นายกฯ ชี้ต้องรู้ถึงแก่นแท้ก่อนปฏิบัติ ยกตัวอย่าง "การเข้าแถว" เป็นพื้นฐานการปกครองระบบประชาธิปไตย ปลุกเยาวชนมีส่วนร่วมกำหนดแนวทางพัฒนาประเทศ ให้เคารพกฎหมาย อย่ายึด รธน.เพียงอย่างเดียว
เมื่อวันที่ 1 ก.ย.60 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการ "ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน" ว่า การจะปฏิบัติหรือทำอะไร ควรค้นหาแก่นแท้ หรือความหมายที่แท้จริงให้พบ เหมือนที่ตนเคยบอกกับสื่อมวลชนว่า การนำเสนอข่าวไม่ควรเสนอในลักษณะการประชาสัมพันธ์ ซึ่งอาจจะเป็นเพียง กระพี้ หรือเป็นเพียง เปลือกนอก แต่อยากให้นำเสนอสาระแก่นสารของงานด้วย ซึ่งเป็นข้อมูลข่าวสารที่เป็น "สาธารณประโยชน์" อย่างแท้จริง ตนขอยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น "การเข้าแถว" ที่สอนอะไรหลายอย่าง เช่น การรู้จักรอคอย ไม่ใจร้อน ไม่แก่งแย่ง หรือหาทางเอาเปรียบผู้อื่นหรือถืออภิสิทธิ์ ทุกคนเท่าเทียมกัน การไม่ละเมิดสิทธิ์ผู้อื่น ซึ่งเป็นการรักษาสิทธิส่วนบุคคลด้วย การเคารพกติกาสังคม ที่จะนำไปสู่การเคร่งครัดปฏิบัติในกรอบของกฎหมาย รวมทั้งไม่ยอมให้ใครละเมิดกฎหมายด้วยถือว่า "ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย" เป็นต้น โดยสรุปว่า "การเข้าแถว" เป็นพื้นฐานที่สำคัญของ "การปกครองในระบอบประชาธิปไตย" ซึ่งหากเราต้องการให้ "ดอกไม้แห่งประชาธิปไตย" ของเราเบ่งบาน งดงาม ในอนาคต เราต้องปลูกฝังจิตสำนึกเหล่านี้ ด้วยการให้เหตุและผลอย่างลึกซึ้งแก่ลูกหลานไทย ทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน แล้วเยาวชนของชาติทุกคนก็จะเป็นผู้ที่มีเหตุผล และพร้อมที่จะรับฟังความเห็นต่างหรือเหตุผลของผู้อื่น อันเป็นวิถีทางของประชาธิปไตยโดยเนื้อแท้
ทั้งนี้ การวางแผนเพื่ออนาคตจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญ กับ "เยาวชนของชาติ" ที่เปรียบเสมือนกับ "การปลูกต้นไม้" หากเราต้องการ "ต้นไม้ประชาธิปไตย" ก็ต้องเพาะเมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตยในจิตใจของลูกหลานของเรา อย่างเป็นระบบตั้งแต่ปัจจุบัน วันนี้รัฐบาลได้ผลักดัน พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชน ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2560 ที่กำหนดให้มี "สภาเด็กและเยาวชน" ในทุกระดับ เทศบาลตำบล, อำเภอ และจังหวัด เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชน ได้มีส่วนร่วมในการกำหนดแนวทางและเสนอแนะในการพัฒนาประเทศ โดยการปลูกฝัง "จิตวิญญาณประชาธิปไตย" ผ่านกิจกรรมกลุ่มเชิงสร้างสรรค์ และกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ รวมถึงส่งเสริมการเคารพกฎหมายด้วย ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายเล็ก กฎหมายน้อย หรือกฎหมายใหญ่ใดๆ ก็ตาม อย่าไปดูเฉพาะรัฐธรรมนูญแต่เพียงอย่างเดียว จะทำให้สังคมเกิดความสับสนอลหม่าน
...
ในโอกาสนี้ ขอเชิญชวนให้เด็กและเยาวชนไทย ไปประชุมร่วมกัน ณ เทศบาลตำบล, อำเภอ และจังหวัด ที่ท่านมีชื่อในทะเบียนบ้าน เพื่อคัดเลือก "คณะบริหารสภาเด็กและเยาวชน" ประจำท้องถิ่น ทั้งนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งของการวางโครงสร้างทางสังคมใหม่ ที่มั่นคงกว่าเดิม โดยเป็นกลไกที่เชื่อมโยง และเป็นประโยชน์กับการทำงานของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ และคณะกรรมการปฏิรูปประเทศแต่ละด้าน