“นายกชาย” เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมทนายความ แจ้งความมือดีแชร์ข่าวจับผับดังด่านนอกของ “นักการเมืองดังสงขลา” ทำให้เสียหาย เสียชื่อเสียง ขณะที่ผู้นำท้องถิ่นบอกเป็นการดิสเครดิต เจ้าของเป็นคนในพื้นที่ มีพี่เขยชาวมาเลย์เป็นนายทุน 


วันที่ 4 พ.ค. 67 นายเดชอิศม์ ขาวทอง สส. เขต 6 สงขลา เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์เดินทางมาที่ สภ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อมาแจ้งความเอาผิดผู้ที่ปล่อยข่าว การแชร์ข่าว “จับผับที่จังโหลน!....ของกลางยาเสพติดเพียบ นักท่องเที่ยวเสพยาเสพติดเป็นร้อย แถมซุกของกลางยาเสพติดไว้ในกางเกงใน จนถึงตอนนี้ยังสอบสวนผู้ต้องหาไม่เสร็จ ไม่ต้องถามนะครับผับใค คนสงขลาคงรู้ดี...แพลมให้กะได้ว่า ของนักการเมืองใหญ่ในสงขลา!....” เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2567 ในข้อหาหมิ่นประมาท ผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ พร้อมนำหลักฐานมอบให้ พ.ต.อ.สุรจิต เพชรจอม ผกก.สภ.สะเดา สอบสวนสืบสวนหาผู้แชร์ข่าวดังกล่าวซึ่งมีทั้งเพจดังที่เผยแพร่ลงในสื่อ และบุคคลทั่วไปในการส่งข่าวทางแอปพลิเคชัน LINE 


นายเดชอิศม์ ขาวทอง หรือนายกชาย เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ได้ตอบประเด็นเรื่องดังกล่าวก่อนยื่นหนังสือถึง ผกก.สภ.สะเดา ว่าตั้งแต่เกิดเหตุการณ์จับผับเปิดเกินเวลาที่เมืองท่องเที่ยว บ้านด่านนอก ชายแดนไทยมาเลเซีย อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ตัวเองก็ยังงงอยู่ว่าทำไมเอาชื่อตนมาเกี่ยวข้องทั้งๆ ไม่เคยทำธุรกิจสถานบันเทิงใดๆ และไม่เคยมีหุ้นหรือเอี่ยวสถานบันเทิงในพื้นที่ดังกล่าว สามารถตรวจสอบได้ เพื่อนๆ หลายคนพากันตกใจและโทรมาสอบถามกันเป็นจำนวนมากและเรื่องนี้กระทบกระเทือนต่อการเมืองเนื่องจากตนดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์อาจจะสร้างความเสียหายต่อพรรคและเสียหายต่อชาวบ้านที่เลือกเข้ามาเป็นผู้แทนราษฎร 

...


“ผมแอนตี้เรื่องยาเสพติดมาโดยตลอดไม่ว่าใครก็ตามที่มีส่วนพัวพันยาเสพติดผมจะไม่มีการเจรจาใดๆ เรื่องนี้ผมจะต้องดำเนินการเอาผิดกับคนที่แชร์ข่าวใส่ร้ายผมมีทั้งบอกชื่อ ในบางเพจระบุชื่อผมเป็นที่เรียบร้อย”      


ขณะเดียวกันได้มีกลุ่มบุคคลที่อยู่ในพื้นที่ตำบลสำนักขาม หมู่ 7 บ้านด่านนอก ประกอบด้วย นายพลวัฒน์ วิไลชื่นผล กำนันตำบล สำนักขาม นายเกชา เบญจคาร อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลสำนักขาม นายอรรถพล พรัอมมูล นายกเทศมนตรีเมืองปาดังเบซาร์และกลุ่มคนใกล้ชิดนายกชายได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงการแชร์ข่าวกล่าวหา จับผับดังในซอยไทยจังโหลน 7 บ้านด่านนอก อำเภอสะเดา เป็นของนักการเมืองใหญ่สงขลา เรื่องนี้ขอชี้แจงว่าเป็นการใส่ร้ายดิสเครดิต นายกชาย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับผับดังกล่าวและไม่เคยรู้จักกับเจ้าของแม้แต่บุคคลเดียว ซึ่งผับดังกล่าว เป็นของคนในพื้นที่ ชื่อเล่น นายหนุ่ม และนายก้อง และพี่สาว มีสามีเป็นชาวมาเลเซียเป็นนายทุนใหญ่ เดิมมีผับอยู่แล้วแต่ช่วงหลังกิจการดีขึ้นจึงขยายไปเปิดผับ “มิกซ์” ซึ่งเปิดมาได้ประมาณ 1 ปี