็นอันตรายต่อระบบแรงงานและเกิดความล้มเหลว แต่ทั้งนี้รัฐบาลยินดีทำทุกเรื่อง ทั้งการคุ้มครองทางสังคม ความมั่นคงในอาชีพ ค่าตอบแทนและรายได้ที่ต้องสูงขึ้นตามสัดส่วนที่เหมาะสม ความปลอดภัยและมาตรการทางสังคม สิทธิตามกฎหมาย รัฐบาลจะทำให้ได้มากที่สุด แต่แรงงานต้องพัฒนาตัวเองด้วย สิ่งที่รัฐบาลทำมาได้เยอะพอสมควร แต่ไม่ได้บอกว่าดีที่สุดหรือดีแล้ว แต่จะทำได้มากที่สุดกว่าห้วงที่ผ่านมา สำหรับแผนแม่บทพัฒนาแรงงานไทย 5 ปีเราเน้นสหภาพแรงงาน ความมั่นคง ความเข้มแข็ง เกียรติยศ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สร้างความสมดุลที่ดีขึ้นเรื่อยๆและได้รับการยอมรับจากสากล ชมแรงงานไทยยอดเยี่ยม

นายกฯยังกล่าวด้วยว่าได้รับการร้องเรียนว่ามีหลายกิจการบีบให้คนไทยออก และรับแรงงานต่างด้าวแทน เพราะค่าจ้างถูกกว่า ตนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องใจร้ายกันแบบนี้ เดี๋ยวจะให้ไปสำรวจทั้งหมดและขอให้แจ้งมา วันนี้ไม่ต้องกลัวตกงานกันหมดเพราะเป็นไทยแลนด์ 4.0 เพราะยังใช้แรงงานที่มีฝีมืออยู่ ส่วนเรื่องละเมิดลิขสิทธิ์ต้องปราบปรามให้ได้ ถ้าแจ้งกระทรวงและหน่วยงานแล้วไม่ทำก็แจ้งที่นายกฯจะได้สอบสวนและเล่นงานคนรับผิดชอบโดยตรง

ต่อมา พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน กล่าวว่า ได้รวบรวมข้อเรียกร้องวันแรงงานแห่งชาติ ย้อนหลังไป 3 ปี ตั้งแต่ 2558-2560 พบว่ามีทั้งหมด 16 ข้อ ดำเนินการไปแล้ว 10 ข้อ รวมทั้งการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา เป็นการปรับขึ้น 5-22 บาท คิดเป็นร้อยละ 5 สูงสุด ในรอบ 3 ปี ทำให้ค่าจ้างขั้นต่ำสูงสุดที่ 330 บาท มีการคืนสิทธิผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่สิ้นสภาพกว่า 7 แสนคน และเพิ่มสิทธิประโยชน์ต่างๆ มากขึ้น จะมีการฝึกอาชีพผู้มีรายได้น้อยอีก 6 แสนคน ส่วนข้อเรียกร้องในปี 2561 จำนวน 10 ข้อ รัฐบาลดำเนินการไปแล้วหลายข้อ อาทิ แก้ไข พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน 2541 มาตรา 118/1 ให้ลูกจ้างเกษียณอายุที่ 60 ปี ผลักดันกฎหมายพัฒนารัฐวิสาหกิจสร้างระบบธรรมาภิบาลและยุติแปรรูป ให้สถานประกอบกิจการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ม.11/1 และให้ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 74 อย่างเคร่งครัด โดยให้นายจ้าง ลูกจ้าง และรัฐบาล ร่วมกันตัดสินใจในระบบแรงงานสัมพันธ์ ส่วนที่ยังเหลือ อยู่ระหว่างศึกษาแนวทางความเป็นไปได้และอยู่ระหว่างปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า บ่ายวันเดียวกัน พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายก-รัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า ครม. มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการใช้แรงงานบังคับ มีผลบังคับใช้ภายในเดือนมิ.ย.นี้ สำหรับสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.นี้ ได้กำหนดลักษณะความผิดฐานใช้แรงงานบังคับ ได้แก่ การข่มขืนใจผู้อื่นให้ทำงานโดยไม่ได้สมัครใจ มีการข่มขู่ ขู่เข็ญว่าจะลงโทษโดยมิชอบ ใช้กำลังทำร้าย ยึดเอกสารสำคัญประจำตัวของบุคคลนั้นไว้ นำภาระหนี้ของบุคคลนั้นหรือบุคคลอื่นมาเป็นสิ่งผูกมัดโดยมิชอบ หรือด้วยวิธีอื่นใดโดยมิชอบที่ทำให้บุคคลนั้นไม่สามารถขัดขืนได้ หรือไม่ได้สมัครใจที่จะทำเอง ถ้าการกระทำแบบนั้นไม่เป็นความผิดฐานค้ามนุษย์ ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำความผิดฐานใช้แรงงานบังคับ นอกจากนี้ ยังกำหนดจัดตั้งกอง ทุนเพื่อป้องกันและปราบปรามการใช้แรงงานบังคับมาช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหาย พร้อมตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสองคณะ เพื่อกำหนดมาตรการช่วยเหลือ คุ้มครองสวัสดิการของผู้เสียหาย รวมถึงกำหนดบทลงโทษสำหรับผู้กระทำผิด โดยจะคุ้มครองผู้เสียหายที่เป็นเด็ก ผู้สูงอายุ หญิงมีครรภ์ ผู้พิการ ผู้ที่มีจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ และกรณีที่มีการกระทำให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส เป็นโรคร้ายแรงซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต