ฆ่าโหด จอบทุบหัวฝรั่งชาย-หญิง ดับกลางหาดทรายรี เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ฯ ล่าสุด รู้ชื่อแล้ว เป็นชายหญิงชาวอังกฤษ คาดทั้งคู่ได้นัดเจอกันริมชายหาด ก่อนถูกฆาตกรรม ด้าน ตร.เร่งสอบเพื่อนของฝ่ายชาย สงสัยมีรอยขีดข่วน แต่ยังไม่ตัดประเด็นแรงงานต่างด้าวสังหาร ส่วนชาวบ้านรวมตัวปิดท่าเรือกันคนร้ายหนี...

เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 15 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.ท.จักรพันธ์ แก้วขาว พนักงานสอบสวน สภ.ย่อยเกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุพบศพนักท่องเที่ยวชาย-หญิง ถูกทำร้ายร่างกายเสียชีวิต บริเวณแหลม จปร. หาดทรายรี พื้นที่หมู่ 1 ต.เกาะเต่า จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น และรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.เกียรติพงษ์ ขาวสำอางค์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.ประชุม เรืองทอง ผกก.สภ.เกาะพะงัน

ที่เกิดเหตุบริเวณชายหาด พบนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ชาย-หญิง จำนวน 2 ราย นอนเสียชิวิตอยู่บนหาดทราย โดยศพแรกเป็นหญิง อายุประมาณ 25-30 ปี ผิวขาว ผมสีบลอนด์ทอง สภาพนอนหงาย เปลือยกายทั้งล่างและบน โดยเสื้อยืดสีชมพู และกระโปรงถูกถลกขึ้นไปอยู่ที่เอว มีบาดแผลถูกทำร้ายด้วยของมีคมบริเวณใบหน้าเป็นแผลฉกรรจ์ ใบหน้าเละ ห่างจากศพแรกประมาณ 4 เมตร พบศพนักท่องเที่ยวชาย อายุประมาณ 25-30 ปี ผิวขาว สภาพนอนหงายเปลือยกาย มีบาดแผลถูกทำร้ายด้วยของมีคมที่หลังศีรษะ ศีรษะยุบเป็นแผลฉกรรจ์ ใกล้ศพพบกางเกงยีนส์ขาสามส่วน เสื้อยืดสีน้ำเงินและกระโปรงยีนส์ ถูกถอดกองทิ้งไว้ คาดว่าเป็นเสื้อผ้าของผู้ตาย จากการตรวจสอบห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร พบจอบเปื้อนเลือดถูกทิ้งไว้ คาดว่าน่าจะเป็นอาวุธที่คนร้ายใช้ทำร้ายร่างกายผู้ตายทั้งสอง เจ้าหน้าที่เก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เมื่อคืนวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา บริเวณริมหาดดังกล่าวได้มีการจัดงานปาร์ตี้ โดยมีนักท่องเที่ยวชาย-หญิง เดินทางมาร่วมงานจำนวนนับร้อยคน โดยมีนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ที่เดินทางมาเที่ยวชมความงาม ดำน้ำดูปะการัง และพักผ่อนบนเกาะ เข้าร่วมงาน ดื่มกิน และร่วมเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน จึงแยกย้ายกันกลับที่พัก กระทั่งช่วงเช้าจึงมีผู้พบศพนักท่องเที่ยวทั้ง 2 ราย ถูกฆ่าตายในลักษณะดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า หลังงานปาร์ตี้เลิก ผู้ตายซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นคู่รักกัน จึงได้ชักชวนกันมาเดินเล่นต่อริมหาดและถูกกลุ่มคนร้าย ที่คาดว่าน่าจะเป็นแรงงานต่างด้าวชาวพม่า ที่เข้ามารับจ้างทำงานในสถานประกอบการแห่งใดแห่งหนึ่งบนเกาะ ก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ โดยใช้ของแข็งทุบท้ายทอยฝ่ายชายจนเสียชีวิตและพยายามข่มขืนฝ่ายหญิง แต่เหยื่อพยายามดิ้นรน ทำให้คนร้ายโมโหจึงใช้อาวุธ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นจอบ สับศีรษะจนเสียชีวิต แล้วหลบหนีไป โดยขณะนี้ชาวบ้านต่างโกรธแค้นที่เกิดเหตุฆาตกรรมสยองกับนักท่องเที่ยว ซึ่งอาจส่งผลทำให้ภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวต้องเสื่อมเสียไป จึงรวมตัวปิดท่าเรือทุกแห่งในเกาะ เพื่อกันคนร้ายหลบหนี

...

