สำนักงาน กปร. จัดค่าย "RDPB Camp รุ่นที่ 12" ที่โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช หวังคนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้แนวพระราชดำริ เพื่อเก็บเกี่ยวความรู้จากประสบการณ์จริง นำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อพัฒนาต่อยอดให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง-ประเทศชาติ

เมื่อวันที่ 9 พ.ค.65 สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา สำนักงาน กปร.ได้จัดโครงการค่ายเยาวชนรู้งานสืบสานพระราชดำริ หรือ "RDPB Camp รุ่นที่ 12" ขึ้นโดยนำเยาวชนจากสถาบันการศึกษาในระดับอุดมศึกษาทั่วประเทศ จำนวน 80 คน ที่สมัครเข้าร่วมโครงการค่ายเยาวชนฯเข้ามาเรียนรู้การดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งพื้นที่ที่พาเยาวชนไปร่วมเรียนรู้ คือ โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องจากพระราชดำริ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งสถานที่ดังกล่าวมีเรื่องราวมากมาย ที่จะให้เยาวชนได้เรียนรู้และค้นหา โดยกิจกรรมวันแรกหลังเยาวชนจากสถาบันต่างๆทำความรู้จักันแล้ว ยังได้ให้เยาวชนทำความรู้จักกับ สำนักงาน กปร. ว่ามีบทบาทและทำหน้าที่อะไรบ้าง

...

สำนักงาน กปร. เป็นหน่วยงานกลางในการประสานความร่วมมือ เพื่อสนองพระราชดำริให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล โดยมีพันธกิจคือการรับเสด็จและสนองพระราชดำริ สำรวจ ศึกษา วิเคราะห์ และจัดทำแผนงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ รวมทั้งศึกษา รวบรวม สรุป และส่งเสริมการขับเคลื่อนขยายผล รวมถึงเป็นศูนย์ข้อมูลเผยแพร่องค์ความรู้ตามแนวพระราชดำริต่างๆ และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่ประชาชนในทุกภาคส่วน

สำหรับโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อครั้งอดีตพื้นที่แห่งนี้เคยเป็นแหล่งผลิตข้าวที่สำคัญในพื้นที่ภาคใต้ เรียกได้ว่าเป็นแหล่งอู่ข้าวอู่น้ำ จากปัญหาการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างผิดวิธี เช่น การทำลายป่าต้นน้ำ ป่าชายเลน สิ่งปลูกสร้างต่างๆที่สร้างกีดขวางทางน้ำ จึงเกิดน้ำท่วมในช่วงฤดูน้ำหลาก น้ำเค็มรุกในฤดูแล้ง ทำให้ระบบนิเวศเสียสมดุลนำมาซึ่งปัญหา 4 น้ำ 3 รส คือ น้ำท่วม น้ำแล้ง น้ำเค็ม น้ำเปรี้ยว และรสจืด รสเค็ม รสเปรี้ยว ส่งผลต่อการประกอบอาชีพของชาวบ้าน ที่มีทั้งการทำนา การทำเกษตร และการเลี้ยงกุ้งที่ได้รับความนิยมในขณะนั้น พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงห่วงใยปัญหาที่เกิดขึ้น จึงมีพระราชดำริแก้ไขปัญหาถึง 13 ครั้ง เริ่มจากการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใส ฝายคลองไม้เสียบ และมาถึงโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยมีประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิทำหน้าที่กักน้ำจืด กันน้ำเค็ม ป้องกันน้ำท่วม บรรเทาน้ำแล้ง เพื่อให้ชาวบ้านสามารถประกอบอาชีพได้อย่างปกติสุข ปัจจุบันชาวบ้านที่นี่มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

สำหรับกิจกรรมในช่วงวันที่ 2 และ 3 นั้น ได้ให้เยาวชนร่วมทำ Work shop เช่น การทำ Storytelling ในหัวข้อ "เล่าเรื่องอย่างไรให้เข้าใจและเข้าถึง" เทคนิคการผลิต Clip VDO ด้วยกล้องมือถือ การทำ Infographic และ Motion Graphic

