เสี่ยอู่รถเมืองคอนดีใจ ได้ลูกสาวคืนแล้ว หลังสาวนิรนามขับกระบะมาปล่อยทิ้งไว้บ้านพี่ชายเมีย ขณะที่ภรรยายังหายไร้ร่องรอย พบลูกสาวยังอยู่ในอาการผวา กอดแน่นไม่ยอมห่าง และร้องเรียกแม่ตลอดเวลา ...

จากกรณีที่นายนริศ เกสรินทร์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 654 หมู่ที่ 1 ต.ชะมาย อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เสี่ยเจ้าของอู่ซ่อมรถรายใหญ่ อ.ทุ่งสง เข้าร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าวให้ช่วยเป็นสื่อกลางประกาศตามหา น.ส.สุนิสา ศรีวิมาน และ ด.ญ.นริศรา เกสรินทร์ อายุ 4 ขวบ ภรรยาและลูกสาวที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยหลังจากที่ภรรยาบอกว่าพาลูกสาวไปหายายที่ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ตั้งแต่วันที่ 10 มิย.นี้

แต่เมื่อสอบถามไปที่แม่ยาย ปรากฏว่าทั้งภรรยาและลูกสาวไม่ได้ไปที่บ้านดังกล่าว และหายไปไม่สามารถติดต่อได้จึงได้ไปแจ้งความคนหายที่ สภ.ทุ่งสง ลงบันทึกประจำวันเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.นี้ เพราะกลัวว่าภรรยาและลูกสาวจะได้รับอันตรายได้จึงให้สื่อช่วยเป็นสื่อกลางให้ประกาศหาให้ขณะที่มีเรื่องแปลกเกิดขึ้น เมื่อตรวจพบมีเงินโอนเข้าบัญชีที่ตนเองเปิดร่วมกับภรรยากันไว้ถึง 50,000 บาท และถูกถอนออกไปแล้ว 13,000 บาท จากตู้เอทีเอ็มหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขาตลาดหัวอิฐ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งภายหลังได้ขอให้ทางธนาคารตรวจสอบกล้องวงจรปิด แต่ติดปัญหา ต้องประสานงานสำนักใหญ่ก่อน และต้องใช้เวลาถึง 10 วัน กว่าจะทราบผล ทำให้ นายนริส เกิดความกังวลใจเป็นอย่างมากตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

...

ความคืบหน้าเรื่องนี้ วันที่ 1 ก.ค.นี้ว่า นายนริส ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ตนได้เจอตัวลูกสาวแล้ว โดยช่วงคืนที่ผ่านมา ได้มีรถยนต์กระบะไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน นำลูกสาวมาทิ้งให้กับ นายเอก ซึ่งเป็นพี่ชายของ น.ส.สุนิสา ภรรยา ที่บ้าน ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยคนที่นำลูกสาวมาทิ้งไว้เป็นผู้หญิง หลังจากที่ทิ้งลูกสาวไว้แล้ว ได้ออกรถหนีไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นพี่ชายภรรยา ได้พาลูกไปที่บ้านแม่ยาย และแจ้งให้ตนทราบ ตนจึงรีบเดินทางไปรับลูกตั้งแต่เมื่อคืน และไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานกับ ตำรวจ สภ.ท่าศาลา

นายนริส กล่าวต่ออีกว่า ทันทีที่ลูกสาวพบตน ลูกสาวได้เข้ามากอด ร้องไห้ กอดตนไว้ไม่ยอมปล่อย และมีท่าทีที่หวาดผวา และร้องเรียกหาแม่ตลอดเวลา ต้องคอยปลอบประโลมให้หายจากการหวาดกลัว ซึ่งตนพยายามที่จะสอบถามลูกสาว แต่ลูกสาวยังมีอาการสับสน หวาดกลัว จึงยังไม่อยากเค้นถาม ซึ่งวันนี้ตนจะได้ไปแจ้งให้ตำรวจ สภ.ทุ่งสง ทราบว่า ตอนนี้ได้ลูกสาวกลับมาแล้ว ส่วนภรรยานั้นยังไม่ทราบชะตากรรมว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่

ขณะเดียวกันทางด้าน ร.ต.อ.สุรินทร์ ช่วยแก้ว เจ้าของคดีเปิดเผยว่า หากตำรวจพบเบาะแสว่า น.ส.สุนิสา ภรรยาของนายนริส อยู่ที่บ้านของผู้ใดนั้น ตำรวจสามารถเอาผิดกับเจ้าของบ้านได้ ในข้อหาร่วมกันสมคบจับตัวไปกักขังหน่วงเหนี่ยว ทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพได้

ขณะเดียวกันนายนริส กล่าวยืนยันว่า ไม่เคยมีคู่อริหรือศัตรูแต่อย่างใด เพราะทำอาชีพสุจริตมาโดยตลอด ขณะที่ภรรยา ทำหน้าที่เป็นแม่บ้าน และทำหน้าที่คอยต้อนรับลูกค้า ที่มาติดต่อซ่อมรถที่อู่เท่านั้น ส่วนในแง่ชู้สาว อาจเป็นไปได้ว่า คนร้ายที่มาเป็นลูกค้า อาจจะมาชอบภรรยา โดยที่ภรรยาไม่รู้ตัว พอสบโอกาสจึงลักพาตัวไป หลังจากได้ตัวลูกสาวมาแล้ว ตนก็จะเร่งสืบหาตัวภรรยาต่อไป และจะติดตามตรวจสอบการที่เงินเข้ามาในบัญชีว่าเป็นเงินมาจากไหน และใครเป็นคนไปกดเงินกันแน่.