วันที่ 9 ของประเพณีถือศีลกินผัก เจี๊ยะฉ่าย จ.ภูเก็ต มีพิธีอิ้วเก้ง หรือแห่พระรอบเมืองของศาลซุ่ยบุ่นต๋อง จากนั้นช่วงค่ำมีพิธีส่งพระมัก และส่งองค์กิ๋วอ๋องไต่เต่กลับสวรรค์ บริเวณปลายแหลมสะพานหิน จุดประทัดนับล้านนัดดังสนั่นทั้งเมือง
เช้าวันที่ 23 ต.ค. 66 ซึ่งเป็นวันที่ 9 ของประเพณีถือศีลกินผัก หรือเจี๊ยะฉ่าย ประจำปีของ จ.ภูเก็ต และเป็นวันที่ 8 ของการประกอบพิธีอิ้วเก้ง หรือแห่พระรอบเมืองภูเก็ต ซึ่งศาลเจ้าซุ่ยบุ่นต๋อง หรือศาลเจ้าหล่อโรง อ.เมือง ประกอบพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าว โดยมีเหล่าม้าทรงชายหญิงแสดงอิทธิฤทธิ์ด้วยการใช้ของแหลม ของมีคมต่างๆ ทั้งในและนอกตำนานทิ่มแทงตามร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณกระพุ้งแก้ม หรือลิ้น ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นการรับเคราะห์แทนผู้ถือศีลกินผัก โดยได้เคลื่อนขบวนออกจากศาลเจ้าผ่านถนนสายต่างๆ เข้าสู่ตัวเมืองเพื่อมุ่งหน้าสู่ริมทะเล บริเวณปลายแหลมสะพานหิน อ.เมือง เพื่อไปประกอบพิธีอัญเชิญกระถางธูปศักดิ์สิทธิ์กลับศาลเจ้า
เมื่อขบวนแห่ผ่าน ประชาชน และนักท่องเที่ยว ที่ตั้งโต๊ะบูชาจะนำประทัดแพที่เตรียมไว้จำนวนมากจุดใส่ขบวน เพื่อเป็นการต้อนรับในโอกาสองค์เทพเสด็จออกประพาสเพื่อโปรดสัตว์ หรือทำนองออกเยี่ยมราษฎรของพระมหากษัตริย์ โดยมีขบวนธง และป้ายชื่อแห่นำหน้า จากนั้นเป็นเกี้ยวหามรูปพระ เรียกว่า ไท่เปี๋ย หรือเสลี่ยงเล็ก โดยหามรูปพระบูชาต่างๆ ออกนั่งเกี้ยวไป ซึ่งจัดตามชั้น และยศของเทพ จากนั้นเป็นขบวนของนิ่วสิ่ว หรือฉัตรจีน ตามด้วยพระเกี้ยวใหญ่ หรือเสลี่ยงใหญ่ ซึ่งมักใช้คน 8 คนหาม เป็นที่ประทับองค์กิ๋วอ๋องไต่เต่
...
ส่วนในค่ำวันเดียวกันตั้งแต่เวลา 22.00 น. แต่ละศาลเจ้าที่เข้าร่วมประเพณีถือศีลกินผักจะมีการประกอบพิธีส่งองค์ยกฮ่องซ่งเต่ (พระอิศวร) และองค์กิ๋วอ๋องไต่เต่ (องค์เก้าราชัน) โดยการประกอบพิธีส่งพระมักจะส่งกันที่หน้าเสาโกเต้งก่อนห้าทุ่ม มีการส่งองค์กิ๋วอ๋องไต่เต่กลับสวรรค์บริเวณปลายแหลมสะพานหิน เมื่อขบวนส่งพระออกพ้นประตู ไฟทุกดวงในศาลเจ้าจะดับสนิท และปิดประตูใหญ่ ท่ามกลางเสียงประทัด และควันที่เกิดจากการจุดประทัดนับล้านนัดไปทั่วตัวเมืองภูเก็ต จากนั้นในช่วงเวลา 17.09 น. วันที่ 24 ต.ค. 66 แต่ละศาลเจ้าจะอัญเชิญตะเกียงเทวดาทั้ง 9 ลงสู่ยอดเสาโกเต้ง ถือว่าประเพณีถือศีลกินผักประจำปีได้สิ้นสุดลงอย่างสมบูรณ์แล้ว.