"มนัญญา" รุดแก้ปัญหาผลผลิตปาล์มล้นตลาด จ.กระบี่ ดันสหกรณ์รับซื้อปาล์มน้ำมันเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร แก้ปัญหาความเดือดร้อน ราคาเป็นธรรม

เมื่อวันที่ 21 ม.ค.66 นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวในโอกาสลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ พร้อมด้วย นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นางสาวอัญมณี ถิรสุทธิ์ รองอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ นายภัสชญภณ หมื่นแจ้ง รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร โดยมี นายอนุวรรตน์ โหมดพริ้ง รองผวจ.กระบี่ นายสมชาย เทพจิตร ประธานกรรมการชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด สมาชิกชุมนุมสหกรณ์ฯ เข้าร่วม ณ ชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด ต.คลองยา อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ว่า ปาล์มน้ำมันเป็นพืชเศรษฐกิจที่สําคัญในเขตภาคใต้ กระทรวงเกษตรฯ จึงได้มีแนวทางในการส่งเสริมการปลูกปาล์มน้ำมันในพื้นที่ จ.กระบี่ โดยใช้กลไกสหกรณ์ขับเคลื่อน ผ่านชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด ซึ่งขณะนี้พบว่า เกษตรกรในพื้นที่ประสบปัญหาราคาปาล์มตกต่ำ และมีปัญหาการลักลอบปาล์มนอกโควตาเข้ามาในประเทศไทย จึงได้ขอความร่วมมือให้ชุมนุมสหกรณ์ฯ ดำเนินการรับซื้อผลผลิตปาล์มน้ำมันจากเกษตรกร และสมาชิกอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยเหลือประชาชน เนื่องจากพบว่า ลานเทของเอกชนในพื้นที่หลายแห่งปิดการรับซื้อ ดังนั้น ขอให้สหกรณ์เป็นที่พึ่งของเกษตรกรเพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน

...

จากรายงานของประธานกรรมการชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด ได้รายงานว่า ขณะนี้ราคารับซื้อผลปาล์มดิบ ณ ปัจจุบัน วันที่ 20 ม.ค.66 อยู่ที่ 4.80 บาทต่อกิโลกรัม และพร้อมจะขยับราคารับซื้อเพิ่มเป็น 5 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อช่วยเหลือสมาชิกตามที่ได้ขอความร่วมมือให้ช่วยเหลือเกษตรกรในภาวะดังกล่าว จึงเป็นการตอกย้ำว่าระบบสหกรณ์เป็นที่พึ่งของสมาชิกเกษตรกรอย่างแท้จริง และเป็นสถาบันที่จะช่วยถ่วงดุลทางการตลาดกับภาคเอกชน

"จะเห็นได้ว่าในสถานการณ์ที่ลานเทเอกชนปิดการรับซื้อด้วยสาเหตุใดก็ตาม สหกรณ์ก็ยังขับเคลื่อนได้เพื่อช่วยเหลือสมาชิก จึงขอให้ทุกคนช่วยกันรักษาสหกรณ์ให้เกิดความเข้มแข็ง นอกจากนี้ได้กำชับให้กรมวิชาการเกษตร ตรวจจับการนำเข้าอย่างเข้มงวด อย่างไรก็ตาม เรื่องการหยุดรับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรไม่อยากให้มองเป็นเรื่องการเมือง เพราะเชื่อว่าไม่มีใครเอาความเดือดร้อนของเกษตรกรมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง สำหรับกรณีปัญหาโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม สาขาอำเภอคลองท่อม ซึ่งเคยอยู่ในการดูแลของชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด ที่มีปัญหาเรื่องการจัดทำสัญญาซื้อขายโรงงานที่ไม่ชอบธรรม ขณะนี้ได้รับการประสานจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะเข้ามาช่วยดูแลเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว เบื้องต้นจะมีการหารือกับกรรมการสหกรณ์ในวันที่ 25 ม.ค.นี้ เพื่อช่วยแก้ไขและนำโรงงานสกัดแห่งนี้กลับเข้ามาอยู่ในความดูแลของชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด ต่อไป" นางสาวมนัญญา กล่าว

ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้สหกรณ์หามืออาชีพมาช่วยในการบริหารจัดการสหกรณ์ เพื่อให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดแก่สมาชิก รวมถึงได้เน้นย้ำเรื่องการส่งออกซึ่งปาล์มจะต้องมีคุณภาพเพื่อแข่งขันกับต่างประเทศ และผลักดันให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มเข้าสู่ระบบมาตรฐาน RSPO (Roundtable on Sustainable Palm Oil) ซึ่งเป็นมาตรฐานการผลิตปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม ที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและรับผิดชอบต่อชุมชน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประเทศคู่ค้า จึงอยากเชิญชวนเกษตรกรชาวสวนปาล์มทั่วประเทศเข้ามาสู่ระบบนี้เพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ จ.กระบี่ มีเกษตรกรปลูกปาล์มน้ำมันจำนวน 41,156 ราย พื้นที่เพาะปลูกจำนวน 1,151,415 ไร่ ผลผลิตที่ได้ 3,345,467 ตันต่อปี ผลผลิตเฉลี่ย 3 ตันต่อไร่ มีสหกรณ์ที่ดำเนินธุรกิจรวบรวมผลผลิตปาล์มน้ำมันจำนวน 14 แห่ง

จากนั้น นางสาวมนัญญา เดินทางเยี่ยมชมแปลงสาธิตการผลิตปาล์มน้ำมันของนายจรัส ปทุมสุวรรณ ประธานกลุ่มแปลงใหญ่ต้นแบบ (ปาล์มนํ้ามัน) สหกรณ์นิคมอ่าวลึก ณ ต.คีรีวง อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ ซึ่งได้รับใบรับรองมาตรฐาน RSPO โดยดำเนินกิจกรรมปลูกปาล์มและยังปลูกพืชร่วมและพืชแซมในสวนปาล์ม ทําให้สามารถจําหน่ายเป็นรายได้เสริมเพิ่มขึ้น เช่น การปลูกสละร่วมในสวนปาล์มน้ำมัน โดยในพื้นที่ 3 ไร่ สามารถจําหน่ายสละได้ 90,000 บาทต่อปี สร้างรายได้เสริมได้เป็นอย่างดี.

...