ศาลเยาวชนและครอบครัว จ.สุราษฎร์ธานี สั่งผู้ปกครอง ห้ามนำ “น้องไนซ์ นิรมิต” สอนเชื่อมจิตทุกช่องทาง พร้อมออกคำสั่งกำหนดมาตรการ วิธีการเพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กให้นำตัวพบแพทย์สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นภายใน 15 วัน
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 28 ส.ค. 2567 ที่ศาลเยาวชนและครอบครัว จ.สุราษฎร์ธานี คณะผู้พิพากษา ออกบัลลังก์ อ่านคำสั่งในคดี คส.2/2567 คดีที่ พมจ.สุราษฎร์ธานี เป็นผู้ร้องให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองสวัสดิภาพ ด.ช.นิรมิต ห้ามไม่ให้ น.ส.นัฐพร วงศ์ทวิชาติ แม่น้องไนซ์ ด.ช.นิรมิต กับพวกรวม 2 คน โดยขอให้ศาลมีคำสั่ง 1. ห้ามนำกิจกรรมไลฟ์สดอันเกี่ยวกับการเชื่อมจิต 2. ห้ามเผยแพร่คำสอนทางพุทธศาสนาอันเป็นการบิดเบือน หรือผิดเพี้ยนจากหลักทางพระพุทธศาสนา และไม่ปรากฏหลักฐานในพระไตรปิฎก
3.ห้ามใช้สื่อต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเด็กในการดำเนินกิจกรรม (เชื่อมจิต) ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่าย รวมถึงภาพเคลื่อนไหว หรือสื่ออื่น ที่เป็นการยืนยันถึงตัวเด็ก 4. ห้ามจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมจิต และ 5. ออกคำสั่งกำหนดมาตรการ หรือวิธีการเพื่อเป็นการคุ้มครองสวัสติภาพเด็กตามที่ศาลเห็นสมควร
ทั้งนี้ ศาลได้มีคำสั่งตามคำร้องของ พม.ให้นำเด็กไปตรวจสุขภาพที่สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นภาคใต้ ภายใน 15 วันหลังจากคำสั่งศาลและให้ตรวจ 2 ครั้งภายใน 6 เดือนและให้แพทย์รายงานต่อศาลทราบด้วย
ห้ามนำเด็กทำกิจกรรมไลฟ์สดเกี่ยวกับการเชื่อมจิต เผยแพร่คำสอนทางพุทธศาสนาอันเป็นการบิดเบือนหรือผิดเพี้ยนจากหลักทางพระพุทธศาสนาและไม่ปรากฏหลักฐานในพระไตรปิฎก, ห้ามใช้สื่อต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเด็กในการดำเนินกิจกรรมเชื่อมจิตไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายรวมถึงภาพเคลื่อนไหวหรือสื่ออื่นที่เป็นการยืนยันถึงตัวเด็ก และออกคำสั่งกำหนดมาตรการหรือวิธีการเพื่อเป็นการคุ้มครองกับ พม. เนื่องจากพนักงานเจ้าหน้าที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐมนตรี มีอำนาจอยู่แล้ว โดยไม่ต้องรอให้ศาลสั่งในการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก หากไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษจำคุก
...
ด้าน น.ส.ชลลดา ชนะศรีรัตนะกุล พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ในรายละเอียดคำสั่งศาล เราไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากต้องเป็นไปตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ซึ่งหลังจากนี้ พมจ.จะได้ร่วมกับผู้ปกครองในการปฏิบัติตามคำสั่งศาล โดยเฉพาะการวางแผนการเลี้ยงดูในทุกๆ ด้าน ทั้งด้านสังคม การศึกษา และการนำเด็กไปทำกิจกรรม ซึ่งศาลได้กำชับผู้ปกครองให้ดำเนินการตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด หากไม่ปฏิบัติตามก็จะมีความผิดตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีคำสั่งคุ้มครองสวัสดิภาพ ด.ช.นิรมิตร หรือ "น้องไนซ์" อายุ 8 ขวบ โดยห้ามไม่ให้ น.ส.นัฐพร วงศ์ทวิชาติ มารดากับพวกรวม 2 คน นำเด็กทำกิจกรรมไลฟ์สดเกี่ยวกับการเชื่อมจิต และเผยแพร่คำสอนทางพุทธศาสนา อันเป็นการบิดเบือนหรือผิดเพี้ยนจากหลักทางพระพุทธศาสนา และไม่ปรากฏหลักฐานในพระไตรปิฎก รวมทั้งและให้ผู้ปกครองกับ พมจ.สุราฎร์ธานี นำเด็กไปตรวจสุขภาพที่สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นภาคใต้ ภายใน 15 วัน หลังจากศาลมีคำสั่งและให้ตรวจ 2 ครั้ง ภายใน 6 เดือน รวมทั้งให้แพทย์รายงานผลต่อศาลทราบ
ล่าสุด "เพจนิรมิตเทวาจุติ" ได้โพสต์ข้อความระบุว่า "ตามที่ศาลได้มีคำสั่งห้าม พ่อแม่แสวงหาผลประโยชน์จากน้องไนซ์ โดยห้ามนำไปทำกิจกรรมเชื่อมจิต หรือเผยแพร่คำสอนในสถานที่ต่างๆ หรือสังคมออนไลน์ เพื่อปฏิบัติตามคำสั่งของศาล จึงขอประกาศว่าในการทำกิจกรรมต่างๆของน้องไนซ์ เพื่อการเจริญปัญญา ตามแนวทางแห่งองค์พุทธะ ขอประกาศว่าพ่อและแม่ของน้องไนซ์ไม่รับค่าวิทยากร (ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ประกาศชัดเจนว่าไม่รับค่าวิทยากรอยู่แล้ว) และผลประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบ"
เพจดังกล่าวระบุต่อว่า "ส่วนของการที่พ่อแม่น้องไนซ์ ร่วมสร้างสถานที่ปฏิบัติธรรมกับลุงหมอนั้น พ่อกับแม่ของน้องไนซ์จะยังไม่ขายที่ดินส่วนที่เหลือให้กับสายธรรมแห่งองค์พุทธะ เพื่อตัดข้อครหาเรื่องการหาผลประโยชน์จากน้องไนซ์ในเรื่องที่ดินสร้างสถานธรรม คำสั่งศาลนี้มีผลหกเดือน ถัดจากนี้ถือเป็นอันสิ้นสุดคำสั่ง หลังจากนี้ไปอีกหกเดือนจะพบกับรูปแบบการเจริญธรรม เจริญปัญญา ตามแนวทางแห่งองค์พุทธะ เพื่อยกระดับจิตให้ขาวรอบยิ่งขึ้นต่อไป"
ทั้งนี้หลังโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น อาทิเช่น "ศาลไม่ได้ใช้คำว่าแสวงหาผลประโยชน์นะ ศาลท่านให้หยุดกิจกรรมเกี่ยวกับเชื่อมจิต และหยุดเผยแพร่พุทธศาสนาอันไปในแนวทางบิดเบือน อย่าเติมอย่าตัดสิคะ, เด็กอายุประมาณนี้ต้องเรียนหนังสือ ไม่ใช่พาลูกออกมา เราต้องเห็นความสำคัญของการเรียนและอนาคตของเด็ก เข้าใจไหมคะพ่อแม่จะหาเงินก็หาในทางที่ถูกต้องนะคะ"