น้ำท่วมตรังใน 7 อำเภอ ล่าสุด เมื่อคืนที่ผ่านมา (2 ก.ค.66) เริ่มคลี่คลายแล้วหลายพื้นที่ ขณะที่น้ำตกอ่างทองน้ำสีโคลนไหลเชี่ยวกรากน่าหวาดเสียว ชาวบ้านเร่งสำรวจความเสียหาย วอนรัฐช่วยเหลือ อย่าให้ตกหล่น เตือนชาวประมงเรือเล็กงดออกจากฝั่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 2 ก.ค. 2566 ภายหลังจากที่ จ.ตรัง ได้เกิดน้ำท่วม 7 อำเภอ ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนไม่ต่ำกว่า 3 พันชีวิตแล้วนั้น ปรากฏว่าในวันนี้ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์น้ำในพื้นที่ หมู่ 3 บ้านห้วยเหรียง ต.นาโต๊ะหมิง อ.เมือง จ.ตรัง พบว่าวันนี้น้ำได้ลดระดับกลับเป็นสภาวะปกติแล้ว มีแดดและอากาศปกติ ไม่มีฝนตกลงมา ภายหลังจากวานนี้ (1 ก.ค.) น้ำจากลำคลองสว่างเอ่อล้นไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนกว่า 60 หลังคาเรือน ระดับน้ำสูงตั้งแต่ 50 เซนติเมตร ถึง 2 เมตร หลังน้ำลดชาวบ้านได้สำรวจความเสียหาย และต่างเร่งกวาดล้างบ้านที่มีโคลนดินปะปนมาด้วย รวมทั้งต่างนำที่นอนและเสื้อผ้ามาตากแดด

ตรังน้ำท่วมคลี่คลาย แต่น้ำตกอ่างทองไหลแรง ชาวบ้านวอนรัฐช่วยเหลือ อย่าให้ตกหล่น

ที่บ้านเลขที่ 11/1 หมู่ 3 บ้านห้วยเหรียง ต.นาโต๊ะหมิง ซึ่งเป็นของ นางวรรณณี พิบูลย์ อายุ 53 ปี ต่างเร่งสำรวจความเสียหาย และเช็ดล้างทำความสะอาดบ้าน นางวรรณณี บอกว่า หลังบ้านตนเองอยู่ติดกับลำคลอง และบ้านมีระดับต่ำกว่าถนน ทำให้น้ำเข้าท่วมสูงระดับหัวเข่า หรือประมาณ 50 เซนติเมตร ข้าวของเครื่องใช้ในบ้านถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด เช่น ที่นอน เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าบางส่วน ฯลฯ ซึ่งยอมรับว่าเก็บของไม่ทัน น้ำมาเร็วมาก และไม่คิดว่าจะเข้าท่วมบ้าน เพราะท่วมในรอบ 18 ปี แต่ปกติในทุกๆ ปีก็จะท่วมบริเวณรอบๆ บ้าน แต่ครั้งนี้เข้ามาในบ้านและสูง ตนอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ทั้งหมด 5 คน มีเด็กเล็กอีก 2 คน เมื่อคืนก็ได้กางเต็นท์ให้เด็กๆ นอนเบียดเสียดกัน ส่วนผู้ใหญ่นั่งหลับกัน ก็อยากวอนให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือดูแล เพราะครั้งที่ท่วมก่อนๆ บ้านตนเองตกหล่นไม่ได้รับการชดเชย เยียวยา หรือช่วยเหลือแต่อย่างใด

...

