นายสราวุธ ชีวะประเสริฐ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เผยว่า ปัญหาสำคัญของภูเก็ตคือ แหล่งน้ำจืดที่มีไม่เพียงพอต่อคนในพื้นที่ โดยเฉพาะเมื่อยามนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือน ทำให้ภาครัฐ เกษตรกร ผู้ประกอบการต้องไปซื้อน้ำดิบราคาแพง จากขุมเหมือง 109 แห่งทั่วเกาะ แม้จะมีน้ำบาดาลค่อนข้างมาก แต่ก็ติดที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่อนุรักษ์ ไม่สามารถขุดเจาะได้ และแม้บางพื้นที่จะขุดเจาะได้ แต่ต้องเสี่ยงกับการเจอน้ำเค็มหรือสิ่งปนเปื้อน
“จากการศึกษาพบว่า จ.ภูเก็ต มีปริมาณน้ำต้นทุนรวม 80.90 ล้าน ลบ.ม. แบ่งเป็น อ่างเก็บน้ำ 21.53 ล้าน ลบ.ม. โครงการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็ก 1.49 ล้าน ลบ.ม. ขุมน้ำและขุมเหมือง 21.02 ล้าน ลบ.ม. แหล่งน้ำขนาดเล็ก 9.75 ล้าน ลบ.ม. และน้ำบาดาล 27.11 ล้าน ลบ.ม. คาดว่าจะมีความต้องการใช้น้ำรวมเพิ่มเป็นปีละ 87.67 ล้าน ลบ.ม. ในปี 2570 และในปี 2583 จะมีความต้องการใช้น้ำถึง 104.93 ล้าน ลบ.ม. แต่ความต้องการน้ำในแต่ละปีเฉลี่ยที่ 104 ล้าน ลบ.ม. ด้วยเหตุนี้ แหล่งน้ำต้นทุนขณะนี้ จึงยังไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำ โดยเฉพาะความต้องการน้ำเพื่อการท่องเที่ยว ที่มีความต้องการน้ำเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 26-30%”
...
รองเลขาธิการ สทนช. เผยอีกว่า ขณะนี้ สทนช.จึงอยู่ระหว่างดำเนินการโครงการศึกษาแผนหลักแบบบูรณาการ เพื่อการบรรเทาอุทกภัยและภัยแล้งพื้นที่เฉพาะเกาะภูเก็ต โดยได้มอบหมายให้มหาวิทยาลัยนเรศวร และกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาดำเนินการศึกษาด้านการจัดทำแผนหลักแบบบูรณาการ แนว ทางการบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการที่ครอบคลุมตาม
แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี ทั้ง 6 ด้าน ตลอดจนรวบรวม กลั่นกรองและจัดลำดับความสำคัญ แผนปฏิบัติการ ระยะเร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาวของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจัดทำรายงานศึกษาวางโครงการเบื้องต้น
“การเพิ่มศักยภาพให้แก่การสำรองน้ำต้นทุนของ จ.ภูเก็ต ในช่วงฤดูฝน เพื่อรองรับความต้องการน้ำในช่วงฤดูแล้ง มีความสำคัญต่อการบริหารจัดการน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค และอุตสาหกรรม โดย เฉพาะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักของจังหวัดและของประเทศ จากการศึกษา ได้มีการวางโครงการเบื้องต้นแล้ว จำนวน 6 โครงการ ซึ่งสอดคล้องตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี ทั้ง 6 ด้าน ของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ”
...
ทั้งนี้ เบื้องต้นระยะแรกจะดำเนินการบริหารจัดการน้ำที่อ่างเก็บน้ำคลองกะทะ ในพื้นที่ ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต, โครงการวางท่อน้ำดิบพร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำ (คลองกะทะ) เพื่อสูบผันน้ำในฤดูฝนไปผลิตน้ำประปา และรักษาน้ำต้นทุนในอ่างเก็บน้ำคลองกะทะ ณ สถานีผลิตน้ำคลองกะทะ การประปาส่วนภูมิภาค สาขาภูเก็ต, ขุมน้ำประปาเทศบาลตำบลเชิงทะเล ในพื้นที่ตำบลเชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต และโครงการแก้มลิงบ้านโคกโตนด พร้อมระบบผันน้ำไปยังอ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ ในพื้นที่ตำบลเชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต หากโครงการพัฒนาตามแผนทั้ง 3 โครงการข้างต้นแล้วเสร็จ จะสามารถเพิ่มศักยภาพในการสำรองน้ำต้นทุน เพิ่มขึ้นถึงปีละ 0.85 ล้าน ลบ.ม.