ศุลกากรภาค 5 ร่วมกับ กอ.รมน.จ.สุราษฎร์ธานี สกัดจับบุหรี่เถื่อน บุหรี่ไฟฟ้า มูลค่า 8 ล้าน หลังหวังตบตาเจ้าหน้าที่ ลักลอบขนส่งในพัสดุถุงเมล์ไปรษณีย์ในประเทศ จำนวน 881 หีบห่อ ใช้เส้นทางจากภาคใต้ขึ้นกรุงเทพฯ 


เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 24 มิ.ย. 67 ที่ด่านศุลภากรบ้านดอน ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี นายนันธวัช เจริญวรรณ รอง ผวจ.สุราษฎร์ธานี พ.อ.ฐิติพงษ์ อินวะษา รอง ผอ.รักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายวัลลภ วุฒาพาณิชย์ ผอ.สำนักงานศุลกากรภาคที่ 5 และ น.ส.นุชนารถ สินสุวรรณสาร นายด่านศุลกากรบ้านดอน ร่วมแถลงการจับกุมสินค้าบุหรี่ต่างประเทศ และบุหรี่ไฟฟ้าลักลอบส่งทางไปรษณีย์มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท  


สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 67 กอ.รมน.จว.สุราษฎร์ธานี ได้รับการข่าวว่าจะมีการลักลอบขนส่งบุหรี่ต่างประเทศ รวมถึงบุหรี่ไฟฟ้าในรูปแบบพัสดุไปรษณีย์ในประเทศ เส้นทางจากภาคใต้ขึ้นกรุงเทพมหานคร จึงได้ประสานศุลกากร โดยสำนักงานศุลกากรภาคที่ 5 (ศภ.5) เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้และการควบคุมทางศุลกากร และด่านศุลกากรบ้านดอน พร้อมด้วย ขรต.ที่ 402 กอ.รมน.ภาค ได้บูรณาการร่วมกันในการตรวจรถร่วมขนส่งไปรษณี ยี่ห้อฮีโน่ ทะเบียน 71-3344 ปทุมธานี ที่บริเวณถนนสายเอเชีย 41 (ขาขึ้น) อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี

...

พบพัสดุที่บรรจุสินค้าต้องสงสัย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ใช้เครื่องเอกซเรย์ชนิดถือ (Handheld X-ray) ตรวจสอบกล่องพัสดุ โดยภาพจากการเอกซเรย์พบว่ามีรูปร่างคล้ายบุหรี่มวนและบุหรี่ไฟฟ้า จึงได้ทำการอายัดกล่องพัสดุมาไว้ที่ด่านศุลกากรบ้านดอน แล้วจึงเชิญเจ้าหน้าที่ตัวแทนบริษัทผู้ขนส่ง มาเปิดตรวจร่วมกัน 


โดยผลการตรวจสอบพบพัสดุ อยู่ในถุงเมล์จำนวนมาก และมีพัสดุจำนวน 881 หีบห่อ ระบุชื่อจากสถานที่จัดส่งและผู้รับแตกต่างกันออกไป ซึ่งพบว่ารถคันดังกล่าวมีต้นทางมาจาก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และจะไปส่งปลายทางที่ศูนย์กระจายสินค้าที่กรุงเทพมหานคร บรรจุของผิดกฎหมายศุลกากร แบ่งเป็นบุหรี่ลักลอบหนีภาษีศุลกากร จำนวน 996,340 มวน บุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 3,863 ชิ้น

มูลค่ารวมทั้งสิ้นกว่า 8,000,000 บาท โดยบุหรี่ลักลอบหนีศุลกากร และบุหรี่ไฟฟ้าที่จับกุมได้ในครั้งนี้ เป็นของอันพึงต้องริบตามมาตรา 166 แห่งพระราชบัญญัติศุลภากร พ.ศ. 2560 เจ้าหน้าที่ศุลกากรจึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 167 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ทำการยึดของกลางดังกล่าวไว้ และจะติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

...