คาดนายกฯ จะตีกลับโครงการไปให้คมนาคมพิจารณาใหม่ ยื้อต่ออายุให้รัฐบาลมีเสถียรภาพที่นานขึ้น เตะถ่วงโยนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปศึกษา...

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในการตัดสินใจกรณีโครงการรถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คันที่จะมีการพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)วันที่ 3 มิถุนายนนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้โทรศัพท์สอบถามสถานการณ์กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีและผู้ใกล้ชิด โดยนายกฯได้รับทราบถึงท่าทีของแกนนำพรรคภูมิใจไทยเกี่ยวกับกรณีดัง กล่าวแล้ว

ทั้งนี้นายกฯ ได้ยืนยันว่า จะให้โครงการนี้ผ่านครม.ไม่ได้ ถ้าให้โครงการนี้ผ่าน รัฐบาลก็จบ อย่างไรก็ตาม แผนที่นายกฯ ได้วางเอาไว้เบื้องต้นก็คือ จะตีกลับโครงการนี้ไปให้พิจารณาใหม่ โดยครั้งนี้จะมีการเสนอให้มีการศึกษาข้อมูลระหว่างการให้เอกชนเปิดประมูลและ มีการเสียค่าเช่าในรูปแบบเดิมกับการที่รัฐจะเอาโครงการนี้มาลงทุนเอง ซึ่งจะทำให้สามารถลดขนาดของโครงการลงได้และไม่ต้องจ่ายค่าซ่อม ค่าบำรุงรักษาที่มีราคาค่อนข้างสูงคนเป็นที่ครหาเหมือนรูปแบบเดิม

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การตีกลับโครงการดังกล่าวนั้นนายกฯ เชื่อว่าจะทำให้เสถียรภาพของ รัฐบาลทอดเวลาออกไปได้นานขึ้น เนื่องจากเมื่อศึกษาแนวทางให้รัฐลงทุนเองก็จะต้องให้สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันศึกษาโดยใช้เวลาอีกหลายเดือนกว่าจะแล้วเสร็จ นอกจากนั้นยังอ้างเหตุผลได้ว่า ไม่ได้พับโครงการตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอมาด้วย

ล่าสุดหลังจากที่นายกฯ เดินทางกลับถึงประเทศไทยเมื่อตอนค่ำวันที่่ 2 มิถุนายนนั้น ได้ตัดสินใจหักดิบไม่หยิบยกโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน ขึ้นมาพิจารณาในการประชุมครม.วันที่ 3 มิถุนายนแม้ว่า จะบรรจุเป็นวาระเพื่อทราบก็ตาม ซึ่งถือเป็นอำนาจของนายกฯในสถานะประธานการประชุมที่สามารถจะหยิบยกวาระใดขึ้นมาพิจารณาหรือไม่พิจารณาก็ได้ แต่หากถูกรัฐมนตรีเจ้าของเรื่องทวงถามกลางที่ประชุมขึ้นมานายกฯ ก็จะใช้แผนยืดเวลาให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษาตามแผนที่เตรีวมเอาไว้ข้างต้น

...