กปร.ร่วมกับศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ และภาคีเครือข่าย จัดงาน "ชมศูนย์ศึกษา พัฒนาความรู้ ดูนิทรรศการ" ครั้งที่ 23 ประจำปี 2565 หนุนโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน ตามแนวพระราชดำริ ขยายองค์ความรู้สู่โรงเรียนบ้านเปล ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส
เมื่อวันที่ 19 ต.ค.65 น.ส.นงนุช กั้งยอด ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเปล ต.กะลุวอเหนือ อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส เปิดเผยว่า โรงเรียนบ้านเปลได้นำผลผลิตของนักเรียนมาจัดแสดงและวางจำหน่ายภายในงาน "ชมศูนย์ศึกษา พัฒนาความรู้ ดูนิทรรศการ" ครั้งที่ 23 ประจำปี 2565 ภายใต้ชื่องาน "4 ทศวรรษ แห่งการพัฒนา ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ" ซึ่งเป็นกิจกรรม ที่สำนักงาน กปร.ร่วมกับศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ และ จ.นราธิวาส จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 18-22 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา
ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเปล กล่าวต่อว่า จากการที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้โดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชีนีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ไปทรงเยี่ยมราษฎรทั่วทุกภาคของประเทศไทย และจากการทรงปฏิบัติสนองพระเดชพระคุณ ทรงพบปัญหาความยากจน ประชาชนเป็นโรคขาดสารอาหารและสุขภาพอ่อนแอ โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด พระองค์จึงได้พระราชทานพระราชดำริ เพื่อช่วยเหลือให้เด็กและเยาวชนให้มีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยให้ดำเนินการโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันในโรงเรียนขึ้น โรงเรียนบ้านเปลก็เป็นหนึ่งในโรงเรียนที่ได้น้อมนำพระราชดำริมาดำเนินการ ภายใต้การสนับสนุนจากศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ ทั้งด้านองค์ความรู้ตลอดจนปัจจัยการผลิตเริ่มต้นในการดำเนินโครงการ ตั้งแต่การจัดเตรียมพื้นที่ การสนับสนุนเมล็ดพันธุ์พืช พันธุ์ปลา ไก่ไข่ พันธุ์สัตว์ชนิดต่างๆ โดยมีวิทยากรจากศูนย์ศึกษาฯ มาให้ความรู้แก่เด็กนักเรียน และคุณคูรผู้ดูแล
...
"ผลผลิตที่ได้นั้น เด็กนักเรียนจะนำไปขายในโครงการอาหารกลางวัน เพื่อทำอาหารกลางวันให้นักเรียนรับประทาน ทุกวันจะมีการบันทึกโดยนักเรียน และจะนำขึ้นทูลเกล้าถวายรายงานพระองค์ท่าน รายงานเหล่านั้นจะเป็นลายมือของเด็กนักเรียน มีการทำบัญชีรายรับรายจ่าย ต้นทุนกำไร ผลผลิตที่เหลือจะขายให้แก่ชุมชน ส่วนหนึ่งแจกให้นักเรียนที่มีฐานะยากจนนำไปประกอบอาหารทานที่บ้าน นอกจากนี้ยังนำความรู้ในการทำการเกษตร การแปรรูปอาหาร และความรู้ต่างๆไปถ่ายทอดให้แก่พ่อแม่ และเพื่อนบ้านอีกด้วย" ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเปล กล่าว
น.ส.นงนุช กั้งยอด กล่าวต่อว่า จากความสำเร็จที่ได้รับในโครงการฯ ทำให้สหกรณ์นักเรียนโรงเรียนบ้านเปล สามารถต่อยอดขยายผลไปสู่การแปรรูปผลผลิตในหลายผลิตภัณฑ์ อาทิ ปลาดุกร้า ปลาดุกแดดเดียว ทำให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น เช่น ปลาดุกหากขายสดจะได้ราคากิโลกรัมละ 60 บาท เมื่อนำมาแปรรูปเป็นปลาดุกร้า จะขายได้ราคากิโลกรัมละ 200 บาท ทำให้มีเงินหมุนเวียนในการดำเนินการโครงการฯอย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องรองบประมาณสนับสนุนจากส่วนงานที่เกี่ยวข้อง และยังมีกำไรนำมาปันผลให้แก่สมาชิกสหกรณ์นักเรียนในโรงเรียนอีกด้วย
"ด้วยพระบารมีของพระองค์ท่าน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ตลอดจนพระบรมวงศ์ทุกพระองค์ที่สนับสนุนทำให้เรามีความสุขในการทำงาน มีความสุขในการอยู่กับเด็กๆ ดีใจที่ได้มามีส่วนร่วมในการสร้างพื้นฐานของชีวิตคนในการดูแลเด็กๆ ตั้งแต่อนุบาลถึง ป.6 แล้วต่อยอดได้จนถึงมัธยม ทั้งนี้เพื่อร่วมสร้างให้นักเรียนเป็นเด็กดี ที่เก่งมีคุณภาพ และเป็นเยาวชนที่ดีของประเทศต่อไป" ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเปล กล่าว
...