ส่วนกิจกรรมในช่วงวันที่ 4-6 เป็นช่วงที่สนุกตื่นเต้น คือ การลงพื้นที่จากฐานการเรียนรู้ 8 ฐาน ทั้งด้านพืช ประมง ปศุสัตว์ รวมถึงการแปรรูปต่างๆ ซึ่งน้องๆได้ลงมือปฏิบัติกัน อาทิ ฐานของในสวนอร่อยทุกอย่าง, เคาะปาก ลากปลา, ชิมน้ำ ชมนก @ ป่าจาก, และแห้วจูด กุ้งฝอย และหอยขม ซึ่งแต่ละฐานนอกจากจะได้ความสนุกที่ลงมือปฏิบัติแล้ว เหนืออื่นใดคือความรู้นอกห้องเรียนที่น้องๆได้รับจากประสบการณ์ตรงในครั้งนี้ นอกจากนี้ยังได้เห็นกระบวนการของการทำหน้าที่ อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใส การส่งน้ำเข้าสู่ระบบชลประทานของฝายคลองไม้เสียบ ซึ่งเป็นแนวทางการบริหารจัดการน้ำที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานไว้เพื่อช่วยแก้ไขและบรรเทาปัญหาเรื่องน้ำทั้งท่วมน้ำแล้ง เพื่อราษฎรของพระองค์อีกด้วย

โอกาสนี้ น.ส.พัชรี มั่นเขียว นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ ซึ่งเป็นตัวแทนเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้กล่าวถึงความรู้สึกที่มีโอกาสมาร่วมเข้าค่ายเยาวชนฯครั้งนี้ว่า "สนุกและได้ความรู้หลายๆอย่าง โดยเฉพาะจากฐานเรียนรู้ นอกจากนี้ได้รู้จักเพื่อนใหม่หลายๆคน ที่มาจากต่างพื้นที่ มาเจอกัน มาทำงานร่วมกัน ขอขอบคุณหน่วยงานที่จัดค่ายนี้ขึ้นมา รวมถึงการดูแลพวกเรา ตั้งแต่วันมาถึงจนถึงวันกลับด้วย"

...

ด้าน นายเอกอนันต์ ภูศรี นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม วิทยาเขตกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า "สิ่งแรกที่ผมรู้สึกประทับในค่ายนี้ก็คือ เพื่อนๆ วิทยากร และพี่ๆที่ดูแลเรา นอกจากจะได้รับความรู้จากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งเราได้เรียนรู้โครงการที่สามารถพัฒนาประเทศชาติได้หลายอย่าง เราในฐานะเยาวชนก็ควรจะต่อยอดและรักษาไว้ให้คนรุ่นลูกรุ่นหลานของพวกเรา นอกจากนี้ยังสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นภายในค่ายนี้ เพื่อนๆที่ช่วยเหลือกันทำ Work shop และ VDO ต่างๆจากความรู้ที่วิทยากรมอบให้ นอกจากนี้ยังมีสิ่งหนึ่งที่อยากฝากไว้ คือ อยากให้ทุกคนมาค่ายนี้ครับ"

ด้าน นายวิสณุ หวดสันเทียะ นักศึกษาจากวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสระแก้ว กล่าวถึงความรู้สึกว่า "ประทับใจหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมทีม ฐานความรู้ต่างๆที่จะสร้างประสบการณ์ความรู้ให้มากขึ้น"

ปิดท้ายที่ นายอนาวิล สุราฤทธิ์ นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง กล่าวถึงความรู้สึกว่า "ความรู้สึกแรกคือทุกคนมาจากต่างที่ต่างถิ่น และได้มาทำกิจกรรมร่วมกันประมาณ 5-6 วัน รู้สึกว่าตัวเองเก่งขึ้น เช่น การตัดวีดิโอหรือการทำอินโฟกราฟิก และการทำกิจต่างๆร่วมกับเพื่อนๆ ซึ่งจะนำความรู้ที่ได้ครั้งนี้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน และพัฒนาต่อยอดต่อไป"

นอกจากนี้ สำนักงาน กปร. ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า นี่เป็นส่วนหนึ่งจากเสียงสะท้อนของเยาวชน ที่เข้าร่วมโครงการค่ายเยาวชนรู้งานสืบสานพะราชดำริ "RDPB Camp รุ่นที่ 12" สำหรับการจัดโครงการค่ายเยาวชนรู้งานสืบสานพระราชดำริ (RDPB Camp) สำนักงาน กปร.มุ่งหวังให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้แนวพระราชดำริ ผ่านโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้เยาวชนได้เก็บเกี่ยวความรู้จากประสบการณ์จริง และนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน สถาบันการศึกษา และการทำงานในภายภาคหน้า รวมทั้งจะได้ร่วมกันสืบสาน รักษา และพัฒนาต่อยอดโครงการต่างๆ ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง ชุมชน สังคม และประเทศชาติสืบไปด้วย

...