ชุมพรเจอภัยแล้ง ขาดน้ำ ฝนทิ้งช่วงไม่ตกนานเกือบ 3 เดือน "รถถัง" วิ่งเกลื่อนหมู่บ้าน พระเดือดร้อน วัดไม่มีน้ำใช้ ชาวบ้านต้องช่วยขนมาเติมใส่สระให้ ทุเรียนที่มีพื้นที่ปลูกมากสุดของภาคใต้ เริ่มยืนต้นตาย
วันที่ 3 พ.ค. 67 จากสถานการณ์ภัยแล้งในจังหวัดชุมพร ที่ฝนทิ้งช่วงไม่ตกมานานเกือบ 3 เดือน ส่งผลให้ทั้ง 8 อำเภอของจังหวัด เกิดวิกฤติภัยแล้ง พืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย ทุเรียนที่กำลังออกลูกขาดน้ำทำให้ผลร่วงหล่นและเริ่มทยอยยืนต้นตาย ขณะที่พื้นที่ประสบภัยแล้งได้มีรถกระบะ รถหกล้อ รถบรรทุกถังน้ำขนาดใหญ่ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “รถถัง” จำนวนมากวิ่งบนถนนหาที่เติมน้ำตามจุดบริการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และจุดบริการขายน้ำของเอกชน เนื่องจากแหล่งน้ำธรรมชาติใกล้บ้านแห้งขอดหมดแล้ว
นอกจากนั้น พบว่าสำนักสงฆ์ วัด สถานปฏิบัติธรรม ที่ชาวบ้านใช้ทำกิจกรรมทางพุทธศาสนา และจัดงานพิธีกรรมต่างๆ หลายแห่งไม่มีน้ำใช้อุปโภคบริโภค โดยผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่วัดเขาค่ายเจริญธรรม หมู่ 3 ตำบลเขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร ซึ่งเป็นพื้นที่มีเกษตรกรทำสวนทุเรียนกันจำนวนมาก ต้องประสบปัญหาภัยแล้งขั้นวิกฤติแล้วเช่นกัน โดยชาวบ้านชาวสวนที่ได้รับความเดือดร้อน นอกจากช่วยเหลือตัวเองแล้ว ยังต้องสละเวลา นำรถถังไปบรรทุกน้ำเข้าไปเติมไว้ในบ่อภายในวัด โดยบ่อมีความลึกมากกว่า 10 เมตร บรรจุน้ำได้ประมาณ 12,000 ลิตร ซึ่งภายในบ่อมีการต่อระบบท่อประปาส่งไปใช้ตามจุดต่างๆ ภายในวัด สามารถใช้ได้ไม่เกิน 2 วันหมด ชาวบ้านในพื้นที่ก็จะช่วยกันสับเปลี่ยนหมุนเวียนขับถังบรรทุกน้ำมาเติมให้เต็มอย่างต่อเนื่อง
...
นายมานพ โภชนา อายุ 54 ปี ชาวบ้านที่ขับรถถังบรรทุกน้ำมาเติมใส่บ่อภายในวัด กล่าวว่า ปีนี้แล้งและร้อนมากนอกจากชาวบ้านได้รับผลกระทบแล้ว ยังทำให้วัดเดือดร้อนขาดน้ำใช้เช่นกัน ตนจึงขับรถ 6 ล้อ ไปหาน้ำบรรทุกใส่ถังมาเติมในบ่อจำนวน 12,000 ลิตร เพื่อใช้ในวัด ที่ผ่านมาก็มี อบต.เขาค่าย และชาวบ้านได้ช่วยกันมาดูแลและเติมน้ำในบ่ออยู่ตลอดเวลา แม้ว่าทุกคนจะเดือดร้อนจากภัยแล้งก็ตาม
ด้านพระสินชัย สุเมทะโส พระสงฆ์วัดเขาค่ายเจริญธรรม กล่าวว่าปีนี้แล้งหนักและร้อนจัดมาก ทำให้วัดขาดแคลนน้ำ ชาวบ้านจึงได้ช่วยกันบรรทุกน้ำมาใส่ในบ่อให้ทางวัดได้ใช้ เมื่อปีที่ผ่านมาก็ประสบภัยแล้งเช่นกัน ปีนี้แล้งติดต่อกันเป็นปีที่ 2 แล้ว