กรมประมงมีมาตรการประกาศ “ปิดอ่าวไทย” เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำปรับสมดุลให้เหมาะสมในเขตพื้นที่ จ.ชุมพร จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.เป็นต้นไป “เฉลิมชัย” เปิดโครงการกระจายสินค้าประมงพื้นบ้านสู่ผู้บริโภค ในพื้นที่จังหวัดชายทะเลทั้ง 23 จังหวัด เพื่อช่วยเหลือชาวประมงสร้างรายได้

กรมประมงมีมาตรการ “ปิดอ่าวไทย” ฟื้นฟูสัตว์ทะเล เปิดเผยเมื่อวันที่ 11 ก.พ. นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีประกาศใช้มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อนในทะเลอ่าวไทย ประจำปี 2565 (ปิดอ่าวไทย) พร้อมเปิดโครงการกระจายสินค้าประมงพื้นบ้านสู่ผู้บริโภค (Fisherman Market) โดยกรมประมง ณ บริเวณชายทะเลอ่าวประจวบคีรีขันธ์ สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ มีนายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ รองอธิบดีกรมประมง และนายเสถียร เจริญเหรียญ ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ ให้การต้อนรับ

นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า มาตรการ “ปิดอ่าวไทย” เป็นมาตรการที่มีวัตถุประสงค์เพื่ออนุรักษ์ และฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำให้มีใช้อย่างยั่งยืน สอดคล้องกับนโยบายของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ ที่เน้นย้ำให้กรมประมงดำเนินมาตรการอนุรักษ์เพื่อรักษาทรัพยากรสัตว์น้ำให้มีความยั่งยืน และให้เกิดความสมดุลเหมาะสมกับการประกอบอาชีพประมง มอบหลักการปฏิบัติงานยึดหลัก 3 ป. คือ การป้องกัน การป้องปราม และการปราบปราม พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการสร้างการรับรู้ความเข้าใจ และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนเป็นสำคัญด้วย

สำหรับปีนี้ กรมประมงยังดำเนินมาตรการปิดอ่าวไทยในช่วงเวลาและพื้นที่เดิม รวมถึงเครื่องมือที่อนุญาตให้ใช้บางชนิดเป็นของกลุ่มประมงขนาดเล็ก และไม่กระทบกับมาตรการปิดอ่าวไทย เนื่องจากผลการดำเนินมาตรการฯในปีที่ผ่านมา ยังคงสอดคล้องกับวงจรชีวิตปลาทู สามารถฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำได้อย่างยั่งยืน การสำรวจแต่ละช่วงเวลาพบว่า ตั้งแต่ 15 ก.พ.-15 พ.ค.ในเขตพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ชุมพร และ จ.สุราษฎร์ธานี พบพ่อพันธ์ุแม่พันธุ์ปลาทูมีความสมบูรณ์ขนาดความยาวเฉลี่ย 18.5 ซม. และพร้อมผสมพันธุ์ และมีการแพร่กระจายของลูกปลาทู-ปลาลัง และปลาเศรษฐกิจขนาดเล็ก ขณะที่ช่วงระหว่าง 16 พ.ค.-14 มิ.ย. ในเขตชายฝั่งทะเลตามแผนที่แนบท้ายของประกาศปิดอ่าวไทยตอนกลางของพื้นที่เดียวกัน พบลูกปลาวัยอ่อนที่เกิดบริเวณพื้นที่มาตรการมีโอกาสเลี้ยงตัวบริเวณชายฝั่ง และในเขตต่อเนื่องปลายแหลมเขาม่องไล่ถึง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และพบลูกปลาขนาดเล็ก เดินทางเคลื่อนเข้าสู่อ่าวไทยรูปตัว ก. เพื่อให้ปลาทูสาวเจริญเติบโตเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ต่อไป

...

รองอธิบดีกรมประมงกล่าวต่ออีกว่า สำหรับพิธีประกาศปิดอ่าวไทยในปีนี้ เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ได้รับความสนใจจากชาวประมงมาร่วมเป็นสักขีพยานในการประกาศปิดอ่าวฯ และร่วมประกอบพิธีบวงสรวงพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พร้อมปล่อยขบวนเรือเจ้าหน้าที่ เพื่อออกปฏิบัติหน้าที่ในช่วงประกาศใช้มาตรการดังกล่าว มีเรือตรวจประมงทะเลเข้าร่วมขบวนทั้งสิ้น 8 ลำ ตลอดจนชาวประมงพื้นบ้านจากหลายพื้นที่มาแสดงเจตจำนง ในความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะดูแลรักษาทรัพยากรสัตว์น้ำให้มีใช้อย่างยั่งยืน

ภายในงานดังกล่าวนายเฉลิมชัย มอบหนังสือรับรองมาตรฐานการทำประมงพื้นบ้านอย่างยั่งยืนให้แก่ชาวประมงพื้นบ้านจำนวน 8 ราย มอบแผ่นป้ายเงินอุดหนุนโครงการพัฒนาอาชีพและส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชน และมอบพันธุ์กุ้งก้ามกรามจำนวน 700,000 ตัวให้แก่ผู้นำชุมชน นำไปปล่อยเพื่อเพิ่มผลผลิตในแหล่งน้ำธรรมชาติ และสร้างรายได้ให้กับชุมชน ณ แม่น้ำปราณบุรี อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตลอดจนร่วมกันปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำชายฝั่งจำนวน 220,000 ตัว ประกอบด้วย กุ้งกุลาดำ 100,000 ตัว กุ้งแชบ๊วย 100,000 ตัว และปลากะพงขาว 20,000 ตัว ลงในอ่าวประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเพิ่มผลผลิตลงในแหล่งน้ำธรรมชาติอีกแห่งหนึ่งด้วย

ไฮไลต์สำคัญคือ การเปิดงานโครงการกระจายสินค้าประมงพื้นบ้านสู่ผู้บริโภค หรือ Fisherman Market เป็นนโยบายสำคัญที่ รมว.เกษตรฯ มีความห่วงใยต่อพี่น้องชาวประมงพื้นบ้านที่ประสบปัญหาในการประกอบอาชีพ สั่งการให้กรมประมงเปิดช่องทางการตลาด สำหรับกระจายผลผลิตในพื้นที่จังหวัดชายทะเลทั้ง 23 จังหวัด โดยส่วนกลางกรมประมงเปิดตลาด Fisherman Market ในทุกวันศุกร์ของสัปดาห์ เพื่อให้ชาวประมงพื้นบ้านนำสินค้าและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำคุณภาพดี มีมาตรฐาน มาวางจำหน่ายให้ผู้บริโภคในราคาสุดพิเศษ