แฉขบวนการค้าพลุดอกไม้ไฟที่ทำโกดังที่ตลาดมูโนะระเบิด โยงนักการเมืองท้องถิ่นพัวพันผู้ค้ารายใหญ่ เคยถูกจับมาแล้ว 20 ล้าน แต่รอดไม่ถูกดำเนินคดี ขณะที่ผัวเมียเจ้าของโกดังอาจถูกสั่งไม่ให้มอบตัว เพราะอาจจะสารภาพ เผยตัวคนบงการและจ่ายส่วยให้ใครบ้าง
คืบหน้ากรณีโกดังพลุดอกไม้ไฟระเบิด ในพื้นที่ ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย แรงระเบิดยังทำให้บ้านของประชาชนพังเสียหายนับร้อยหลัง ทำให้ชาวบ้านไร้ที่อยู่อาศัยจำนวนมาก หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนสอบสวนถึงสาเหตุการระเบิด รวมไปถึงการออกหมายจับเจ้าของโกดัง จำนวน 2 ราย เนื่องจากไม่ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนตามวันเวลาที่กำหนด และเหตุครั้งนี้ทาง ผบช.ภาค 9 ได้ลงนามในคำสั่งเด้ง 4 เสือ สภ.มูโนะ ให้ไปปฏิบัติหน้าที่ภูธรจังหวัดนราธิวาส
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว ถือว่าเป็นโศกนาฏกรรมที่รุนแรงส่งกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้ เนื่องจากพ่อค้าจำหน่ายพลุ ดอกไม้ไฟ ได้กักตุนสินค้าเพื่อลักลอบจำหน่ายให้กับประเทศมาเลเซีย เนื่องจากได้กำไรสูง จึงไม่คิดถึงอันตรายและความปลอดภัยที่จะเกิดขึ้น นอกจากนี้ หน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ฝ่ายปกครอง รวมไปถึงหน่วยความมั่นคงก็ไม่ดำเนินการตรวจสอบหรือจับกุม ทั้งนี้ก็เพราะนายทุนและเจ้าหน้าที่ต่างเอื้อประโยชน์ด้านผลประโยชน์ร่วมกัน จึงทำให้พื้นที่ทั้ง ต.มูโนะ มีบรรดาสิ่งผิดกฎหมายจำนวนมาก โดยเฉพาะธุรกิจค้าวัตถุดินระเบิด อาทิ ดอกไม้ไฟ ประทัด และพลุหลากหลายชนิด
...
แหล่งข่าวพ่อค้ารายหนึ่ง ให้ข้อมูลว่า ในพื้นที่ ต.มูโนะ มีการลักลอบจำหน่ายพลุ ดอกไม้ไฟ มานานแล้ว และไม่มีหน่วยงานใดเข้ามายุ่ง เพราะทุกเดือนจะมีคนของรัฐมารับเงินจากพ่อค้า จะเป็น อส. และตำรวจชั้นผู้น้อย รวมไปถึงหน่วยงานอื่นๆ เช่นกัน แต่พ่อค้ารายใหญ่ในพื้นที่จะอยู่ในตัวเมือง อ.สุไหงโก-ลก โดยมีนักการเมืองท้องถิ่นเป็นคนรับผิดชอบ มีโกดังขนาดใหญ่และขนาดเล็กกระจายอยู่ในเขตเทศบาลสุไหงโก-ลก แต่ไม่มีใครกล้าทำอะไร เนื่องจากเบื้องหลังจะมีนักการเมืองใหญ่ดูแล
เมื่อประมาณ เดือน ก.ค.ปี 2554 เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงใช้กฎอัยการศึก นำกำลังบุกยึดประทัดกว่า 100 กล่องจากโกดังของนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่งใน อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นคนสนิทของนักการเมืองใหญ่ในพื้นที่ จับภายในอาคารพาณิชย์ ในเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท แต่ด้วยบารมีของนักการเมืองใหญ่ จึงไม่สามารถทำอะไรได้ และจนถึงตอนนี้ ขบวนการลักลอบค้าพลุ ดอกไม้ไฟ ยังมีจำนวนมาก เนื่องจากเป็นธุรกิจที่สร้างผลกำไรมหาศาล รวมไปถึงธุรกิจอื่นๆ ที่กระจายทั่วในเขต อ.สุไหงโก-ลก แม้เจ้าเมืองสุไหงโก-ลกเองก็ไม่สามารถทำอะไรได้
สำหรับพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก ในปัจจุบันธุรกิจที่ไม่เปิดเผยมีจำนวนมาก ที่มีนักการเมืองพัวพันอยู่ นอกเหนือจากธุรกิจพลุ ดอกไม้ไฟ ที่สร้างมูลค้ามหาศาลแล้ว ยังมีน้ำมันเถื่อน รวมไปถึงสิ่งผิดกฎหมายอื่นๆ ที่ลักลอบไว้ตามชุมชนร้านค้าในเขตเมืองอีกจำนวนมาก โดยเฉพาะพลุ ดอกไม้ไฟ ที่ไม่คำนึงถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นเหมือนที่เคยเกิดขึ้นที่ ต.มูโนะ
มีรายงานข่าวว่า หลังจากที่หลายฝ่ายมุ่งเป้าไปที่ตัวการใหญ่ที่พัวพันธุรกิจพลุ ดอกไม้ไฟ ทำให้ข้าราชการระดับสูงในพื้นที่บางคนถึงกับอยู่ไม่ติดที่ เพราะเกรงว่าเรื่องดังกล่าวจะสาวถึงตัว และยังมีข่าวในทางลับด้วยว่า 2 ผัวเมียเจ้าของโกดังระเบิดที่มูโนะอาจจะเป็นแค่พ่อค้าในคราบนอมินี ที่รับเป็นหน้าฉากให้กับนักการเมืองที่พัวพันขบวนการค้าพลุ ดอกไม้ไฟ และอาจจะเป็นสาเหตุที่ไม่กล้าจะมาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก และอาจจะถูกสั่งไม่ให้เดินทางกลับ และให้หลบหนีออกนอกประเทศ เพราะถ้าหากเข้ามาพบพนักงานสอบสวน ทั้งสองคนอาจจะแฉว่าใครอยู่เบื้องหลัง และจ่ายส่วยให้กับใครหน่วยงานใดบ้าง.
...