ดีเอสไอ จับมือกรมที่ดิน และอุทยานฯ เร่งสอบ น.ส.3 ปมที่ 125 ไร่ริมหาดคลองสน รุกพื้นที่ อช.หาดนพรัตน์ธาราฯ เอาโดรนบินเก็บภาพไว้ตรวจสอบ ชี้ต้องลุยตรวจอีกกว่า 2 หมื่นไร่ คาด 3 เดือนรู้ผล

จากกรณีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ทำการบินสำรวจพื้นที่ตรวจยึดเก่าเมื่อปี 2546 เนื้อที่ 125 ไร่ บริเวณริมหาดคลองสน ในอ่าวทึ้ง หมู่ 4 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ พบว่ามีการไถปรับพื้นที่ที่เคยตรวจยึดใหม่ 8 ไร่ จึงสั่งการให้อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ดำเนินการแจ้งความหาตัวผู้กระทำความผิด ซึ่งต่อมามีเอกชนอ้างว่ามีสิทธิครอบครองที่ดินดังกล่าว โดยอ้างเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก. เนื้อที่รวม 30 ไร่ ซึ่งเป็น น.ส.3 ก. ที่ออกมาหลังประกาศพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตอุทยานฯ กลายเป็นประเด็นที่สังคมจับตามอง เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ทำเลทอง หากมีการครอบครองและซื้อขาย จะมีมูลค่ามหาศาล ซึ่งต่อมาทาง กอ.รมน.ภ.4 เห็นว่าการตรวจสอบกรณีดังกล่าวล่าช้า และเชื่อว่าการออกเอกสารสิทธิ อาจจะออกโดยมิชอบ จึงเข้ามาร่วมตรวจสอบ และเร่งรัดให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งดำเนินการ

...

ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 27 เม.ย.2565 ที่ทำการอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เดินทางมาประชุมร่วมกับ นายสุพจน์ ภู่รัตนโอภา ผอ.สบอ.5 ตัวแทนอุทยานฯ และ พ.อ.ดุสิต เกษรแก้ว หน.ชุดตรวจสอบและแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ กอ.รมน.ภ.4 เพื่อติดตามความคืบหน้าในการตรวจสอบที่ดินแปลงดังกล่าว ซึ่งจากการรวบรวมข้อมูลของ จนท.พบว่าพื้นที่ดังกล่าว น่าจะมีการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ แต่กระบวนการตรวจสอบยังต้องรอหลักฐานเป็นภาพถ่ายทางอากาศ ที่แปลโดยกรมอุทยานฯ นอกจากนี้ในที่ประชุมทางอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ แจ้งให้หน่วยงานรับผิดชอบทราบว่า จะดำเนินการตรวจสอบที่ดินทั้งหมดในเขตอุทยานฯ ไม่ใช่เฉพาะแปลงที่มีปัญหา 125 ไร่เท่านั้น โดยคาดว่าจะต้องตรวจพื้นที่กว่า 20,000 ไร่ แต่ใน

เบื้องต้นจะส่งทีมบินโดรนของดีเอสไอ ลงมาบินเก็บภาพทางอากาศก่อน หลังจากรวบรวมข้อมูลทั้งหมดแล้ว จะประสานไปยังกรมที่ดิน เพื่อพิจารณาเพิกถอนเอกสารสิทธิในแปลงที่เชื่อว่าออกโดยมิชอบ โดยระหว่างการพูดคุย นายไตรยฤทธิ์ ติดต่อโดยตรงไปยังนายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมที่ดิน เพื่อประสานขอข้อมูลเรื่องแนวเขตที่ดิน ในแปลงที่มีปัญหา ซึ่งทางอธิบดีกรมที่ดิน ตอบกลับมาว่าทางกรมที่ดิน พร้อมร่วมมือกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ อย่างเต็มที่ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหากับที่ดินที่ถูกออกเอกสารโดยมิชอบ โดยหลังจากนี้จะเร่งจัดทีมช่างรังวัดจากกรมที่ดิน ลงมาสำรวจพื้นที่ร่วมกับ จนท.ดีเอสไอ จนท.อุทยานฯ และทหาร

นายไตรยฤทธิ์ กล่าวว่า กรณีการบุกรุกที่ดินริมชายหาดบริเวณหมู่ 4 ต.อ่าวนาง เนื้อที่ 125 ไร่ นั้น เบื้องต้นตรวจสอบพบว่ามีการออกเอกสารสิทธิแบ่งแยกจาก 6 แปลง เป็น 38 แปลงย่อย ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนว่าเป็นการออกโดยมิชอบหรือไม่ ตอนนี้ยังไม่อยู่ในขั้นตอนที่จะรับเป็นคดีพิเศษ แต่จะเป็นการทำงานร่วมกันของทุกหน่วยงาน โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะเข้ามาช่วยในส่วนของการสืบสวนสอบสวน หากผลการพิสูจน์หลายอย่างออกมาชัดเจนแล้วว่ามีการบุกรุกเกิน 100 ไร่ ก็จะพิจารณารับเป็นคดีพิเศษอีกครั้ง

...

อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวอีกว่า ในขั้นต้นจะเร่งตรวจสอบเรื่องแนวเขตที่ดินในพื้นที่ดังกล่าว และพื้นที่อีกกว่า 20,000 ไร่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าอ่าวนาง-ป่าหางนาค ซึ่งตามปกติจะต้องใช้เวลาดำเนินการนานประมาณ 6 เดือน แต่กรณีนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนจะทำงานร่วมกันระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมอุทยานฯ และกรมที่ดิน คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 3 เดือน ก็น่าจะรู้ผล ส่วนจะมีการเอาผิดผู้เกี่ยวข้องหรือไม่ อยู่ที่การสอบสวนว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องในการออกเอกสารสิทธิบ้าง สำหรับผู้ครอบครองปัจจุบัน ส่วนใหญ่อาจไม่รู้เรื่องด้วย แต่หากสอบสวนพบว่ามีส่วนรู้เห็นกับการออกเอกสารโดยมิชอบ ก็ต้องดำเนินคดีด้วยเช่นกัน.