นายกฯ ปัด รบ.ขึ้นภาษีเหล้า-บุหรี่ ปะตูดขาด ไม่หวังรีดนาทาเร้น ปชช.ชี้ปมทุจริตขอให้ว่าด้วยหลักฐาน ถามด่าไม่มีเหตุผล จะปรองดองได้เมื่อไหร่ บอกสวดมนต์ทุกวันให้ประเทศปลอดภัย ไม่ได้ขออยู่ต่อเพื่อสืบทอดอำนาจ ย้ำแก้ปัญหาไม่ได้ถ้าคนในชาติยังขัดแย้ง

เมื่อวันที่ 18 ก.ย.60 ที่บริเวณลานหน้าวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ต.รั้วใหญ่ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะ ได้พบปะและกล่าวกับข้าราชการ ประชาชน ที่มาต้อนรับในการลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.สุพรรณบุรี ตอนหนึ่งว่า ยืนยันรัฐบาลไม่ได้ทำงานเพื่อประโยชน์ให้คนรวยหรือคนจน สิ่งที่รัฐบาลทำคือทำให้เกิดความเท่าเทียม เข้าถึงข่าวสารราชการ

"รัฐบาลจัดเก็บรายได้มีจำกัด ขออย่าหนี เลี่ยง หรือโกงภาษี ผมพยายามทำทุกอย่างไล่บี้ทุกวัน แก้ปัญหาการจัดเก็บภาษีให้ได้ครบตามเป้า การปรับขึ้นภาษีใหม่ไม่ได้หวังรีดนาทาเร้นใคร ไม่ว่าจะสูบบุหรี่หรือกินเหล้า ถึงอย่างไรคนก็กิน แต่พอขึ้นภาษีก็บอกว่ารัฐบาลตูดขาด" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวและระบุต่อว่า ซึ่งจริงๆ แล้วการปรับขึ้นภาษีคิดมากี่รัฐบาลแล้ว เคยทำได้หรือไม่ หากไม่ทำวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร หลายเรื่องที่รัฐบาลนี้ทำได้ โดยที่ทุกรัฐบาลทำไม่ได้ เพราะกลัวเสียคะแนน แต่ผมไม่เคยกลัวเสียคะแนน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ก็ต้องพยายามเก็บภาษีให้ได้ แต่ไม่ใช่เป็นการไปรีดภาษี เพียงต้องการมีเงินพัฒนาพื้นที่ให้มากขึ้น เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงาน พอได้แล้ว สิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีตเป็นตัวชี้วัด ที่จะทำให้ประเทศไทยดีขึ้นอย่างไร อย่าคิดแบบเดิม ความไม่ทั่วถึงความไม่เป็นธรรม ซึ่งมีคนใช้วาทกรรมเหล่านี้อยู่แล้ว รวมถึงเรื่องการทุจริตตนยืนยันทุกครั้งว่าให้หาและฟ้องมา พร้อมจะสอบสวนให้ทุกเรื่อง รัฐบาลอยู่ระดับนโยบาย ข้างล่างเป็นคนทำงาน ทุกคนต้องระวังตัวเอง ไม่ใช่โยนมาแต่ข้างบน เพราะข้างบนแต่ละวันมีเรื่องให้ทำมหาศาล ทั้งของเก่าและของใหม่ตรวจสอบกันทุกวัน เป็นเหตุให้ตนพูดเยอะหน้าตาถึงเป็นแบบนี้ หน้าตาเป็นคนขี้โมโห แต่ถ้าอยากอยู่สบายก็ให้หมด

...

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า 3 ปี ที่ผ่านมา สิ่งที่ท่านเห็นบ้านเมืองสงบหรือไม่ มีประท้วงหรือไม่ แล้วอยากให้มีหรือไม่ ถ้าอยากให้มีก็ไปหาคนอื่นมาให้มี แต่ตนไม่ให้มี วันหน้าและทุกรัฐบาลก็ต้องไม่ให้เกิดเรื่องเหล่านี้ ต้องรับฟังเรื่องของประชาชนเพื่อนำมาแก้ไข วันนี้มีแต่พูดกันไปมา กล่าวหาว่ามีโครงการทุจริต ให้หาหลักฐานมา เราต้องพูดด้วยหลักฐาน โลกกำลังเปลี่ยนแปลงด้วยเทคโนโลยี คอมเมนต์ กดไลค์กันเยอะแยะ ถ้าสร้างสรรค์ตนไม่ว่า แต่ถ้าด่ากันไปมาขอถามว่าแบบนี้จะปรองดองได้หรือไม่ ด่าแบบไม่มีเหตุผล ตนโกรธเขาไม่ได้เพราะเขายังไม่เรียนรู้ ไม่ได้ดูถูกนะ เพียงแต่เขาไม่เรียนรู้ว่าเขาอยู่อย่างไร

