กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง อทช. เร่งตรวจสอบนักดำน้ำชาวต่างชาติ หลังโพสต์คลิปจับสัตว์น้ำในแนวปะการัง พื้นที่เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี

วันที่ 10 พ.ค. นายอภิชัย เอกวนากุล รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (รรท.อทช) กล่าวว่า จากกรณีที่มีการโพสต์คลิปวิดีโอโดย Paradise Flims by Attila Ott ในช่องทาง YouTube ใช้ชื่อว่าคลิปว่า Scuba diving in the paradise, Koh Phangan, Thailand เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 66 ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อตรวจสอบในคลิปพบภาพผู้โพสต์กำลังดำน้ำในทะเลท้องที่เกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยใช้มือไปจับและสัมผัสปลาจิ้มฟันจระเข้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นความผิดฐานจับหรือครอบครองปลาสวยงามโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งภายหลังจากที่ได้ทราบเรื่อง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 (สุราษฎร์ธานี) ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อสำรวจตรวจสอบข้อเท็จจริง จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติคนเดิมที่เคยโดนดำเนินคดีเมื่อปี พ.ศ.2563 กระทำความผิดฐานจับสัตว์ทะเลในพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมขึ้นมาถ่ายรูปเล่น หรือการประกอบกิจการใดๆ ในแนวปะการัง ที่อาจเป็นอันตรายหรือมีผลกระทบต่อเต่าทะเล ปลาสวยงาม หรือทำให้หอยมือเสือ กัลปังหา ปะการัง ซากปะการัง หรือหินปะการัง ทำลายหรือเสียหาย ตามเลขคดีที่ 637/2563 ประจำวันข้อ 1 เวลา 16.30 น. ของวันที่ 1 กันยายน 2563

...

กระทั่ง (วันที่ 9 พ.ค. 66) นายชลธิชาญ ผลทับทิม ตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลจังหวัดสุราษฎร์ธานี สังกัดสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษผู้กระทำความผิดต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเกาะพะงัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความแล้ว พร้อมตรวจสอบแล้วทราบว่า ชื่อ นายแอตติลา ออต สัญชาติฮังการี และได้เรียกตัวมาพบ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาในฐานความผิด จับหรือครอบครองปลาสวยงาม (ปลาจิ้มฟันจระเข้ สกุล (Genus) Tracyrhamphus) โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 มาตรา 45, 100 จากการสืบสวนบุคคลที่ถูกกล่าวหาของพนักงานสอบสวน พบว่าเป็นบุคคลเดียวกันที่เคยต้องคดีในลักษณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2563 ในพื้นที่เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งถูกตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย และโดนผลักดันออกนอกราชอาณาจักรไปแล้ว ส่วนสาเหตุที่กลับเข้ามาในประเทศไทยได้อีกนั้น ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเกาะพะงันให้ข้อมูลว่า บุคคลดังกล่าวได้ยื่นขออุทธรณ์ต่อตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเกาะพะงัน เพื่อขอกลับเข้ามาดูแลย่า ซึ่งเป็นชาวต่างชาติที่มีอายุมาก และมีถิ่นพำนักในพื้นที่เกาะพะงัน ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเกาะพะงันจึงอนุญาตให้เข้ามาได้ ในส่วนคลิปภาพวิดีโอตามที่ลงโพสต์ในยูทูบครั้งนี้ ผู้ถูกกล่าวหาแจ้งว่าเป็นภาพเก่าซึ่งถ่ายไว้นานแล้ว ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเกาะพะงัน ได้แจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหานำพยานและหลักฐานมาแสดงต่อหน้าพนักงานสอบสวนต่อไป

สำหรับการดำเนินการในครั้งนี้ กรมฯ ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง อาทิ เจ้าหน้าที่ของสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 ตำรวจภูธรเกาะพะงัน และตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเกาะพะงัน ในการร่วมมือกันบูรณาการทำงานได้อย่างรวดเร็ว สามารถนำผู้กระทำผิดมารับโทษ และที่สำคัญต้องขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกคนที่ช่วยกันเป็นหูเป็นตา สอดส่องดูแล ไม่ให้ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งถูกทำลาย ซึ่งหากพบเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก ให้รีบแจ้งเบาะแสมายังสายด่วนพิทักษ์ป่าและรักษาทะเล โทร. 1362 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเจ้าหน้าที่จะเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ดำเนินการได้ทันท่วงที อย่างไรก็ตาม ตนขอเน้นย้ำให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาสัมผัสความงามของธรรมชาติทางทะเล ให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบของกรมฯ อย่างเคร่งครัด ไม่จับหรือสัมผัส ดูแต่ตา มืออย่าต้อง ไม่เอาอะไรกลับไป นอกจากรูปถ่ายและความทรงจำ ไม่ทิ้งอะไรไว้ นอกจากรอยเท้า ช่วยรักษาความสะอาด เพื่อระบบนิเวศใต้ท้องทะเลไทยจะคงอยู่อย่างยั่งยืนตลอดไป นายอภิชัย รรท.อทช. กล่าวทิ้งท้าย.

...