ระทึก เรือนำเที่ยวทะเลตรังล่ม 14 ชีวิตเคว้งลอยคอกลางทะเล ยายวัย 68 ดับสลด สำลักน้ำอีก 5 ราย จนท.ต้องระดมคนเข้าเร่งช่วยเหลือ นำส่ง รพ. นายท้ายเล่านาทีเชือกขาด จนท.เร่งสอบสวนสาเหตุ


เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 4 พ.ค. 67 ที่ จ.ตรัง เกิดอุบัติเหตุเรือหางยาวนำเที่ยวล่ม บริเวณร่องน้ำใกล้สะพานปากเมง พื้นที่หมู่ที่ 4 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา ขณะกลับจากท่องเที่ยวทะเลตรัง เพื่อจะมาขึ้นฝั่งที่บริเวณหน้าท่าเรือป้อมจ่าดำ อีกประมาณ 2 กม. ภายในเรือมีนักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวน 11 คน แบ่งเป็นผู้ใหญ่ 7 คน และเด็ก 4 คน มีนายท้ายเรือ 1 คน คนเรือ 1 คน ไกด์อีก 1 คน รวมจำนวน 14 คน ทั้งหมดสวมใส่เสื้อชูชีพ กำลังลอยคออยู่ในทะเล


ระหว่างนั้นมีเรือสปีดโบ๊ตนำเที่ยวที่เห็นเหตุการณ์ให้การช่วยเหลือไว้ ก่อนจะทยอยนำผู้ประสบภัยขึ้นมาบนฝั่ง โดยมีทีมแพทย์พยาบาล รพ.สิเกา หน่วยกู้ภัยสว่างภักดีตรัง หน่วยกู้ชีพ อบต.ไม้ฝาด ให้การช่วยเหลือก่อนเร่งนำส่ง รพ.สิเกาอย่างเร่งด่วน โดยมีผู้เสียชีวิตจำนวน 1 ราย ทราบชื่อคือ นางอัจฉรา ตรีประเสริฐสกุล อายุ 68 ปี เป็นชาว อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และยังมีผู้ได้บาดเจ็บจากการสำลักน้ำอีก 5 ราย เบื้องต้น ทราบว่านักท่องเที่ยวทั้งหมดเป็นเครือญาติและคนสนิทกัน แบ่งเป็น 3 ครอบครัว 

...


ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงศ์ ผกก.สภ.สิเกา ร.ต.อ.จักรกริช แก้วทอง รอง สว.(สอบสวน) เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว พ.ต.ต.ดุสิทธิ์ วรรณบวร สว.ส.ทท.2กก.3 บก.ทท.3 เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ กก.9 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้ลงตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ และประสานให้ความช่วยเหลือ 


นายนพดล ห้าหยัง อายุ 50 ปี นายท้ายเรือ เล่าว่า ขับเรือกลับจากพานักท่องเที่ยว กำลังจะกลับขึ้นฝั่ง ปรากฏว่าสายเชือกคันโยงเรือที่ใช้บังคับหางท้ายเรือสองข้างขาด ทำให้นักท่องเที่ยวไหลเทมาอยู่ฝั่งเดียวกัน ทำให้เรือเกิดเอียงซ้าย และเกิดล่ม


ต่อมาในเวลาประมาณ 19.50 น. วันเดียวกัน ที่ รพ.สิเกา จ.ตรัง นายทรงกรด สว่างวงศ์ ผวจ.ตรัง พร้อมด้วย นายณหทัย สุนทรนนท์ ป้องกันจังหวัดตรัง และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องได้เข้าเยี่ยมผู้ที่ประสบภัย สาเหตุมาจากการสำลักน้ำ ที่ยังคงรักษาตัวอยู่ที่ รพ. จำนวน 5 ราย โดย 1 รายเป็นเด็กชายถูกนำตัวส่ง รพ.ตรัง 


นายทรงกลด กล่าวว่า ในนามของจังหวัดต้องขอแสดงความเสียใจด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้น เบื้องต้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือหน่วยรักษาพยาบาลหรือโรงพยาบาลสิเกา ก็ได้ทำเต็มที่แล้ว ในส่วนของผู้เสียชีวิต 1 ราย ทางโรงพยาบาลสิเกาได้ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว ก่อนจะส่งต่อไปยังโรงพยาบาลประจำจังหวัด ซึ่งผู้เสียชีวิตรายนี้อาจจะสำลักน้ำ น้ำอาจจะเข้าปอดเยอะหน่อย ตอนที่ขึ้นมาก็ไม่รู้สึกตัวแล้ว ส่วนอีก 4-5 คนที่เหลืออาการพ้นขีดอันตราย แต่ยังต้องพักรักษาที่โรงพยาบาลสิเกาต่อ 