"พูดไม่มีเลือกตั้งกันอยู่นั่น มันเสียเวลาหรือไม่ ทำไมไม่เอาวิกฤติที่ผมมา ซึ่งผมถือเป็นวิกฤติของครอบครัวผม แต่ผมไม่เคยนึก เพราะเห็นพวกท่านเป็นอย่างนี้มานานแล้ว ตั้งแต่เป็นทหาร หลายคนเป็นทหารเป็นนักการเมือง และเป็นข้าราชการ อยู่กับสถานการณ์แบบนี้มาตลอดชีวิต จนเกษียณ จนตาย ก็ยังเป็นแบบเดิม เราต้องการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงจะเกิดจากคนทั้งประเทศ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ตนไม่ร้อนแดด ไม่รู้สึก แต่ตนร้อนใจ เพราะการเป็นรัฐบาลบางทีก็ร้อนใจหลายเรื่อง ที่ต้องทำงานให้สำเร็จ ซึ่งใจตนดีกับทุกคน แม้บางทีพูดจาไม่เข้าหูบ้าง รัฐบาลต้องแบกรับทุกข์ประชาชนทั้งหมดเพื่อแก้ไขให้ได้ เมื่อเช้าตนกราบหลวงพ่อโตวัดป่าเลไลยก์และฟังหลวงพ่อสอนให้มีสติ สมาธิ อดทนในการทำงานใจเย็นๆ ปล่อยวาง อย่าไปแบกรับปัญหาไว้ทั้งหมด จะทำอะไรให้นับหนึ่งหายใจเข้า หายใจออก จะได้เอาออกซิเจนไปช่วยสมองผ่อนคลายความเครียด ตนสัญญาหลวงพ่อจะนับถึงสิบ แต่นับถึงสามก็หยุดเพราะโมโหก่อนทุกที พยายามทำมาสัปดาห์กว่าแล้ว นับ 4 7 8 ซึ่งไม่ได้บอกหวยนะ อย่าไปซื้อหวย ไม่ถูกมาด่าตนอีก ไม่มีใครล็อกได้ แต่ก็รับปากหลวงพ่อว่า จะพยายามทำเต็มที่ แต่ปัญหาเยอะจริงๆ ในเวลาที่รัฐบาลมีอยู่

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่าในวีดิทัศน์ที่เด็กๆ พูด มีใครสอนให้พูดหรือเปล่า ซึ่งต้องพูดจากใจเหมือนที่นายกฯ พูดจากใจ ที่ถึงพูดแล้วคนเกลียดตนก็ยอมเพื่อให้ทุกคนเรียนรู้ ทุกคนที่มาวันนี้ล้วนแต่ทำงานหนัก แม้เศรษฐกิจยังไม่ดี แต่รักษาสถานภาพไว้ได้จนถึงวันนี้ตนว่าก็ใช้ได้แล้ว เดี๋ยวก็ดีขึ้น วันนี้ต้องมองให้ไกลตัวที่ผ่านมาเอาเงินมาได้อย่างไร จากไหน มีใครเอาเงินมาใช้มากกว่าปกติ วันนี้ทำไมเงินส่วนหนึ่งหายไป ซึ่งเงินที่เหลือนี้คือเงินสุจริต นี้คือข้อเท็จจริง ไม่ได้มีกลไก หรือเอื้อประโยชน์ใคร ตามวาทกรรมที่พูดๆ กันทั้งหมด อย่างนี้ดีขึ้นหรือไม่ บ้านเมืองสงบขึ้นไหม ประชาชนเป็นผู้กำหนดชะตาประเทศ ถ้ายังสับสนอลหม่าน มีผู้มีอิทธิพล ทำมาหากินผิดบ้างถูกบ้าง ก็กลับไปวุ่นวายเหมือนเดิม และวันข้างหน้าถ้าได้คนดีเข้ามาก็ดีไป

"ส่วนเรื่องสวดมนต์ หลวงพ่อบอกให้ผมสวดมนต์ทุกวัน ผมสวดมนต์ทุกวันอยู่แล้ว ไม่ได้สวดให้ตัวเอง แต่สวดให้ประเทศไทยปลอดภัย ให้ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ คงอยู่ ให้คนไทยทั้งประเทศมีความสุข ไหว้พระทุกทีก็ขออย่างนี้ ไม่ได้ขอให้เป็นนายกฯ ต่อไปอีกนานๆ อย่างที่คนพูดกันว่า สืบทอดอำนาจ อยากอยู่ ผมอยากทำงานให้สำเร็จ ขอให้การทำงานทุกอย่างไม่มีอุปสรรค หรือมีก็ให้น้อยลง แก้ปัญหาได้ ให้ประชาชนรักสามัคคีกัน อย่าขัดแย้งกัน ถึงจะแก้ทุกปัญหาได้ ไม่มีอะไรแก้ได้หากมีความขัดแย้งกัน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว