อดีตตำรวจวัยเกษียณ พก 9 มม.บุกเข้าบ้าน จ่อยิงโหดเมียเก่าร่วม 20 นัด ตายคาห้องนอน ก่อนคิดสั้นหนีความผิด-เป่าหัวตายตามเพิ่มอีก 1 ศพ เผยทั้งคู่เพิ่งหย่าร้างกันได้เพียง 1 เดือน 

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 1 ส.ค.67 ร.ต.อ.สุวิทย์ สุวรรณราช รอง สว. (สอบสวน) สภ.ย่านตาขาว รับแจ้งเหตุมีอดีตสามียิงภรรยาเสียชีวิต เหตุเกิดภายในบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.ทุ่งกระบือ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ตัวผู้ก่อเหตยังอยู่ในบ้าน จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ พร้อม พ.ต.อ.รัฐกร ภักดีวานิช ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.พูนศักดิ์ เซ็งแซ่ ผกก.สภ.ย่านตาขาว พ.ต.ท.เชษฐ์ เพชรชู สว.สส.ฯ นายสมพงศ์ ไพบูลย์ กำนันตำบลทุ่งกระบี่ ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง แพทย์เวร รพ.ย่านตาขาว และหน่วยกู้ภัยสว่างภักดี จุดย่านตาขาว

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีรั้วรอบขอบชิด พบประตูรั้วหน้าบ้านถูกล็อกสนิทด้วยแม่กุญแจจากด้านใน เจ้าหน้าที่จึงมองลอดผ่านช่องกำแพงรั้ว เห็นผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อคือ ร.ต.ท.สมโชค รองเดช อายุ 69 ปี อดีตตำรวจเกษียณอายุราชการ ยืนถืออาวุธปืนเดินวนเวียนอยู่ในบ้าน พ.ต.อ.พูนศักดิ์ เซ็งแซ่ ผกก.สภ.ย่านตาขาว พร้อมชุดสืบสวนได้พยายามพูดจาเกลี่ยกล่อมให้วางปืนและมอบตัว แต่ผู้ก่อเหตุได้ตะโกนไล่เจ้าหน้าที่ให้ออกไป และบอกว่า เจ้าตัวพกกระสุนปืนมา 2 แม็กกาซีน ก่อจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด เจ้าหน้าที่จึงถอยร่นออกมา พร้อมประสานชุดปฏิบัติการพิเศษศรีตรัง (หนุมานตรัง) เข้าร่วมเคลียร์พื้นที่

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ทำการพังประตูรั้วบ้านเข้าไป เมื่อเปิดประตูหน้าบ้านเข้าไปภายในบ้านพบ ร่าง ร.ต.ท.สมโชค ผู้ก่อเหตุ ใช้อาวุธปืนพกสั้นชนิดออโตเมติก ยี่ห้อซิกซาวเออร์ ขนาด 9 มม. ยิงเข้าที่ขมับขวาตัวเอง 1 นัด นอนเสียชีวิตบนแคร่ไม้ สภาพเท้าตั้งอยู่บนพื้น และวางอาวุธปืนไว้ใกล้ตัว ตรวจสอบบริเวณหน้าประตูห้องนอนพบรอยคราบเลือดหยดเป็นทางยาว ภายในห้องนอนพบศพ นางสมคิด รัตนพันธ์ อายุ 70 ปี ซึ่งเป็นอดีตภรรยาของผู้ก่อเหตุ สภาพนั่งบนพื้นหลังพิงเตียงนอนเสียชีวิต ตามร่างกายพบถูกยิงด้วยอาวุธปืนกระบอกเดียวกันกับผู้ก่อเหตุรวม 16 นัด ต้นแขนซ้ายถูกฟันด้วยของมีคม เป็นบาดแผลฉีกขาดยาวประมาณ 1 คืบ และกระดูกแขนซ้ายท่อนบนหัก ใกล้กันพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่บนพื้น 16 ปลอก และเครื่องกระสุนปืนที่ยังไม่ได้ใช้งานตกอยู่อีก 1 นัด และมีดอีโต้อีก 1 เล่ม จากการตรวจสอบอาวุธปืนของฝ่ายชายพบว่า ยังมีกระสุนคงค้างอยู่ในลำกล้อง 1 นัด นอกจากนี้ ยังพบแม็กกาซีนอีก 2 อันภายในไม่มีกระสุน ถูกยิงออกหมดแล้ว

...

จากการตรวจสอบภายในบ้านพักพบ หน้าหน้าต่างกระจกประตูหน้าบ้านแตก 1 บาน ลูกบิดประตูห้องนอนแตกหักเสียหาย ห่างออกไปจากบ้าประมาณ 20-30 เมตร ซึ่งเป็นหน้าบ้านของเพื่อนบ้านที่อยู่ระหว่างประกาศขาย พบรถ จยย. ยี่ห้อซูซูกิ สีแดง-ดำ ทะเบียนจังหวัดตรัง ซึ่งเป็นของฝ่ายชายจอดอยู่ 1 คัน โดยยังมีกุญแจเสียบค้างเอาไว้ เจ้าหน้าที่จึงเก็บทุกอย่างที่พบไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบถาม พ.ต.อ.พูนศักดิ์ เซ็งแซ่ ผกก.สภ.ย่านตาขาว กล่าวว่า ทางตำรวจคาดว่า ระยะเวลาที่ฝ่ายชายก่อเหตุยิงอดีตภรรยา และยิงตัวเองเสียชีวิตน่ั้น น่าจะใกล้เคียงกัน ห่างกันประมาณ 15-20 นาที ส่วนประเด็นปัญหาน่าจะเกิดจากฝ่ายชายเพิ่งเลิกกับภรรยาได้ประมาณ 1 เดือน ก่อนที่ภรรยาจะย้ายไปพักอยู่กับญาติ ที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช และเพิ่งกลับมาอยู่บ้านหลังนี้เมื่อประมาณ 3 วันก่อนเกิดเหตุ ซึ่งอาจจะยังหึงหวงกันอยู่ โดยบ้านหลังนี้เป็นชื่อของผู็ตายทั้ง 2 คน ซึ่งภรรยาไม่ได้ทำงานอะไร แต่ผู้ก่อเหตุเป็นอดีตตำรวจเกษียณราชการมาแล้วหลายปี

ด้าน นายอารัญ ชูทอง อายุ 37 ปี เพื่อนบ้านหลังติดกัน เล่าว่า ก่อนหน้าจะเกิดเหตุฝ่ายชายได้ขับรถ จยย.มาวนเวียนหน้าบ้าน ดูซ้ายดูขวา จากนั้นประมาณบ่ายโมงกว่าๆ ตนได้ยินเสียงฝ่ายชายตะโกนเรียกฝ่ายหญิงที่ประตูหน้าบ้าน สักพักก็ได้ยินเสียงฝ่ายชายเข้าไปในบ้าน แต่ไม่ได้ยินเสียงฝ่ายหญิงตอบรับ หรือออกมาเปิดประตูให้ จากนั้นประมาณ 10 นาที ก็ได้ยินเสียงทะเลาะกัน แต่ได้ยินเบามากๆ ซึ่งอาจจะเพราะทั้งคู่อยู่ในห้องนอน ก่อนที่จะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นประมาณ 4-5 นัดติดๆกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ตนก็ไม่เคยได้ยินเสียงทะเลาะกันมาก่อน โดยฝ่ายภรรยาออกไปอยู่ข้างนอกได้สักพักแล้ว ก่อนจะกลับเข้ามาเมื่อประมาณ 3-4 วัน ก่อนเกิดเหตุ

ด้าน ร.ต.ท.วรเชษฐ แก้วเพ็ง อายุ 65 ปี อดีตตำรวจและเป็นเพื่อนสนิทของฝ่ายชาย เปิดเผยว่า ทั้งคู่มีปัญหาครอบครัว เถียงกันทุกวัน  เมื่อ 2 วันก่อนฝ่ายชายก็มาหาตน เพื่อวานให้มาเจรจาปัญหาเกี่ยวกับเรื่องทรัพย์สินและเรื่องในบ้าน ซึ่งผู้ก่อเหตุโทรหาตนอยู่บ่อยๆ เพราะเครียดเรื่องทรัพย์สินกับภรรยา

"จริงๆแล้วผู้ก่อเหตุก็ไม่อยากเลิกรากับภรรยา แต่ฝ่ายหญิงเป็นคนจ่ายเงินให้ผู้ก่อเหตุ 3 แสนบาท เพื่อให้เซ็นใบหย่า ซึ่งตอนเช้าก็ยังโทรหาตน เพราะบ่นว่าเครียด แต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องจะก่อเหตุ โดยตอนเกิดเรื่อง ผกก.โทรหาตน แต่ตนยังมาไม่ถึง ผู้ก่อเหตุก็ลงมือก่อเหตุก่อนแล้ว" เพื่อนสนิทผู้ก่อเหตุ กล่าว

สำหรับแนวทางการสืบสวนเบื้องต้น ทราบว่าทั้งคู่มีลูกกันมาก่อนแล้ว ก่อนจะมาอยู่กินกันที่บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านของทั้งคู่ ได้ประมาณ 10 กว่าปีที่ผ่านมา แต่ไม่มีลูกด้วยกัน กระทั่งระยะหลังมีปัญหาเกิดขึ้นในครอบครัวมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง โดยเพื่อนสนิทของฝ่ายชายรู้ดี ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะขอหย่าร้างได้ตกลงให้เงินฝ่ายชาย 3.5 แสนบาท เมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา จ่ายมาแล้ว 2.5 แสนบาท โดยฝ่ายหญิงไปอาศัยอยู่บ้านญาติต่างจังหวัด และเพิ่งกลับมาได้ 3 วัน ก่อนเกิดเหตุฝ่ายชายยังเคยพูดกับเพื่อนตำรวจตลอดว่า หากยิงเมียแล้วจะยิงจะตัวตายตาม แต่เพื่อนๆได้ห้ามปรามไว้ตลอด

จนกระทั่งวันนี้ฝ่ายชายได้แวะดื่มเบียร์ 2 ขวด ที่ร่้านชำภายในหมู่บ้านที่เกิดเหตุ ก่อนจะขับรถมาที่บ้านหลังดังกล่าว โดยจอดรถไว้ข้างบ้าน เดินอ้อมปืนกำแพงรั้วหลังบ้านเข้าไป และทุบหน้าต่างกระจก ใช้มือล้วงเข้าไปบิดลูกบิด และเข้าไปภายในบ้าน โดยที่ฝ่ายหญิงขังตัวเองอยู่ในห้องนอน ฝ่ายชายได้พังประตูเข้าไป โดยที่ฝ่ายหญิงน่าจะถือมีดอีโต้อยู่ ก่อนจะมีปากเสียงกัน ฝ่ายชายจึงใช้อาวุธปืนยิงใส่ไม่ยั้ง และอาจจะใช้ของแข็งทุบที่แขนจนกระดูกแตก และใช้มีดอีโต้ฟันแขนอีกที ก่อนที่ฝ่ายชายจะโทรหาเพื่อนและจบชีวิตตัวเองตาม เบื้องต้นทางญาติไม่ได้ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิตของทั้งคู่ ทางตำรวจจึงมอบศพให้กับญาตินำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป .