กรณีหญิงชราวัย 80 ปี ตกจากชั้น 7 รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ขณะเข้ารักษาโควิด ลูกชายเข้าแจ้งความเรียกร้องรพ.แสดงความรับผิดชอบ โดยพยาบาลบอกว่าผู้ป่วยขอกลับบ้าน แอบออกจากตึกไปทางช่องหน้าต่างเดินไปตามระเบียงแล้วตกลงไป ก่อนโทรไปบอกว่า คนไข้กระโดดตึก

เวลา 14.30 น. วันที่ 13 เม.ย. 2565 นายวีระ เกตุแก้ว อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 216/4 หมู่ 18 ต.ท่าเรือ อำเภอ/เขต เมืองนครศรีธรรมราช เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.จรินทร์ หลีเอบ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครศรีธรรมราช แจ้งว่า นางประภัย เกตุแก้ว อายุ 80 ปี ได้ติดโควิด-19 เข้าไปทำการรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา ต่อมาในวันที่ 11 เมษายน 2565 นางพยาบาลประจำตึกผู้ป่วยที่แม่ตนพักรักษาตัวอยู่ ได้แจ้งว่าจะนำตัวแม่ของตนไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลพระพรหม

“ต่อมาเวลาประมาณ 19.30 น. ของวันเดียวกันได้มีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช โทรศัพท์มาแจ้งตนว่านางประภัย เกตุแก้ว แม่ได้กระโดดตึกชั้น 7 เสียชีวิตแล้วที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช หลังจากเกิดเหตุ ทางโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราชให้รับศพนางประภัย ไปทำการฌาปนกิจศพในเย็นวันเดียวกันที่วัดบุญนารอบ หรือวัดจำปาขอม ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จนถึงขณะนี้ทาง รพ.มหาราชฯ ยังไม่ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเชื่อว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดจากการกระทำละเมิดของโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เป็นเหตุให้นางประภัย มารดาตกตึกขั้น 7 ของ รพ.มหาราชฯ เสียชีวิต จึงขอเรียกร้องให้ผู้บริหารที่รับผิดชอบออกมา ออกมารับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ด้วยโดยในฐานะลูกชายที่ถูกต้องตามกฎหมาย จะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป”

...

นายวีระ กล่าวว่าตั้งแต่วันเกิดเหตุตนและญาติๆ ได้เดินทางไปดูแลขอรับศพที่ รพ.มหาราชฯ โดยได้ถ่ายภาพและคลิปศพของนางประภัย มารดา และบริเวณข้างเคียง แต่ทางผู้บริหาร รพ.ไม่ยอมให้ถ่ายและสั่งให้ตนลบภาพและคลิปออกทั้งหมด เท่าที่ตนสอบถามพยาบาลที่ประจำในตึกที่เกิดเหตุอ้างว่าจะมีพยาบาลและแพทย์ที่เข้าเวรประจำอยู่รวม 4 คน และอ้างว่าอยู่ในช่วงเปลี่ยนเวรพอดี โดยนางประภัย มารดาตนได้รบเร้าขอกลับบ้าน และแอบเดินออกจากตึกเดินไปทางช่องหน้าต่างก่อนจะเดินไปตามระเบียงตึกจนพลัดตกลงไปเสียชีวิต ทราบว่าหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ประจำตึกยังไม่ทราบเหตุการณ์ แต่ญาติคนไข้และเจ้าหน้าที่ชั้นล่างได้โทรศัพท์ไปแจ้งแพทย์ พยาบาลประจำตึกที่รับผิดชอบห้องที่นางประภัย มารดารักษาตัวอยู่ จนมีการลงมาตรวจสอบและรีบนำร่างนางประภัย เข้าในห้องฉุกเฉินตึกอุบัติเหตุ เพื่อช่วยชีวิตโดยการปั๊มหัวใจและใช้เครื่องช่วยหายใจ แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตแม่ตนไว้ได้

ทั้งนี้ อยากจะทราบว่าทาง รพ.มหาราชฯ โดยใครจะเป็นผู้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงและแสดงออกถึงความรับผิดชอบ ซึ่งจะชดเชยสักกี่ล้านก็คงไม่สามารถที่จะคืนชีวิตแม่ของตนกลับมาได้ อย่างไรก็ตามตนและญาติๆ คงไม่เรียกร้องอะไรมาก แต่อยากจะเห็นถึงการแสดงความรับผิดชอบและแก้ปัญหาเพื่อไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นซ้ำอีกโดยพรุ่งนี้ (14 เม.ย.) จะนำใบบันทึกแจ้งความเข้าพบ ผอ.รพ.มหาราช เพื่อสอบถามความรับผิดชอบในเรื่องนี้อย่างเป็นทางการต่อไป.