เมืองคอนพ้นวิกฤติ ถนนทุกสายน้ำแห้งแล้ว รถเล็ก-ใหญ่ผ่านได้ อำเภอรอบนอกเหลือน้ำรอระบายไม่กี่จุด คาดหากฝนไม่ถล่มซ้ำ สถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติใน 1-2 วัน เผยยอดเหยื่อน้ำท่วม แค่ จ.นครศรีธรรมราช ตายรวมกันแล้ว 12 ศพ “นายกฯ อิ๊งค์” ควงสามีล่องใต้ ลงพื้นที่ “นครศรีฯ-สุราษฎร์ฯ” เยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัย ย้ำรัฐบาลพร้อมจ่ายเยียวยา 9 พันบาททันที ชาวบ้านแห่ต้อนรับขอถ่ายเซลฟี่ช่วยฮีลใจ
สถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ภาคใต้รอบ 2 รุนแรงไม่แพ้รอบแรกเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ครั้งนี้หลังฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวัน ส่งผลให้เกิดน้ำป่าหลากท่วมหลายพื้นที่ ไล่ลงไปตั้งแต่ จ.ชุมพร จ.ระนอง จ.สุราษฎร์ธานี จ.นครศรีธรรมราช จ.พัทลุง และ จ.สตูล แต่ที่ยังวิกฤติสุดอยู่ในพื้น จ.นครศรีธรรมราช และ จ.สุราษฎร์ธานี มีทั้งน้ำป่าทะลักท่วม และดินสไลด์ถล่มทับบ้านพังมีผู้เสียชีวิต
จ.นครศรีธรรมราช เช้าวันที่ 17 ธ.ค. สถานการณ์ฝนตกน้ำท่วมเริ่มคลี่คลาย เช้านี้อากาศดี ท้องฟ้าโปร่ง แสงแดดออก น้ำลดลงแล้ว ถนนสายหลัก รถเล็กรถใหญ่วิ่งผ่านได้ปกติ ถนนสายพัฒนาการคูขวางตลอดสาย น้ำแห้งแล้วเช่นกัน รวมทั้งหน้า รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช น้ำแห้งแล้ว และเมื่อกลางดึก พล.ต.อนุสรณ์ โออุไร รองแม่ทัพภาคที่ 4 สั่งการให้จัดเจ้าหน้าที่ทหารร่วมกับศูนย์อำนวยการจิตอาสาภัยพิบัติ มทบ. 41 บรรจุกระสอบทรายขนาดใหญ่ (Big Bag) จำนวน 2,000 กระสอบ เข้าซ่อมแซมกำแพงด้านหลัง รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช อย่างเร่งด่วน หลังกระแสน้ำซัดผนังกำแพงพังถล่มระยะทาง 50 เมตร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ครั้งนี้ ล่าสุดพบผู้จมน้ำเสียชีวิตอีก 2 ศพ เป็นหญิงชราวัย 83 ปี จมน้ำในซอยต้นพลับชุมชนกรแก้ว ต.ในเมือง เขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช และชายวัย 45 ปี จมน้ำเสียชีวิตใกล้สะพานข้ามคลองท่าขนอน ต.ท่าวัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมรวม 12 ศพ และคาดว่าจะพบศพจมน้ำเพิ่มขึ้นหลังจากน้ำลดลงแล้ว
...
ส่วนในพื้นที่อำเภออื่นๆ เช่น อ.พระพรหม น้ำลดลงแล้ว ถนนสายนครศรีธรรมราช-สุราษฎร์ธานี ถนนสายนครศรีธรรมราช-ทุ่งสง และถนนสายนครศรีธรรมราช-สงขลา รถทุกชนิดวิ่งผ่านได้ตามปกติ ยกเว้นถนนตามตรอกซอกซอยในเขตตำบลรอบนอกของ อ.เมืองนครศรีธรรมราช อ.พระพรหม อ.พรหมคีรี อ.ท่าศาลา และ อ.สิชล ยังมีน้ำขังสูงบางจุด ประชาชนยังได้รับความเดือดร้อนมาก ต้องใช้เรือเข้าออกนอกบ้านด้วยความยากลำบาก ต้องการข้าวกล่องและน้ำดื่มเร่งด่วนเพื่อประทังชีวิต หากไม่มีฝนตกลงมาซ้ำเติม คาดว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติใน 1-2 วันนี้
ที่ รพ.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา ที่ถูกน้ำท่วมสูงเมื่อวานนี้ เช้านี้น้ำลดลงแล้ว มีน้ำขังเล็กน้อยด้านหลังโรงพยาบาล ประชาชนเข้าออกโรงพยาบาลได้ หากวันนี้ฝนไม่ตกลงมาอีกจะเข้าสู่ภาวะปกติ ส่วนที่ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช น้ำลดลงแล้ว เจ้าหน้าที่ได้รื้อกระสอบทรายหน้าโรงพยาบาลออก เพื่อให้ประชาชน ผู้ป่วย บุคลากรทางการแพทย์เข้าออกได้อย่างสะดวก ขณะที่น้ำป่าจากคลองกลาย อ.ท่าศาลา ที่ไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือน เรือกสวนไร่นาเป็นบริเวณกว้าง ทำให้ปศุสัตว์ วัว ควาย และหมูตายจำนวนมาก เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสำรวจเพื่อเยียวยาช่วยเหลือต่อไป
