นายประสาร มฤคพิทักษ์ อดีต สปช.และแกนนำกลุ่ม 40 สว. ตอกย้ำ ยิ่งลักษณ์ สิ้นมนต์ขลัง ชี้ชัดต่อไปไม่รู้จะเอาอะไรไปปลุกเร้า พลังสู้รบของคนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทย หลัง 25 ส.ค.ตัดสินใจหนี ไม่มาฟังคำตัดสินศาล
นายประสาร มฤคพิทักษ์ อดีต สปช.และแกนนำกลุ่ม 40 สว. กล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หนีศาลไม่มาฟังคำพิพากษาตามนัดหมาย เมื่อ 25 ส.ค.60 จะมีผลอย่างสำคัญคือ 1.คุณบุญทรง เตริยาภิรมย์ และพวก ซึ่งรู้สึกชอกช้ำที่เป็นหนังหน้าไฟตลอดมา ซ้ำถูกลวงให้อยู่สู้เคียงข้างนาย ขณะนี้พวกเขาอยู่ในสภาพยากนักที่จะได้รับการประกันตัว เพราะคนเป็นนายยังหนี แล้วคนเป็นบริวารจะเชื่อถือได้อย่างไร
2.ที่ลือกันว่า สองอดีตนายกฯ ผนวกกับข้าเก่าจะไปตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น หรือจะอาศัยเงื่อนไขครั้งนี้ไปเคลื่อนไหวทางสากลว่า คุณยิ่งลักษณ์ถูกรังแก ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรมไทยนั้น จะไม่มีใครเชื่อ เพราะทุจริตจำนำข้าวมีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่เผยแพร่ไปทั่วโลก คดีที่ศาลตัดสินจำคุกบุญทรงกับพวก เมื่อ 25 ส.ค.60 นั้น ไม่เหลือพื้นที่แห่งหลักฐานใดๆ ที่จำเลยจะนำมาใช้ต่อสู้ทางคดีได้ โกงก็คือโกง จะเปลี่ยนโกงเป็นสุจริตไม่ได้ คำตอบของบุญทรงที่พูดกับสุรนันทน์ เวชชาชีวะ ว่า "กูพูดไม่ได้" นั้น คือการสารภาพโดยนัยว่าโกงใช่หรือไม่ คุณยิ่งลักษณ์รู้ว่าศาลจะตัดสินเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ มีแต่จำคุกสถานเดียว และสิทธิในการอุทธรณ์ก็ยังสุ่มเสี่ยง เพราะ พ.ร.บ.พิจารณาวิธีความอาญาฯ ฉบับใหม่ที่ให้สิทธิอุทธรณ์ยังไม่ประกาศใช้ หนีคุกจึงเป็นทางเลือก
3.การหนีศาลครั้งนี้ เป็นปรากฏการณ์สั่นสะเทือนสถานะของพรรคเพื่อไทยอย่างรุนแรง ก่อนหน้านี้คนของพรรคเพื่อไทยพากันยกย่องเชิดชูให้คุณยิ่งลักษณ์เปรียบเหมือนวีรสตรีแห่งประชาธิปไตย ที่ยืนหยัดต่อสู้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างทรนงองอาจ เทียบได้กับ อองซาน ซูจี แห่งเมียนมา แต่วันนี้กลับมาตระบัดสัตย์หนีศาลอย่างสิ้นศักดิ์ศรี ทำให้วิมานแห่งความศรัทธาสลายสิ้น พี่ชายเป็นนักโทษหนีอาญาแผ่นดินไปคนหนึ่งแล้ว น้องสาวก้าวเดินตามรอยเท้าพี่ชายไปอย่างหมดรูป ต่อแต่นี้จะเอาน้ำยาอะไรไปปลุกเร้าพลังสู้รบของคนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทย ในเมื่อนายใหญ่คนที่สอง หมดมนต์ขลังแห่งความน่าเชื่อถืออย่างนี้.
...