พาไปชิมและดูขั้นตอนวิธีทำ ปลาจุกเครื่อง 1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น ประจำ จ.กระบี่ เจ้าของร้านยืนยันเป็นอาหารท้องถิ่นของแท้แน่นอน ทำกินกันมาตั้งแต่อดีตในหมู่บ้านชาวประมง อ.อ่าวลึก มีชุมชนคนจีนฮกเกี้ยนอพยพมาอยู่นานกว่า 100 ปีแล้ว ใช้ "ปลาทูมัน" ที่หาได้ในทะเลแถบนี้
กรณีที่กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ประกาศเมนูอาหาร "1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น" โดยที่ จ.กระบี่ มีการประกาศเป็นเมนู "ปลาจุกเครื่อง" ซึ่งหลังประกาศออกมา ชาวบ้านในพื้นที่พากันแปลกใจกับเมนูดังกล่าว เนื่องจากไม่เคยมีใครรู้จัก จนกลายเป็นกระแสดราม่าในสังคมออนไลน์ มีคนโพสต์ถามกันจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวจึงไปตามหาที่มาของเมนูดังกล่าว โดยไปที่ร้านอาหารชื่อร้านหอมเคย ใน อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ พบกับ นางสุนีย์ ภูมิภมร อายุ 66 ปี เจ้าของร้าน ซึ่งร้านแห่งนี้ถูกระบุว่า เป็นแห่งเดียวที่ขายเมนูนี้ พบว่ามีลูกค้าเดินทางมาที่ร้านไม่ขาดสาย เพื่อมาขอลองชิมเมนูปลาจุกเครื่อง ซึ่งลูกค้าทุกโต๊ะตั้งใจมาเพื่อกินปลาจุกเครื่องโดยเฉพาะ โดยทางร้านให้ข้อมูลว่า เมนูนี้เป็นเมนูอาหารที่ทำกินกันมาตั้งแต่อดีต ในชุมชนบ้านแหลมสัก ต.แหลมสัก อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ซึ่งชุมชนดังกล่าวเป็นชุมชนที่คนจีนฮกเกี้ยนอพยพมาอยู่กันนานกว่า 100 ปีแล้ว และทำเมนูนี้กินกันมาแต่อดีต เพราะหาวัตถุดิบได้มากในชุมชนแหลมสัก
นางสุนีย์ พาไปชมขั้นตอนการทำเมนูปลาจุกเครื่อง โดยส่วนผสมหลักในการทำประกอบด้วย 1. ปลาทูมัน 2. พริกแกงเผ็ด 3. มะพร้าวทึนทึก 4. กะปิ 5. หัวกะทิเข้มข้น และเครื่องปรุงต่างๆ จากนั้นจะนำปลาทูมาตัดหัวออก เอาเครื่องใน และขูดเนื้อปลาออกมาพร้อมก้างจนเหลือแต่หนังปลา แล้วนำเนื้อปลาที่ขูดออกมาไปโขลกจนเหนียวละเอียด ผสมกับเนื้อมะพร้าวขูด กะทิ และเครื่องปรุงต่างๆ ก่อนจะยัดไส้ที่ผสมไว้กลับไปในตัวปลา แล้วนำไปทอดจนหอมกรอบ โดยปลาที่ต้องเลือกใช้เป็นปลาทูมัน เนื่องจากเป็นปลาที่มีหนังค่อนข้างหนา เวลาขูดเอาเนื้อออกหนังจะไม่ฉีกขาด พอนำไปทอดตัวจะออกมาสวยงาม
...
นางสุนีย์ เผยว่า เหตุที่เมนูนี้ได้รับการคัดสรร เชื่อว่าน่าจะเคยมีเจ้าหน้าที่ลองรับประทานที่ร้าน เพราะเมนูนี้จะมีเฉพาะที่ร้าน จนกลายเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของร้าน ซึ่งที่มาก็มาจากตนเป็นคนดั้งเดิมของชุมชนบ้านแหลมสัก เห็นว่าเมนูนี้เคยกินมาตั้งแต่รุ่นแม่ พอลูกๆ จะมาเปิดร้าน ก็เลยเอาเมนูนี้มาทำขายด้วย เริ่มขายมาพร้อมเปิดร้านเมื่อ 6 ปีก่อน เหตุที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก เพราะเป็นอาหารดั้งเดิมของชาวบ้านแหลมสัก ผู้คนจึงไม่ค่อยรู้จัก และในกระบี่จะมีขายเฉพาะที่ร้านตนเท่านั้น ส่วนในชุมชนแหลมสัก ชาวบ้านจะทำกินกันเอง โดยมากจะทำกันช่วงที่มีงานทำบุญ ทำอาหารไปถวายพระ ประกอบกับเมนูนี้การทำค่อนข้างจะยุ่งยากและพิถีพิถัน จึงไม่ค่อยมีคนรุ่นหลังทำกินกัน กำลังจะเป็นเมนูอาหารที่ถูกลืม จึงเอามาทำขายที่ร้าน อยากให้คนทั่วไปได้กิน ซึ่งใครอยากลองกินก็ต้องมากินที่กระบี่เท่านั้น เพราะเราอยากส่งเสริมชุมชนให้มีรายได้จากการหาวัตถุดิบ โดยเฉพาะชาวประมงพื้นบ้านในชุมชน หลังจากนี้หากร้านอาหารทั่วไปในกระบี่จะนำไปทำขาย ตนเองก็ยินดี เพราะเป็นเมนูประจำจังหวัดไปแล้ว.