ช่วงบ่ายวันเดียวกัน มีรายงานความคืบหน้าว่า ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ น.ส.ฮันนาห์ วิกตอเรีย สัญชาติ อังกฤษ อายุ 24 ปี และ นายเดวิด วิลเลียม อายุ 24 ปี สัญชาติอังกฤษ ซึ่งพบร่องรอยการต่อสู้และรอยเลือดบนหาดทราย รวมทั้งมีรองเท้าแตะสีชมพูและกางเกงขาสั้นสีเทาดำ เสื้อยืดสีเทา กางเกงในสีขาวตกอยู่ และถัดขึ้นมาบนชายหาดประมาณ 20 เมตร พบจอบเปื้อนเลือดและถุงปุ๋ยสีแดงวางทิ้งไว้ใต้ต้นสน และพบถุงยางอนามัยใช้แล้ว 1 ชิ้น เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ตายทั้ง 2 เป็นนักท่องเที่ยวที่ต่างเดินทางเข้ามาประเทศไทย โดยนายเดวิดได้เดินทางเข้ามาพร้อมเพื่อนชาย 2-3 คน เมื่อวันที่ 23 ส.ค. ส่วน น.ส.ฮันนาห์ เดินทางมาพร้อมเพื่อนผู้หญิง 4 คน เมื่อวันที่ 27 ส.ค. โดยที่ทั้ง 2 กลุ่มไม่ได้รู้จักกันมาก่อน แต่เมื่อเข้าพักที่โอเชี่ยนวิว บังกะโล ได้ห้องพักติดกัน ก่อนเกิดเหตุทราบว่าทั้งหมดออกไปร่วมงานปาร์ตี้ที่บริเวณชายหาดหน้าโรงแรม ซึ่งจากการสอบปากคำเพื่อนๆ ของ น.ส.ฮันนาห์ พบว่า ผู้ตายทั้งสองได้ปลีกตัวออกจากปาร์ตี้ หายไปด้วยกัน จนกระทั่งมาพบเป็นศพดังกล่าว

พล.ต.ต.เกียรติพงศ์ ขาวสำอางค์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า สำหรับแนวทางการสืบสวนนั้น เบื้องต้นสันนิษฐานว่า ทั้งคู่อาจมีเพศสัมพันธ์กันที่บริเวณโขดหินที่เกิดเหตุ และระหว่างนั้นอาจมีคนร้ายมาพบเห็นและเกิดอารมณ์ทางเพศ จึงได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายนายเดวิด จนเสียชีวิต ซึ่งพบร่องรอยการต่อสู้ แล้วพยายามข่มขืนฝ่ายหญิงแต่ถูกขัดขืน จึงได้ทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตด้วยอีกคน ส่วนอีกประเด็น ผู้ก่อเหตุอาจเป็นเพื่อนชายของนายเดวิด เนื่องจากการสอบสวนปากคำของเจ้าหน้าที่พบพิรุธบางอย่าง อีกทั้งตามร่างกายผู้ต้องสงสัยมีบาดแผลรอยขีดข่วนและแผลฉกรรจ์ที่หลังมือ ซึ่งทางตำรวจกำลังเร่งสอบสวนปากคำ

พล.ต.ต.เกียรติพงศ์ กล่าวต่อว่า เชื่อว่าคนร้ายที่ก่อเหตุจะยังคงอยู่ในพื้นที่เกาะเต่า เนื่องจากคาดการณ์ว่าเวลาเกิดเหตุอยู่ช่วงเวลา 03.00-05.00 น. จึงเชื่อว่าคนร้ายยังไม่สามารถออกจากเกาะได้เนื่องจากมีคลื่นลมแรง ขณะนี้ได้ขอความร่วมมือไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้านและผู้นำชุมชน เร่งติดตามตัวผู้ต้องสงสัย ขณะเดียวกันให้มีการตรวจตราอย่างละเอียดในทุกท่าเรือ และเรือทุกชนิด ห้ามออกจากเกาะโดยเด็ดขาด ส่วนศพของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ได้นำส่งเพื่อตรวจชันสูตรที่ กองพิสูจน์หลักฐานกลาง สถาบันนิติเวช พร้อมทั้งรายงานเหตุให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงทราบแล้ว

ทางด้าน นางวรรณี ไทยพานิชย์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะพะงัน กล่าวว่า หากสาเหตุเกิดจากแรงงานต่างด้าวจริง จะต้องรีบดำเนินการจัดระเบียบโดยเร่งด่วน เนื่องจากสภาพสถานประกอบการบนเกาะเต่าใช้แรงงานต่างด้าวอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งนายจ้างควรวิตกให้ความสำคัญด้วยเพราะลักษณะการก่อเหตุของต่างด้าวมีความรุนแรงกว่าคนไทย อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อว่าส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในระยะสั้น และตำรวจควรเร่งจับกุมผู้ก่อเหตุโดยเร็วเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ.