"บิ๊กป้อม" นั่งหัวโต๊ะถก คกก.ขับเคลื่อน-ปฏิรูป นำศาสตร์พระราชาขับเคลื่อนปฏิรูป เร่งแก้ปัญหา "ไอยูยู-ค้ามนุษย์" วางเป้าปี 61 พ้นใบเหลือง ลุ้นผลไอเคโอชี้ชะตาปลดธงแดงไทย ต.ค.นี้

เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 60 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 ว่าด้วยด้านความมั่นคง ลดความเหลื่อมล้ำการเกษตร ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ต่อมา ภายหลังการประชุม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงว่า เป็นการประชุมขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ เพื่อสืบสานน้อมนำศาสตร์พระราชามาเป็นแนวทางดำเนินการ ตามข้อเสนอของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) โดย พล.อ.ประวิตร สั่งการให้อนุกรรมการทุกชุด ร่วมกันขับเคลื่อนงานด้วยการสืบสานศาสตร์พระราชามาเป็นแนวทางการดำเนินงาน ทั้งด้านปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เกษตรทฤษฎีใหม่ หลักการเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา และหลักการทรงงานต่างๆ เน้นการสืบสาน รักษา ต่อยอด เพื่อสร้างสุขให้ประชาชนโดยยึดหัวใจของศาสตร์พระราชา คือการประพฤติตน ครองตน อยู่ร่วมกันด้วยการช่วยกัน และแก้ปัญหาให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของสังคมไทย มีความสุขบนความพอเพียง

พล.ท.คงชีพ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังได้รายงานความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย หรือ ไอยูยู และการแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์ โดยติดตามสถานะเรือประมงตามข้อเสนอของสหภาพยุโรป (อียู) ดำเนินการไปแล้ว 50 เปอร์เซ็นต์ จากจำนวนเรือ 2,300 ลำ ซึ่งการแก้ไขปัญหาประมงผิดกฎหมายถือเป็นวาระแห่งชาติ ต้องดำเนินการให้พ้นจากใบเหลืองของอียูให้ได้ในเดือน มี.ค. 61 ส่วนการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ไทยจะต้องให้พ้นจากการจัดอันดับของสหรัฐฯ ในเทียร์ 2 ให้ได้ในปีหน้า ซึ่งเราไม่ได้ทำเอาใจอียู หรือสหรัฐฯ แต่ทำเพื่อความถูกต้องตามกฎหมายและสิทธิมนุษยชน เพราะละเลยมานาน ซึ่ง พล.อ.ประวิตร เน้นย้ำหากดำเนินการล่าช้า ถือว่าบกพร่องต้องรับผิดชอบ เริ่มจากกรมประมง ต้องตรวจสอบให้เสร็จในเดือน พ.ย.นี้ กรมเจ้าท่าต้องตรวจสอบเรือที่ขออนุญาตเข้าเขตน่านน้ำไทยทุกลำตลอด 24 ชั่วโมง ลำใดมีพฤติกรรมน่าสงสัยต้องห้ามเข้าต้องตรวจสอบเป็นพิเศษ ห้ามปล่อยปละละเลย และให้อัยการสูงสุดเร่งรัดคดีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง และสั่งการให้กรมการจัดหางาน จัดทำประวัติลูกเรือให้แล้วเสร็จภายในเดือน มี.ค. 61 และให้นายจ้างจ่ายเงินลูกเรือโดยเร็วที่สุด โดยรัฐจะประสานธนาคารให้ลดค่าธรรมเนียมสำหรับลูกเรือ พร้อมติดตั้งตู้เอทีเอ็มบนท่าเรือด้วย

...

ด้าน พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก แถลงว่า จากเมื่อวันที่ 20-27 ก.ย. ตัวแทนองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอเคโอ) ได้ส่งคณะกรรมการมาตรวจสอบการแก้ปัญหาของไทย ซึ่งคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือนของไทย ได้ชี้แจงความคืบหน้าการออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ (เอโอซี) ว่า มีสายการบินที่ผ่านการรับรอง จำนวน 10 สายการบิน และได้ตรวจสอบสถานีหลัก และตรวจสอบภาคอากาศ เสร็จแล้ว 5 สายการบิน และอยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสารหลักฐาน 6 สายการบิน ซึ่งการแก้ปัญหาทั้งหมดยังทำอยู่อย่างต่อเนื่องตามขั้นตอน เพื่อเตรียมความพร้อมในการยื่นขอปลดธงแดงของไทย ส่วนผลการตรวจสอบการแก้ไขข้อบกพร่องที่เป็นนัยสำคัญต่อความปลอดภัยทางด้านการบินพลเรือนของประเทศไทย อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการของไอเคโอ ที่จะแจ้งผลภายในเวลา 30 วัน คาดว่าจะทราบผลภายในเดือน ต.ค.นี้ว่า ไทยจะผ่านมาตรฐานการบินของไอเคโอหรือไม่