สำหรับกรณีผู้เสียชีวิตจากการสอบถามจากหลายฝ่าย ตำรวจกำลังแยกทำการสอบสวน ซึ่งข้อเท็จจริงอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ส่วนเรือมีครบถูกต้อง ทั้งเรื่องของการจดทะเบียน วัสดุอุปกรณ์ครบถ้วน มีการทำประกันทุกอย่าง ประเด็นที่ 2 เรื่องของผู้เสียชีวิตที่มาเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ทุกคนมีเสื้อชูชีพทั้งนั้น แต่ในช่วงที่รอการช่วยเหลืออาจจะสำลักน้ำไป ผู้เสียชีวิตเป็นผู้สูงอายุ อาจเกิดจากสภาพร่างกายหรือการตกใจ ซึ่งอย่างน้อยความผิดทางละเมิด ผู้เสียชีวิตมีประกัน บริษัทจึงอาจไม่ต้องรับผิดชอบตรงนี้ แต่จะดูแลกันยังไงเป็นเรื่องของบริษัทเขาจะจัดการ


ส่วนความผิดทางอาญา แม้ว่าคนเรือ 3 คนจะพยายามอย่างเต็มที่ แต่ก็ยังมีการเสียชีวิตเกิดขึ้น โดยเจตนาหรือโดยประมาทมันก็เป็นความผิด ทั้งนี้ทั้งนั้นการที่จะสืบสวนทั้งหมดเป็นหน้าที่ของตำรวจ ซึ่งจะแยกสอบทั้งคนที่รอดชีวิตและคนเรือว่ามีการแก้ปัญหากันยังไง ในส่วนของเจ้าของบริษัทบอกว่ามีเรืออีกลำเป็นสปีดโบ๊ต ยังไม่ทันได้ล้างเรือก็เร่งมาช่วยโดยเร็ว แต่ความรู้สึกของผู้ประสบเหตุมองว่าช้า โดยขอให้ทุกคนที่รอดชีวิตมีสติที่ดีก่อน ซึ่งมีการวางแผนไว้แล้วว่าคดีนี้จะสืบสวนคดียังไง แต่ก็ยังดีใจว่าทุกหน่วยมีการเทคแอ็กชั่นกัน ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงปลายฤดูร้อน ซึ่งจะเข้าหน้าฝน กรมอุตุก็จะเตือนเรื่องพายุทั่วทุกภาคของประเทศ จึงอยากจะขอให้นักท่องเที่ยวที่สามารถมาเที่ยวได้ อาจจะไม่ได้ระวังเท่าที่ควร ก็ควรจะชะลอไว้ก่อน พูดตรงๆ คือวันนี้เป็นวันที่มีคลื่นแรง กรมอุตุเขาก็มีเตือนไว้ ซึ่งคลื่นแรงไม่เฉพาะบนผิวน้ำ ใต้น้ำก็แรงด้วย สังเกตได้ว่าช่วงนี้น้ำจะขุ่น ทำให้คลื่นมีทั้งข้างบนและข้างล่าง ในส่วนของผู้ประกอบการก็ต้องระงับการให้บริการเพราะบางทีมันไม่คุ้ม เพราะฉะนั้น 2 ส่วนนี้ต้องช่วยกัน  

...


จากการพูดคุยกับผู้ประสบภัย บอกว่า ใกล้จะถึงฝั่งแล้ว มีการเลี้ยวเรือทำให้คนเทไปอยู่ฝั่งเดียวกัน ขณะที่เจ้าของเรือบอกว่าเตือนแล้วว่าให้นั่งเรือทั้งสองฝั่งให้มีน้ำหนักเท่ากัน แต่ก็ไม่มีใครฟัง สาเหตุเบื้องต้นตนคาดว่าสภาพอากาศเป็นหลัก เพราะเรือก็ยังเป็นเรือใหม่ มีมาตรฐานการให้บริการพอสมควรแต่จริงๆ แล้วไม่ควรออกมาให้บริการในช่วงนี้ ถ้าเป็นเรือใหญ่ก็ว่าไปแต่นี่เป็นเรือหางยาว ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาจากหาดใหญ่ ติดต่อบริษัทมาเอง อาจเป็นบริษัทเล็กๆ ย่อยๆ ไม่ใช่บริษัทใหญ่ที่มีความพร้อม แต่นี่ก็เพียงพอแล้วมีคนเรือ 2-3 คนและบรรทุกไม่เกินมาตรฐานด้วย แต่คงเป็นจากสภาพดินฟ้าอากาศที่ควบคุมไม่ได้ ในเบื้องต้นจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ รายงานว่าเป็นบริษัทนำเที่ยวรายหนึ่ง มีใบอนุญาต คนขับเรือ มีใบอนุญาต ทะเบียนเรือหางยาวมีเลขที่ และมีประกันภัย อย่างไรก็ตามเบื้องต้นได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง และเจ้าท่าภูมิภาค สาขาตรัง เพื่อตรวจสอบความพร้อมของเรืออีกครั้ง และจะเชิญคนขับและบุคคลที่เกี่ยวข้องไปสอบปากคำอย่างละเอียดต่อไป.

...