ตรังน้ำท่วมคลี่คลาย แต่น้ำตกอ่างทองไหลแรง ชาวบ้านวอนรัฐช่วยเหลือ อย่าให้ตกหล่น

ด้านบ้านเลขที่ 74/1 หมู่ 3 บ้านห้วยเหรียง ต.นาโต๊ะหมิง ซึ่งเป็นของ นางยุพิน สุเหร็น อายุ 66 ปี เป็นฟาร์มหมูและไก่ หลังจากวานนี้น้ำได้ไหลบ่าเข้าท่วมคอกหมูและไก่ ทำให้นางยุพินต้องจำใจปล่อยให้หมูและไก่จมน้ำ ลอยคอ และเกาะสิ่งของต่างๆ เพื่อเอาชีวิตรอดอยู่ภายในคอก ที่มีระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร เนื่องจากน้ำมาเร็ว ไม่สามารถขนย้ายได้ทัน โดยในวันนี้สภาพน้ำกลับสู่ภาวะปกติแล้ว สำรวจพบว่าหมูที่เลี้ยงไว้สามารถเอาชีวิตรอดได้ โดยที่ไม่ตายหรือสูญหาย มีแค่เพียงไก่จำนวนประมาณ 20 ตัว ตายจากน้ำท่วมในครั้งนี้ ส่วนชาวบ้านอีกราย บอกว่าบ้านตนเองไม่ค่อยมีข้าวของอะไรมาก มีเพียงแค่ที่นอนและเสื้อผ้าที่จมน้ำ แต่บ้านของพ่อบันไดบ้านหัก เก็บของไม่ทัน บ้านชำรุดเสียหาย

ตรังน้ำท่วมคลี่คลาย แต่น้ำตกอ่างทองไหลแรง ชาวบ้านวอนรัฐช่วยเหลือ อย่าให้ตกหล่น

ขณะที่ นายเถลิงศักดิ์ ภูวญาณพงศ์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ตรัง เปิดเผยว่า ที่ อ.ห้วยยอด ประชาชน ได้รับผลกระทบ จำนวน 3 ตำบล 11 หมู่บ้าน 66 ครัวเรือน 193 คน อำเภอสิเกา ประชาชนได้รับผลกระทบ จำนวน 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน อำเภอกันตัง ประชาชนได้รับผลกระทบ จำนวน 4 ตำบล 6 หมู่บ้าน 8 ครัวเรือน 31 คน อำเภอวังวิเศษ ประชาชนได้รับผลกระทบ จำนวน 2 ตำบล 21 หมู่บ้าน 532 ครัวเรือน 1,834 คน อำเภอย่านตาขาว ประชาชนได้รับผลกระทบ จำนวน 1 ตำบล 7 หมู่บ้าน 23 ครัวเรือน 112 คน อำเภอปะเหลียน ประชาชนได้รับผลกระทบ จำนวน 3 ตำบล 21 หมู่บ้าน 561 ครัวเรือน 1,446 คน ส่วนที่ อ.เมืองตรัง อยู่ระหว่างการตรวจสอบ สถานการณ์ปัจจุบันฝนหยุดตก ระดับน้ำที่ท่วมขังเริ่มลดลง คาดว่าหากไม่มีฝนตกเพิ่มในพื้นที่ สถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น รวมพื้นที่ประสบภัย 7 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนไม่ต่ำกว่า 3,616 คน

ตรังน้ำท่วมคลี่คลาย แต่น้ำตกอ่างทองไหลแรง ชาวบ้านวอนรัฐช่วยเหลือ อย่าให้ตกหล่น

ส่วน นายพริษฐ์ นราสฤษฏ์กุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง ได้เตือนชาวประมงห้ามออกจับสัตว์น้ำในระยะนี้ เนื่องจากน้ำทะเลเปลี่ยนเป็นสีเข้มและมีคลื่นสูง 2-3 เมตร หากออกเรือจับสัตว์น้ำเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับชาวประมง นอกจากนี้ยังเตือนนักท่องเที่ยวไม่ให้ลงเล่นน้ำทะเล อาจจะเกิดอันตรายได้ และในพื้นที่บริเวณบ้านปากเมง ต.ไม้ฝาด มีการตั้งเต็นท์จัดงานศพ ปรากฏว่าพายุฝนได้พัดปลิวไปตกบนหลังคาบ้าน ร้านค้า และติดสายไฟฟ้า ได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีคนได้รับบาดเจ็บ

...

ตรังน้ำท่วมคลี่คลาย แต่น้ำตกอ่างทองไหลแรง ชาวบ้านวอนรัฐช่วยเหลือ อย่าให้ตกหล่น

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ที่น้ำตกอ่างทอง ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง เป็นภาพน่าสะพรึงกลัว น้ำยังคงไหลแรง และมีปริมาณมาก น้ำมีสีแดงขุ่น เป็นโคลน พัดพาน้ำกิ่งไม้ไหลตามลงมา และไหลเชี่ยวกรากเป็นอย่างมาก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และปิดห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปใกล้ หวั่นเกิดอันตรายแก่นักท่องเที่ยว ซึ่งคาดว่าสถานการณ์จะกลับเป็นปกติในเร็ววันนี้.