ชาวประมงสตูล ฮือ นำเรือปลากระตักปิดร่องน้ำปากบารา เป็นวันที่ 3 หลังถูก จนท.ศูนย์ใบไม้เขียวจับเรือ 3 ลำ ข้อหาร่วมกันใช้เครื่องมืออวนครอบปลากระตักที่ใช้ประกอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้า จ่อนำเรือปิดเพิ่ม พร้อมร้องภาครัฐช่วยเร่งแก้ปัญหา รับที่ผ่านมาแอบทำเพราะครอบครัวอดอยาก และมีเรือต่างถิ่นแอบจับ จึงอยากให้มีการปรับเปลี่ยนกฎหมาย

กรณีเรือประมงอวนครอบปลากระตัก ซึ่งเป็นเรือประมงเรือเล็กเครื่องมือพานิชย์ ถูกหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลเกาะหลีเป๊ะ (สตูล) พร้อม จนท.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลกระบี่ (ใบไม้เขียว) จับกุมขณะทำประมงบริเวณเกาะเละละ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมืองสตูล จำนวน 3 ลำ พร้อมคนในเรือ 12 คน ข้อหาร่วมกันใช้เครื่องมืออวนครอบปลากระตักที่ใช้ประกอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ทำการประมงในเขตทะเลชายฝั่งโดยไม่ได้รับอนุญาตเหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 66 ที่ผ่านมา และทางชาวประมงปลากระตักได้นำเรือมาจอดปิดร่องน้ำปากคลองปากบาราเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์โดยเริ่มปิดร่องน้ำเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 66 จนขณะนี้เข้าสู่วันที่ 3 แล้วนั้น

ล่าสุดวันนี้ (14 มิ.ย. 66) บรรยากาศบริเวณแหลมเตะปัน ม.2 ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล ซึ่งเป็นจุดที่ใกล้กับเรือประมงอวนปลากระตักนำเรือมาจอดปิดร่องน้ำปากคลองปากบารา ยังคงมีเรือประมงกว่า 20 ลำมาจอดปิดอยู่เหมือนเดิมเป็นวันที่ 3 โดยทางชาวประมงเตรียมนำเรือมาปิดเพิ่มอีก ซึ่งขณะนี้เข้าช่วงน้ำใหญ่ ระดับน้ำทางฝั่งอันดามันจะมีระดับขึ้นลงสูง ดังนั้นเมื่อน้ำลดเรือก็จะไหลไปรวมตัวที่ร่องน้ำ ทำให้เรือขนาดใหญ่แล่นเข้า-ออกลำบากขึ้น

นายวรวิทย์ หมีนหวัง ชาวประมงที่ร่วมนำเรือมาปิดร่องน้ำ กล่าวว่า เราจะรอจนกว่าภาครัฐจะมีการเข้ามาเจรจาแก้ปัญหา ซึ่งคงต้องใช้เวลาเพราะเท่าที่ทราบทางจังหวัดเองก็ไม่ได้นิ่งเฉยกำลังแก้ปัญหากันอยู่ ขณะที่เรือประมงเองก็ไม่ได้นำเรือออกทำมาหากิน จึงต้องนำเรือมาจอดไว้จุดนี้ ซึ่งความจริงแล้วเรือปลากระตักจะทำได้อีกไม่กี่วัน หลังเทศกาลฮารีรายอของพี่น้องมุสลิม ก็จะหยุดแล้ว เพราะเข้าสู่มรสุมเรือขนาดเล็กไม่สามารถออกไปทำประมงได้

...

“ที่ผ่านมาถูกจับเพราะเราแอบ ทำเนื่องจากครอบครัวอดอยาก จึงจำเป็นต้องออกไปทำ สำหรับเรือเล็กที่ใช้เครื่องมือพาณิชย์นั้นชาวประมงบอกว่า สาเหตุที่เรือชนิดนี้เกิดขึ้นมา เมื่อหลายปีก่อนมีเรือปั่นไฟต่างถิ่นเข้ามาจับปลากระตักลักษณะแบบนี้ ชาวประมงเรามองว่าทรัพยากรบ้านเราทำไมเราไม่ได้จับ แต่ปล่อยให้คนต่างจังหวัดเข้ามาทำ จึงได้เกิดเรือชนิดนี้เข้ามา และก็ทำกันมาตลอด แต่หากกฎหมายไม่ให้เรามีที่ทำกินเราก็ต้องปรับเปลี่ยน ซึ่งกฎหมายที่ออกมามันไม่ได้เอื้อกับสภาพภูมิประเทศของ จ.สตูล ที่มีเกาะแก่งมากมาย ไปที่ไหนเกาะชนเกาะ พื้นที่อุทยานกับประกาศของกรมประมงทับซ้อนจนไม่มีที่ให้ทำกิน” นายวรวิทย์ กล่าว

ชาวประมง กล่าวว่า พวกเรารอการทำประชาพิจารณ์ 4 อำเภอ ขณะนี้เราไม่อยากใช้ความรุนแรง เพราะหากปิดร่องน้ำทั้งหมดก็จะกระทบต่อเรือประมงขนาดใหญ่ ที่วิ่งเข้า-ออก เรือทัวร์เบ็ด รวมทั้งเรือท่องเที่ยวที่วิ่งเข้า-ออกด้วย จึงอยากให้จังหวัดหามาตรการหรือผ่อนปรน ที่หน่วยงานภาครัฐก็ไม่ลำบากใจและชาวบ้านก็ออกทำกินได้ เรารู้ว่ากำลังผ่อนปรน และว่ากล่าวตักเตือน แต่ใบไม้เขียวก็ไม่ผ่อนปรน แต่จับกุมทั้งหมด จึงวอนให้เข้าใจพวกเราด้วย อยากให้หาข้อสรุปให้เราอย่างเร่งด่วนด้วย.