บิ๊กจิน ดึงตัว มล.ปนัดดา ช่วยงานยุติธรรม เชื่อ ปมนาฬิกาหรู "บิ๊กป้อม" ดูแลตัวเองได้ พ้อขอความเป็นธรรมให้นายกฯถูกวิจารณ์รัฐบาลขาลง ชี้ 3 ปีมีอะไรเกิดขึ้นมากมาย...

เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 14 ธ.ค.2560 ที่ห้องรับรองชั้น 2 กระทรวงยุติธรรม พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ยุติธรรม พร้อมด้วย หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล อดีต รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายวิศิษฐ์ วิศิษฐ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายวัลลภ นาคบัว ผู้อำนวยการสำนักกิจการยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม และนายสมณ์ พรหมรส ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร่วมล้อมวงคุยกับสื่อมวลชน

พล.อ.อ.ประจิน เผยว่า มาเปิดตัว หม่อมหลวงปนัดดา ที่นายกรัฐมนตรี ให้มาช่วยงานกระทรวงยุติธรรม โดยได้มอบหมายให้แลกรมพินิจเด็กและเยาวชน เพื่อให้มีการพัฒนาไปในทิศทางที่ถูกต้อง

ด้าน หม่อมหลวงปนัดดา กล่าวว่า ต้องขอบคุณท่านนายก และท่าน รมว.ยุติธรรม ที่ให้ตนมาช่วยงานเป็นหนึ่งในทีมงานหรือสตาร์ฟ ดูแลเด็กและเยาวชน โดยเช้าวันนี้ตนตระเวนดูสถานพิจนิจ 4 แห่ง อาทิ บ้านเมตตา บ้านกรุณา บ้านมุทิตา และบ้านอุเบกขา หลังจากนี้จะช่วยพัฒนาดูแลเยาวชนให้ไปในทิศทางที่ถูกต้อง

ผู้สื่อข่าวถามว่าในฐานะที่เป็นประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ(ศอตช.) จะนำเรื่องนาฬิกาหรูและแหวนเพชร ของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าที่ประชุมเพื่อตรวจสอบหรือไม่

รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้เราต้องชัดเจนว่า อะไรเป็นนโนยายอะไรเป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีสั่งการไว้ กับเรื่องทื่มีการกระแสข่าวออกมาและมีการส่งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบตามขั้นตอน เพราะฉะนั้นตนในฐานะที่มารับหน้าที่ดูแลงานด้านกระบวนการยุติธรรม เรื่องลดความเหลื่อมล้ำให้กับประชาชน เราก็ต้องไม่ลืมที่ต้องดูแลตัวเองด้วย นายกรัฐมนตรีก็เคยพูดไปแล้วว่า พล.อ.ประวิตร ก็สามารถดูแลตัวเองได้ เพราะฉะนั้นก็ต้องขอเวลาให้ท่านหน่อย และขอให้มีความชัดเจนกว่านี้อีกหน่อย จากนั้นค่อยว่ากัน

...

ผู้สื่อข่าวถามว่าหลายฝ่ายออกมาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องเวลานี้เป็นช่วงขาลงของรัฐบาล พล.อ.อ.ประจิน ตอบว่า กรณีนี้ต้องกลับไปดูข้อเท็จจริง การที่เราได้รับประเด็นมาจากคนที่เริ่มต้นข่าว เป็นสิ่งที่เป็นธรรมกับนายกรัฐมนตรีแล้วหรือไม่ ตลอด 3 ปีนายกรัฐมนตรีทุ่มเททำงานเต็มที่ มีหลายเรื่องที่เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น เช่น การค้าการลงทุน การท่องเที่ยว การเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติให้ไทยเป็นเมืองที่น่าลงทุน รวมทั้งเศรษฐกิจในภาพรวมดีขึ้น แรกเริ่มที่เข้ามาในช่วงปี 2557  จีดีพีอยู่ที่ 2.1-2.2 แต่ตอนนี้ 3.8-3.9 การส่งออกที่เคยติดลบก็กลับกลายเป็นบวก ทั้งหมดเกิดขึ้นในช่วง 3 ปีที่รัฐบาลนี้ทำงาน หลายสิ่งได้บังเกิดให้เห็น และอีกหลายเรื่องที่เริ่มต้นให้ด้วยดี อาทิ โครงการโครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคม ระบบน้ำ ไฟ ระบบไอซีทีดิจิตอลก็ได้เริ่มให้แล้ว

"จึงอยากให้พี่น้องสื่อมวลชนให้ความเป็นธรรมกับนายกรัฐมนตรี นำเสนอเรื่องราวที่ถูกที่ผิดอย่างชัดเจน ไม่ให้คนในสังคมหลงประเด็นและในปีหน้า ปี 2561 จะมีอีกหลายโครงการตามมา และจะเป็นปีแห่งการเริ่มต้นปฏิรูป ลดความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ ให้เกิดผลสัมฤทธิ์มากที่สุด โดยให้การบ้านไปให้ทุกกระทรวงทำแผนงาน ว่ามีโครงการอะไรบ้าง และจะเกิดประโยชน์อะไรกับประชาชนบ้างตอนนี้กลายเป็นว่าคนนอกมองเราชัดเจน แต่คนในบางส่วนเท่านั้นที่มองเราไม่ชัดเจน แต่เชื่อว่าคนส่วนใหญ่จะเข้าใจรัฐบาล มีหลายคน หลายกลุ่มที่ส่งกำลังใจมาให้รัฐบาล" รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ยุติธรรม กล่าว.