เจ้าของอู่ซ่อมรถฯ ที่สุราษฎร์ แฉตำรวจด่านตรวจ ที่ละแม จ.ชุมพร ทำตัวเป็นโจรในเครื่องแบบ ตั้งด่านข่มขู่รีดไถ่ประชาชนมานาหลายปี ยอมรับสุดทน เผยส่วนตัเคยโดนรีด 3 ครั้ง เสียเงินไปแล้วกว่า 2.3 แสนบาท  

เมื่อวันที่ 17 พ.ค.66 นายสุวิทย์ คำจีน ผู้ประกอบการอู่ซ่อมรถยนต์และขายอะไหล่ จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า วันนี้ตนได้นำข้อมูลพร้อมหลักฐานต่างๆ เช่น บันทึกการโอนเงิน, รูปถ่าย, และคลิปวีดีโอ ขณะโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจด่านละแม จ.ชุมพร เรียกให้จอดเพื่อขอตรวจสอบรถยนต์ที่บรรทุกอยู่บนรถสไลด์ ซึ่งกำลังขนย้ายไปส่งซ่อม เมื่อตรวจสอบเอกสารต่างๆไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่ยอมปล่อยให้ผ่านทาง โดยอ้างว่าชื่อเจ้าของรถไม่ตรงกับคนรับจ้างขนไปส่ง แต่ถ้ายอมจ่ายเงินก็จะปล่อยให้ผ่านไป

"วันนี้สุดทนจึงนำเรื่องมาปรึกษา ที่สำนักงานเลิศชัยทนายความ เลขที่ 9/9 หมู่ที่ 3 ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ พร้อมขอเรียกร้องผ่านผู้สื่อข่าวไปถึง ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ให้ช่วยตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เพราะชาวบ้านเดือดร้อนกันอย่างหนัก แทบไม่กล้าขับรถผ่านด่านฯนี้" นายสุวิทย์ กล่าว

นายสุวิทย์ เปิดเผยว่า มีลูกค้านำรถยนต์กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ เข้ามาซ่อมที่อู่ แต่ช่างที่อู่ซ่อมไม่ได้จึงต้องนำขึ้นรถสไลด์ เพื่อเคลื่อนย้ายเข้าไปซ่อมที่อู่น้องชายในกรุงเทพมหานคร แต่เมื่อมาถึงด่านตรวจละแม จ.ชุมพร ซึ่งช่วงนั้นเป็นเวลากลางดึก พบเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านฯได้เรียกให้หยุดรถ เพื่อขอตรวจสอบเอกสารรถยนต์ที่กำลังขนย้ายไปซ่อม ตนให้ดูเอกสารทุกอย่างพร้อมให้ตรวจสอบประวัติการแจ้งหาย ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านฯไม่ยอมปล่อย กลับบอกว่าชื่อเจ้าของรถที่ขนย้ายไม่ตรงกับคนรับจ้างขน ให้ติดต่อเจ้าของรถมาแสดงตัว แต่ตนปฏิเสธเนื่องจากเป็นเวลาดึก แล้วถามกลับไปว่ามีสิ่งผิดปกตอะไรหรือไม่ ถ้ามีก็ให้ตั้งข้อกล่าวหามา ตนพร้อมรับ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ตอบ ใช้เวลาถกเถียงกันอยู่นาน ตนจึงโทรศัพท์เข้ามาหาที่สำนักงานเลิศชัยทนายความ เพื่อขอคำแนะนำ กระทั่งตำรวจด่านละแมจึงยอมปล่อยออกมา

...

"โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ เหมือนฟางเส้นสุดท้าย ทำให้ตนสุดที่จะทนแล้ว จึงนำเรื่องราวทั้งหมดที่เคยถูกกระทำ ทั้งข่มขู่และรีดไถ่มานานหลายปี ส่วนตัวเคยถูกรีดไถ่จำนวน 3 ครั้ง เสียเงินไปแล้วกว่า 2.3 แสนบาท ครั้งแรกประมาณ 2 ปีที่แล้ว ถูกรีดเงินไป 1.6 แสนบาท ครั้งที่สองเมื่อวันที่ 4 มี.ค.65 และครั้งที่สามเมื่อวันที่ 12 พ.ค.66 ซึ่งรายชื่อผู้รับโอนเงินทั้งหมดตนไม่รู้จัก แต่โอนตามชื่อบัญชีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจฯด่านละแมสั่งให้โอน" นายสุวิทย์ กล่าว

นายสุวิทย์ เปิดเผยต่อว่า ด่านฯนี้ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่หรือผู้ที่เคยถูกรีดไถ ไม่กล้าขับรถผ่านทาง บางคนต้องยอมเสียเวลาขับอ้อมไปทางอื่น ตนไม่เคยเห็นด่านฯแห่งนี้สร้างผลงานจับยาเสพติด หรือสิ่งผิดกฎหมายได้เลยสักครั้ง แต่กลับมีชื่อเสียงด้านจับรถยนต์ชาวบ้านที่ค้างจ่ายค่างวด แล้วมีพฤติกรรมเสมือนเป็นพนักงานตามยึดรถให้กับไฟแนนซ์ หรือทำตัวเป็นโจรในเครื่องแบบตำรวจ คอยรีดไถ่ ข่มขู่ ถ้ายอมจ่ายเงินก็ปล่อย ถ้าไม่ยอมจ่ายเงินก็จะหาข้อหายัดเยียดให้ ทุกวันนี้เศรษฐกิจไม่ดี ชาวบ้านเดือดร้อนกันมากพอแล้ว

"วันนี้สุดทน ขอท้าชน พร้อมขอเชิญชวนหากผู้ใดที่เคยถูกด่านฯแห่งนี้รีดไถ ส่งข้อมูลมา ตนจะดำเนินการเอาเรื่องให้ถึงที่สุด และขอฝากผ่านสื่อฯไปถึง ผบ.ตร.และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ช่วยลงมาตรวจสอบพฤติกรรมการทำหน้าที่ฯของตำรวจฯด่านละแม จ.ชุมพร ให้ด้วย เพราะชาวบ้านเดือดร้อนกันหนักแล้ว" นายสุวิทย์ กล่าว 

ผู้สื่อข่าวรายงเพิ่มเติมว่า ล่าสุดได้รับแจ้งว่า มีคนติดต่อเข้ามาหาผู้เสียหาย เพื่อขอร้องไม่ให้เอ่ยชื่อ คนรับโอน ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 12 พ.ค.66 โดยอ้างว่า เป็นเพียงคนกลางในการรับโอนเท่านั้น และไม่มีส่วนได้เสียกับเงินที่รีดไถ่ดังกล่าว