เวลา 12.00 น. ที่กองการบิน ศูนย์การเคลื่อนย้ายกองทัพบก ดอนเมือง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรสนายกฯ เดินทางลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม ต่อมาเวลา 13.25 น. น.ส.แพทองธาร และคู่สมรส มาถึงสนามบินนครศรีธรรมราช มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ
จากนั้นนายกฯขึ้นรถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ด สีดำ ทะเบียน กอ 5817 นครศรีธรรมราช ไปยังศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช ประชุมติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและสั่งการช่วยเหลือผู้ประสบภัยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มี ผวจ.สุราษฎร์ธานี ผวจ.ชุมพร ผวจ.พัทลุง และ ผวจ.นราธิวาส เข้าร่วมประชุมผ่านระบบออนไลน์ เนื่องจากต้องอยู่ดูแลพื้นที่ นายกฯกล่าวในที่ประชุมว่า ได้รับรายงานไม่เกินวันที่ 20 ธ.ค. น้ำน่าจะแห้งทั้งหมด และได้รับรายงานว่าปัจจัย 4 ในการช่วยเหลือประชาชนมีเพียงพอ ขอให้กำลังใจทุกคนเหตุการณ์ใกล้จะผ่านไปแล้วและการเยียวยาถึงมือพี่น้องประชาชนแล้ว 80 กว่าเปอร์เซ็นต์ ถือว่าเร็วและดีมากๆกว่าตอนที่เราอนุมัติงบเยียวยาในภาคเหนือ ขณะนี้เยียวยาไปได้แล้ว 99 เปอร์เซ็นต์ เหลืออีก 1 เปอร์เซ็นต์ที่ยังคงต้องการยืนยันตัวตน
หลังการประชุม น.ส.แพทองธารได้ขึ้นรถยนต์สีส้มของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ทะเบียน นข 2933 กรุงเทพมหานคร ออกจากศาลกลางจังหวัดฯ ไปเยี่ยมและมอบถุงยังชีพให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ชุมชนท่าโพธิ์ ซอย 10 ต.ท่าวัง เขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช มีชาวบ้านรอต้อนรับจำนวนมาก นายกฯได้กล่าวให้กำลังใจผู้ประสบภัยทุกคน ย้ำรัฐบาลพร้อมช่วยเหลือเยียวยาอย่างเต็มที่ ขอให้ผู้ประสบภัยรีบไปลงทะเบียนผู้ประสบภัยที่ อบต.หรือเทศบาล ภาครัฐจะเร่งจ่ายเงินเยียวยา 9,000 บาทให้ทันที จากนั้น น.ส.แพทองธารนั่งเรือท้องแบนนำถุงยังชีพไปแจกผู้ประสบภัยน้ำท่วมถึงประตูบ้าน ก่อนเดินทางต่อไป จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อเยี่ยมผู้ประสบภัยเช่นกัน
เวลา 17.00 น. นายกฯและคณะ เดินทางถึง อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี นั่งรถ ปภ.สีส้ม ทะเบียน 7 กบ 5091 กรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ พูดคุยกับผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่มารอรับถุงยังชีพ ก่อนขึ้นเวทีที่หอประชุมอำเภอท่าฉาง กล่าวกับประชาชนที่มารอให้การต้อนรับว่า ขอให้กำลังใจทุกคนขอบคุณจากใจรัฐบาลที่ทุกคนมีความอดทนยิ้มสู้ รัฐบาลต้องดูแลอย่างเต็มที่แน่นอน เงินเยียวยา 9,000 บาท ต้องมาถึงมือประชาชน ขอให้ประชาชนไปลงทะเบียนให้ครบถ้วน ถือเป็นความห่วงใยจากรัฐบาล ปัญหาน้ำท่วมต้องแก้ที่ระบบชลประทานจะได้ไม่ต้องย้ายที่พักอาศัย วันนี้ให้กำลังใจ อยากเห็นทุกคนมีรอยยิ้มที่สดใส น้ำไปหมดแล้ว เราต้องกลับมาแข็งแรง รัฐบาลก็ช่วยกันเติมพลังให้กับชาวใต้ให้กลับมาทำงาน ค้าขายกลับมารวยเร็วๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงท้ายนายกฯกล่าวติดตลกว่า วันนี้เดี๋ยวเดินออกไปก็จับมือถ่ายรูปกันได้ ไม่คิดตังค์ ดีใจที่ได้เจอทุกคน และขอส่งกำลังใจให้ทุกคนที่อยู่ที่นี่และคนที่ไม่ได้มา จากนั้นนายกฯมอบถุงยังชีพ 500 ชุด ให้ผู้ประสบอุทกภัย ก่อนเดินทักทายประชาชนที่มารอต้อนรับตลอดทางอย่างเป็นกันเอง มีชาวบ้านขอถ่ายรูปเซลฟี่ ขอจับมือ ขอคล้องแขน และโอบเอวนายกฯเป็นระยะเพื่อเป็นกำลังใจ บรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ
...
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่