รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นำทีมลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงน้ำทะเลบริเวณหาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ระบุเนื่องจากปรากฏการณ์ "ส่าหร่ายบลูม" ส่วนหนึ่งเกิดจากสารอินทรีย์น้ำทิ้งของชุมชนในส่วนที่ไม่เข้าระบบบำบัดน้ำเสีย ซึ่งมีสภาวะ อุณหภูมิ และแสงแดดที่เหมาะสม เร่งดำเนินการแก้ไข พร้อมกำหนดมาตรการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง
จากกรณีเมื่อวันที่ 15 เม.ย.2559 เฟซบุ๊ก Tiar Tarnsiriroj ได้แชร์คลิปจากโดรนบังคับของเพจ "ร่วมด้วยช่วยกัน ภูเก็ต" ความยาว 41 วินาที โดยเป็นภาพถ่ายจากมุมสูงบริเวณชายหาดป่าตอง เริ่มตั้งแต่บริเวณปากคลองปากบาง ถ.ทวีวงศ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เรื่อยไปตามแนวชายหาดป่าตอง จากนั้นโดรนได้ยกตัวสูงขึ้น เพื่อให้เห็นมุมกว้างของอ่าวป่าตองที่มีน้ำทะเลเป็นสีน้ำตาลเข้มแตกต่างจากน้ำทะเลสีฟ้าบริเวณทะเลรอบด้าน โดยมีการเขียนตัวหนังสือประกอบไว้ใน ภาพระบุ "น้ำจากโรงบำบัดไหลมาลงทะเลทางนี้" โดยโดรนได้บินเริ่มอีกครั้งบริเวณเนินสูงทางไปหาดไตรตรัง ถ.หมื่นเงิน ต.ป่าตอง อ.กะทู้ เพื่อให้เห็นภาพมุมกว้าง และไกลของอ่าวป่าตองที่มีการเปลี่ยนสภาพจากน้ำทะเลสีฟ้าเป็นสีน้ำตาลเข้มบางส่วน จนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
จากนั้นมีการเขียนตัวหนังสือประกอบไว้ที่ภาพ ระบุ "ย้อนขึ้นไปหาโรงบำบัด" ซึ่งเป็นภาพเส้นทาง หรือลำคลองของคลองปากบางที่เชื่อมต่อจากในตัวเมืองป่าตองสู่อ่าวป่าตอง โดยน้ำในลำคลองเป็นสีน้ำตาลเข้มเช่นเดียวกันกับชายหาดป่าตองบริเวณแนวปากคลองปากบางเป็นวงกว้าง พร้อมกับมีการระบุข้อความไว้ว่า "ถ่ายมาให้ดูน้ำที่ออกจากโรงบำบัดน้ำเสีย แล้วไหลตามคลองมาลงทะเล" ทำให้มีผู้คนในสังคมโซเชียลฯ ต่างพากันแชร์คลิปดังกล่าวกันออกไปเป็นวงกว้าง พร้อมกับมีการตั้งข้อสงสัย เช่น ตกลงเป็นน้ำเสีย หรือแพลงก์ตอนบลูมกันแน่ ถ้าเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ทำไมไม่ไปเกิดบริเวณหาดกะหลิม หรือทะเลบริเวณอื่นๆ แต่กลับมาโผล่แต่บริเวณเฉพาะปากคลองปากบาง ซึ่งเป็นลำคลองที่ต่อเชื่อมกับตัวเมืองป่าตอง
...
ขณะที่ นายสายัณห์ ชนะชัยวงศ์ นายอำเภอกะทู้ ระบุถึงกรณีดังกล่าว อยู่ระหว่างการประสานเทศบาลเมืองป่าตองชี้แจงข้อเท็จจริง ว่าเป็นน้ำเสียจากโรงบำบัดของเทศบาลหรือไม่อย่างไร และเป็นจริงอย่างที่คลิประบุไว้หรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาเคยเกิดปรากฏการณ์แพลงก์ตอนบลูมในช่วงเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา รวมไปถึงขอทราบข้อมูลเกี่ยวกับโรงบำบัดน้ำเสียของเทศบาลเมืองป่าตอง ซึ่งรอการชี้แจงข้อเท็จจริง
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (16 เม.ย.59) นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น เจ้าหน้าที่จากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ภูเก็ต เทศบาลเมืองป่าตอง เป็นต้นลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ชายหาดป่าตอง บริเวณปากคลองปากบาง ถ.ทวีวงศ์ หรือ ถ.เลียบชายหาด ต.ป่าตอง อ.กะทู้ และที่โรงบำบัดน้ำเสีย เทศบาลเมืองป่าตอง หลังปรากฏคลิปที่ถ่ายจากโดรนบังคับของเพจ "ร่วมด้วยช่วยกัน ภูเก็ต" ทำให้ประชาชน โดยเฉพาะในโลกโซเชียลต่างเกิดข้อสงสัย และกังขากับน้ำทะเลที่มีการเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มบริเวณหาดป่าตอง บริเวณปากคลองปากบาง ลำคลองที่เชื่อมต่อจากตัวเมืองป่าตองลงสู่อ่าวป่าตอง ซึ่งเป็นปรากฏการณ์แพลงก์ตอนบลูม หรือน้ำเสียที่ถูกปล่อยลงสู่ทะเลกันแน่ จนมีการวิพากษ์วิจารณ์กันในโลกออนไลน์เป็นจำนวนมาก
นายภาณุพงศ์ วาสะศิริ ผู้ดูแลโรงบำบัดน้ำเสีย เทศบาลเมืองป่าตองกล่าวว่า ระบบบำบัดไม่มีปัญหา ระบบยังทำงานได้ตามปกติ ส่วนน้ำเสียที่ไหลลงสู่ทะเล ส่วนใหญ่มาจากบ้านเรือนประชาชนที่ไม่ได้เข้าระบบบำบัดราว 20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งอยู่ระหว่างการทำโครงการที่จะนำน้ำเสียเข้าสู่ระบบทั้งหมดแล้วเสร็จอีก 4 เดือน เพื่อบำบัดก่อนปล่อยลงสู่ทะเลต่อไป
ด้าน นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี รอง ผวจ.ภูเก็ต กล่าวว่า จากที่เจ้าหน้าที่ส่วนสิ่งแวดล้อม สนง.ทสจ.ภูเก็ต ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูล เรื่องน้ำเสียหาดป่าตองบริเวณดังกล่าว พบว่าระบบบำบัดน้ำเสียของเทศบาลเมืองป่าตองปกติ แต่น้ำที่มีสีคล้ำ เนื่องจากปรากฏการณ์ "สาหร่ายบลูม" เป็นมาประมาณ 3-4 วันแล้ว ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากสารอินทรีย์จากน้ำทิ้งของชุมชนในส่วนที่ไม่เข้าระบบบำบัดน้ำเสีย ซึ่งมีสภาวะ อุณหภูมิ แสงแดดที่เหมาะสม จึงทำให้เกิดการบลูมของสาหร่าย จึงจำเป็นต้องให้เทศบาลเมืองป่าตองเร่งดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง เนื่องจากปัจจุบันมีนักท่องเที่ยว และสถานประกอบการเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงต้องกำหนดมาตรการเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม.
...