อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ สั่ง ผอ.นิคมสหกรณ์คลองท่อม สุ่มคัดแยกกลุ่มเอกสารสิทธิ์มิชอบ พร้อมส่งเอกสารร้องทุกข์ DSI เพิ่มอีก 300 แปลง หลังพบความผิดปกติ ด้านรองอธิบดี DSI ยันเร่งสืบสวนรักษาสิทธิ์ประชาชน ลั่นดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดเด็ดขาด

ตามที่ นายประเสริฐพงศ์ ศรนุวัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ได้ส่ง นายศุภฤกษ์  มีล่าม ตัวแทนจังหวัดกระบี่ พรรคก้าวไกล คณะทำงาน ส.ส.พรรคก้าวไกล ลงพื้นที่นิคมสหกรณ์คลองท่อม อ.คลองท่อม จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 66 ที่ผ่านมา เก็บรายละเอียดซักถามความเป็นมาเป็นไป ลักษณะประเด็นต่างๆ ของผู้ที่ครอบครองที่ดินในนิคมสหกรณ์คลองท่อม รวมทั้งข้อมูลเชิงลึก เนื่องจากพบความผิดปกติเอกสารสิทธิ์ที่ดินมิชอบนั้น 

เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 66 นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ นายเติมศักดิ์ เสียมไหม ผู้อำนวยการนิคมสหกรณ์อ่าวลึก รักษาการผู้อำนวยการนิคมสหกรณ์คลองท่อม สุ่มตัวอย่างเชิญผู้มีส่วนได้เสียในที่ดินนิคมสหกรณ์คลองท่อมมาให้รายละเอียด ซึ่งได้รับรายงานจากนายเติมศักดิ์ว่า ได้รับความร่วมมืออย่างดี และมีประชาชนที่มีส่วนได้เสียมาให้ข้อมูล จำนวน 39 ราย 

...

"ได้ส่งเอกสารร้องทุกข์เพิ่มเติมที่น่าเชื่อว่าอยู่ในข่ายเอกสารสิทธิ์มิชอบไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ จำนวนประมาณ 300 แปลง เพื่อให้ทำการสืบสวนสอบสวน และเป็นการสนับสนุนส่งเสริมนโยบายป้องกันและปราบปรามการทุจริตของกรมส่งเสริมสหกรณ์ด้วย อีกด้านหนึ่งได้สั่งการให้รักษาการผู้อำนวยการนิคมสหกรณ์คลองท่อม ให้ความสะดวกกับทุกกลุ่มที่ประสงค์ข้อมูล เพื่อให้ข้อมูลถูกต้องตรงตามความเป็นจริงทุกประการ" นายวิศิษฐ์ กล่าว 

                  

ด้าน นายประเสริฐพงษ์ กล่าวว่า กรณีนิคมสหกรณ์คลองท่อม เป็นหนึ่งในโครงการที่จะผลักดันให้เป็นพื้นที่กรณีตัวอย่างในการเข้าถึงที่ดินรัฐของประชาชน ที่มีคุณสมบัติที่จะได้ที่ดินรัฐเพื่อประกอบอาชีพ เพื่อความมั่นคงในการดำรงชีพในฐานะคนไทย ได้รับรายงานจากทีมงานที่ลงพื้นที่ว่า พบประชาชนบางรายสูญเสียเงินไปจำนวนหลายแสนบาท เพื่อแลกกับที่ดินที่น่าเชื่อว่าเป็นเอกสารสิทธิ์ที่ดินที่มิชอบ และที่ดินเหล่านี้หลังจากที่ออกเป็นโฉนดแล้ว ได้นำไปแปลงเป็นเงินหลายรูปแบบ บางรายขาย บางรายจำนองสถาบันการเงิน ซึ่งเป็นผลกระทบวงกว้าง เนื่องจากต้นตอน่าจะเป็นเอกสารสิทธิ์มิชอบ และทางด้านลึกทราบว่า มีอดีตผู้บริหารบางรายสำนึกในการกระทำความผิด หรืออาจจะเพิ่งทราบว่าปฏิบัติหน้าที่โดยความประมาท และไม่เจตนากระทำความผิด แต่ได้เซ็นรับรองเอกสารปลอมให้มีการออกโฉนดที่ดิน และได้มีหนังสือผ่านสหกรณ์จังหวัดกระบี่ไปยังที่ดินจังหวัดกระบี่ เพื่อให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่มิชอบนี้ ซึ่งต้องมีการตรวจสอบติดตามข้อมูลต่อไป อยากฝากไปถึงกรมส่งเสริมสหกรณ์ให้มีการสอบข้อเท็จจริงให้ปรากฏโดยไม่มีการละเว้น รวมทั้งการพิจารณาถึงการสอบวินัยข้าราชการด้วย

ร.ต.อ.ปิยะ รักสกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ได้รับเรื่องร้องทุกข์จากกรมส่งเสริมสหกรณ์แล้ว ซึ่ง พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มีนโยบายให้กำกับดูแลคดีนี้อย่างใกล้ชิด โดยได้มีการตั้งชุดสืบสวนแล้ว เนื่องจากมีประชาชนทั้งเป็นเหยื่อและร่วมกระทำความผิดจำนวนมาก ซึ่งกรมฯ จะรักษาสิทธิ์ของประชาชนที่ได้รับสิทธิ์กับการเข้าถึงที่ดินรัฐ ผ่านกระบวนการจัดที่ดินของกรมส่งเสริมสหกรณ์ และจะดำเนินคดีเด็ดขาดกับกลุ่มบุคคลและบุคคลที่กระทำความผิด

"ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งจะลงพื้นที่ด้วยตัวเองเพื่อรับข้อมูลทุกด้านอย่างละเอียด และเมื่อกรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินคดีตามกรอบอำนาจตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษแล้ว จะส่งพื้นที่คืนให้กับกรมส่งเสริมสหกรณ์นำไปจัดสรรให้กับประชาชนผู้มีสิทธิ์ได้ที่ดินตามกฎหมายต่อไป และหากพบเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้องเป็นผู้กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ รวมทั้งผู้มีอิทธิพลที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ต้องถูกดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ไม่มีการละเว้น และจะส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป" ร.ต.อ.ปิยะ กล่าว.

...