จากกรณีเกิดข้อขัดแย้งโครงการ “เมืองต้นแบบนิคมอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต อ.จะนะ จ.สงขลา” ที่มีทั้งฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
หลังจากกลุ่มชาวบ้านบางส่วนออกมาคัดค้านเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนโครงการก่อสร้าง อ้างถึงผลกระทบต่อระบบนิเวศ จนในที่สุด ครม.ให้ชะลอโครงการออกไปก่อน เพื่อประเมินสิ่งแวดล้อมด้านยุทธศาสตร์ หรือ SEA ใหม่
ขณะที่อีกกลุ่มออกมาสนับสนุน โดยให้เหตุผลว่าหากโครงการหยุดชะงักจะทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งเป็นเสียงส่วนใหญ่เสียโอกาสในการพัฒนาโครงสร้างเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานต่างๆที่ควรเกิดขึ้นในอนาคต
...
ล่าสุด นายสมหมาย ขวัญทองยิ้ม อดีตข้าราชการครู ต.สะกอม อ.จะนะ จ.สงขลา ให้ความเห็นว่า ตามสภาพความเป็นจริงชาวบ้านในพื้นที่ส่วนมากต่างสนับสนุนโครงการ เพราะเห็นว่าเยาวชนคนรุ่นใหม่จะได้ มีงานทำ
ต้องยอมรับว่าตอนนี้จะนะแทบไม่มีการจ้างงานในพื้นที่มานานแล้ว เยาวชนที่จบการศึกษาจะหาทางออกด้วยการไปทำงานตามพื้นที่ใกล้เคียง หรือจังหวัดต่างๆ
สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือยังมีเยาวชน 3 จังหวัดชายแดนใต้ บางส่วนเลือกที่จะลักลอบไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้าน แม้เสี่ยงที่จะถูกกดค่าแรง หรือสุดท้ายอาจถูกจับกุมติดคุกก็ต้องยอม
ประเด็นการคัดค้านครั้งนี้ไม่เหมือนกับการต่อต้าน โครงการท่อแยกก๊าซไทย-มาเลเซีย หรือคัดค้าน โรงไฟฟ้าจะนะ ในอดีต ที่มีประชาชนเข้าร่วมประท้วงจำนวนมาก
ครั้งนั้นทุกคนกลัวผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม แต่ปัจจุบันโรงแยกก๊าซและโรงไฟฟ้าจะนะ ก็ไม่ได้ทำลายระบบนิเวศแต่อย่างใด
ด้าน นายเขียน ชูเขียว อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.ตลิ่งชัน อ.จะนะ กล่าวว่า ในอดีตจากรุ่นสู่รุ่นคนจะนะทำอาชีพประมงมาตลอด เพราะสมัยก่อนในท้องทะเลกุ้งหอยปูปลามีจำนวนมาก
แต่ปัจจุบันต้องยอมรับความจริงว่าเกิดภาวะสัตว์ทะเลลดน้อยลง จากความเสื่อมโทรมของทรัพยากรประมง สิ่งสำคัญและอันตรายที่สุดคือชาวบ้านเอง ใช้เครื่องมือทำลายทรัพยากรทางทะเลอย่างต่อเนื่อง เช่น อวนรุน อวนลาก และเรือไฟ ทำให้สัตว์น้ำลดลงอย่างรวดเร็ว
เดี๋ยวนี้การนำเรือออกทะเลแต่ละครั้ง ต้องวัดดวงว่าจะกำไรเล็กน้อยหรือจะขาดทุน เพราะค่าน้ำมันแพงขึ้น ค่าลูกเรือ และค่าภาระดูแลรักษาเรือ ล้วนเป็นต้นเหตุทำให้ชาวประมงจำนวนมากยอมแพ้ เลิกทำประมง ขายเรือทิ้งไปหาอาชีพใหม่ทำ
...
ด้วยความหวังว่าเมื่อโครงการนิคมฯเกิดขึ้นจะเกิดการจ้างงานในพื้นที่ ช่วยยกระดับและพัฒนาวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นอย่างครบวงจร เป็นการเปลี่ยนจะนะไปสู่ยุคนิคมอุตสาหกรรมตามแผนที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายไว้
ชาวบ้านต้องการให้รัฐเร่งตรวจสอบว่ามีกลุ่มใดที่มีผลประโยชน์ทับซ้อน และสร้างความวุ่นวายให้เกิดความแตกแยกทางสังคม ยิ่งไปกว่านั้นคือยังขัดขวางการพัฒนาประเทศ
...
ขณะที่ นางมณี อนันทบริพงศ์ ตัวแทนสตรีชาว อ.จะนะ กล่าวว่า ไม่เข้าใจว่าทำไมรัฐบาลไม่ให้ความเป็นธรรมกับชาวบ้านส่วนใหญ่ในพื้นที่ ไม่ลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าคนที่นี่มีความเป็นอยู่ยากจนเพียงใด ทำไมปล่อยให้กลุ่มเอ็นจีโอมากำหนดชีวิตชาวบ้านอย่างขาดความชอบธรรม
กลุ่มคนส่วนใหญ่ที่สนับสนุนโครงการทำด้วยหัวใจบริสุทธิ์ ไม่เคยมีผลประโยชน์ใดๆทั้งสิ้น เพียงแค่หวังว่าจะฟื้นเศรษฐกิจอำเภอจะนะให้ดีขึ้นเพื่อลูกหลานของพวกเรา
ขณะนี้ตัวแทน กลุ่มจะนะรักบ้านเกิด 3 ตำบล คือ ตลิ่งชัน นาทับ และสะกอม กว่า 90 % กำลังเรี่ยไรเงินเพื่อเดินทางเข้ากรุงเทพฯ
...
ทุกคนพร้อมไปปักหลักเรียกร้องให้รัฐบาลยุติการชะลอโครงการและเดินหน้าสร้างนิคมฯจะนะต่อไป.
สุวิทย์ แก้วห่อทอง