ทำใจแล้ว "เจ๊อ้วน" เมีย "โกหมาส" เปิดใจทั้งน้ำตา ไม่หนีไปไหน หลังพบศพผัวถูกฝังที่ จ.นครศรีธรรมราช ยันจะรอเจอผัว หากตำรวจอยากจับก็จับ เพราะนายหัวขู่จะฆ่าตนกับลูกสาว ขณะที่ตำรวจเตรียมพุ่งเป้าเพื่อนสนิท พร้อมเพื่อนอีก 2 ร่วมทีมอุ้มฆ่า 


จากกรณีพบศพ นายขนบ สมหวัง หรือ "โกหมาส" อายุ 56 ปี เจ้าของสนามชนไก่ จ.ชุมพร ถูกอุ้มฆ่าฝังดิน หลังหายไปเกือบ 2 เดือน กระทั่งเมื่อเย็นวาน ชุดสืบสวนภูธรภาค 8 ตร.นครศรีฯ ตรวจสอบและขุดพบศพ "โกหมาส" ถูกคนร้ายนำไปฝังไว้ในสวนปาล์มบนหุบเขาบริเวณหมู่ 2 ตำบลบ้านลำเนา อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช และอยู่ระหว่างรอนิติเวช โรงพยาบาลมหาราช เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์และสาเหตุการตาย


ล่าสุดวันนี้ (27 มี.ค. 2567) น.ส.จารุวรรณ แซ่ภู่ หลานสาวของ "โกหมาส" ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า หลังจากตำรวจขุดพบศพที่ถูกฝังในสวนปาล์มในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อได้ดูจากภาพ ดูจากรูปร่าง เค้าโครงหน้า ทั้งแก้ม หนวด เส้นผม กางเกง มั่นใจ ตนและแม่ก็มั่นใจว่าเป็นน้า หรือ "โกหมาส" แน่นอน


ด้านนางวันเพ็ญ ธัญญพงศ์พาณิชย์ อายุ 64 ปี หรือ "เจ๊อ้วน" ภรรยาโกหมาส เปิดใจทั้งน้ำตาว่า ตนไม่คิดหนีไปไหน ตนจะอยู่ที่นี่จะรอเจอร่างและทำบุญศพของนายหัวสามีตน ถ้าตำรวจจะจับก็มาจับ ตนทำใจไว้แล้ว เพราะที่ผ่านมาตนก็มีส่วนผิดที่คิดจะทำร้ายนายหัว เพราะนายหัวขู่จะฆ่าตนกับลูกสาวของตนที่มาอยู่ด้วยกัน เนื่องจากนายหัวไปติดพันผู้หญิงที่ชื่อเก๋ แล้วทำให้ครอบครัวแตกร้าว จนนายหัวคิดจะฆ่าตนและลูกสาว ซึ่งในตอนนั้นตนก็ยกเลิกไปแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ตนยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด 


นางวันเพ็ญ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ตนทำใจแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็เกิด ส่วนบ้าน ที่ดิน สวนทุเรียน และสมบัติอื่นๆ กว่า 10 ล้านบาท ตนก็จะแบ่งให้กับลูกสาว และญาติฝ่ายของนายหัวสามีตน เพราะเราร่วมสร้างกันมา 

...


ส่วน พล.ต.อ.ภาณุเดช ณ พัทลุง ผบก.ภ.จว.ชุมพร กล่าวทางโทรศัพท์ว่า ตอนนี้ยังไม่มีการออกหมายจับใครเพิ่ม นอกจากผู้ต้องหาชุดเก่าที่ออกหมายจับไปแล้วจำนวน 7 คน ที่เป็นแก๊งรับซื้อรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ของ "โกหมาส" ส่วนจะออกหมายจับใครเพิ่มหรือไม่นั้นซึ่งมีไม่ต่ำกว่า 3 คน ต้องรอผลการพิสูจน์อัตลักษณ์ ผลยืนยันดีเอ็นเอ ว่าเป็นศพของ "โกหมาส" จริง จึงจะใช้เป็นหลักฐานการออกหมายจับผู้ที่ร่วมกันกระทำผิดต่อไป 


สำหรับผู้ต้องสงสัยหลักที่เป็นหัวหน้าแก๊งอุ้มฆ่า "โกหมาส" ในครั้งนี้ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.ชุมพร และตำรวจชุดสืบสวนภาค 8 พุ่งเป้าไปที่ "ชัย ระตะ" เป็นเพื่อสนิทของ "โกหมาส" และเพื่อนร่วมทีมอีก 2 คน โดยมีประวัติทางอาชญากรรมคดีมาแล้ว 21 ครั้ง ส่วนใหญ่เป็นคดีทำร้ายร่างกาย พยายามฆ่า ชิงทรัพย์ โดยคดีสุดท้ายก่อเหตุอุ้มฆ่าเผาทำลายศพนักธุรกิจในพื้นที่เกาะสมุย ได้รับการอภัยโทษลดหย่อนติดจริงกว่า 10 ปี และพ้นโทษออกจากเรือนจำมานานกว่า 10 ปีแล้ว