เปิดใจ "ฮามาน๊ะ" ภรรยา "สุทธิศักดิ์" เหยื่อเหยียบกับระเบิดคนร้ายจนขาขาดที่จะนะ เผยเสียใจมากจนพูดไม่บอก หากแลกจะได้ขอให้สามีกลับมาเป็นปกติ ไม่อยากได้เงินชดเชยกับเบี้ยคนพิการจากรัฐเลย
จากกรณีเมื่อวันที่ 3 ก.พ. เวลา 18.00 น. ชาวบ้านได้เหยียบกับระเบิด บริเวณสะพานรถไฟบ้านน้ำเค็ม หมู่ 9 ตำบลบ้านนา อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา จนได้รับบาดเจ็บขาขวาขาด ทราบชื่อคือ นายสุทธิศักดิ์ หมีนเส็น ชาวบ้านหมู่ 9 บ้านน้ำเค็ม ตำบลบ้านนา อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลจะนะ และถูกส่งต่อโรงพยาบาลสงขลา เพื่อรักษาต่อจนกระทั่งอาการบาดเจ็บพ้นขีดอันตรายแล้ว
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงพยาบาลสงขลา แผนกศัลยกรรมอุบัติเหตุชาย เตียง 9 อาการของนายสุทธิศักดิ์ หลังเข้ารับการผ่าตัดตกแต่งบาดแผลบริเวณขาขวา พบว่ายังคงมีอาการอ่อนเพลียจากการเสียเลือดมาก ส่วนขาซ้ายได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดที่คนร้ายรลอบวางระเบิดใต้หมอนรองรางรถไฟบ้านน้ำเค็ม จนเป็นเหตุให้นายสุทธิศักดิ์เดินไปเหยียบกับระเบิดจนขาขวาขาด เพื่อตอบโต้ หน่วยปฏิบัติการพิเศษจังหวัดชายแดนใต้ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครอง เข้าทำการปิดล้อมจับกุมคนร้ายสมาชิกกลุ่มก่อความไม่สงบฯ ระดับปฏิบัติการซึ่งเป็นกลุ่มของนายจิรศักดิ์ เพ็งเลาะ มีจำนวน 4 คน ได้เข้ามาหลบซ่อนตัวอยู่ในโรงเรียนตาดีกาใกล้มัสยิดโคกเค็ด พื้นที่บ้านโคกเค็ด หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านนา อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ก่อนจะมีการวิสามัญฯ คนร้ายเสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บ 1 ราย
...
จากการพูดคุยกับ นางฮามาน๊ะ หมีนเส็น อายุ 43 ปี ภรรยาของนายสุทธิศักดิ์ กล่าวว่า นายสุทธิศักดิ์ทำหน้าที่เป็นเสาหลักดูแลของครอบครัว และจะออกไปทำงานรับจ้างทั่วไปทุกวัน โดยตัวเองกับนายสุทธิศักดิ์อยู่กินกันมานาน มีลูกด้วยกันทั้งหมด 6 คน มีนายอดิศักดิ์ หมีนเส็น อายุ 24 ปี นางสาวอลิสา หมีนเส็น อายุ 22 ปี นายอนุชา หมีนเส็น อายุ 20 ปี นายศุภวิชญ์ หมีนเส็น อายุ 16 ปี นางสาวสุทธิดา หมีนเส็น อายุ 14 ปี และเด็กชายสุรเชษฐ์ หมีนเส็น อายุ 11 ปี ส่วนเวลาว่างงานก็จะออกไปตัดอ้อยแล้วนำมารีดน้ำบรรจุใส่ขวดขายตามในหมู่บ้าน เสร็จจากตัดอ้อยก็จะไปหาผักเอามาขายให้กับแม่ค้าที่ขายข้าวยำและก็วางเบ็ดตามร่องน้ำข้างริมทางรถไฟใกล้จุดเกิดเหตุเป็นประจำทุกวัน ตั้งแต่ช่วงเวลา 5 โมงเย็นจนถึงค่ำ
ภรรยาของผู้บาดเจ็บ กล่าวต่อว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุ นายสุทธิศักดิ์ ได้ถือมีดพร้าออกไปตัดอ้อยหาผัก และวางเบ็ดตามปกติ ตนจึงได้ทักห้ามนายสุทธิศักดิ์ว่า ไม่ต้องออกไปหรอกวันนี้ เพราะกลัวว่านายสุทธิศักดิ์จะเป็นลม เนื่องจากนายสุทธิศักดิ์ยังไม่ได้กินข้าวกินปลามามาทั้งวันแล้ว ซึ่งมัวแต่ทำงานหาเงินทั้งวันโดยเฉพาะมีเหตุเจ้าหน้าที่กำลังปิดล้อมจับคนร้ายเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยด้วย หลังจากทักห้ามนายสุทธิศักดิ์ นายสุทธิศักดิ์ได้ตอบกลับมาว่า ไม่เป็นไร ไปแป๊บเดียว พร้อมกับขี่รถจักรยานยนต์ออกไป
นางฮามาน๊ะ กล่าวอีกว่า จากนั้นตนได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น 1 ครั้ง เสียงดังมาก ซึ่งดังมาจากริมทางรถไฟและเป็นจุดเดียวกันที่นายสุทธิศักดิ์ออกไปหาผักและวางเบ็ดหาปลา จึงทำให้ตนรู้สึกใจไม่ดี ต่อมาสักพักมีชาวบ้านขี่รถมาบอกตนที่บ้านว่า นายสุทธิศักดิ์ได้เหยียบระเบิดขาขาดอยู่บนรางรถไฟ หลังได้ยินว่า นายสุทธิศักดิ์เหยียบระเบิดขาขาดทำให้รู้สึกช็อก ก่อนตั้งสติบอกนายอดิศักดิ์ หมีนเส็น อายุ 25 ปี ลูกชายคนโตและนายศุภวิทย์ หมีนเส็น อายุ 17 ปี ลูกชายคนที่ 3 ไปที่จุดเกิดเหตุ เมื่อมาถึงบริเวณด้านหน้าจุดเกิดเหตุ มีเจ้าหน้าที่กั้นพื้นที่เอาไว้ไม่ให้ตนและชาวบ้านเข้าไป เพราะกลัวว่าอาจจะมีระเบิดถูกฝังดินซุกซ่อนเอาไว้อีกหลายลูก เมื่อญาติๆ มาถึงพร้อมกับลูกชายทั้ง 2 คน ก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าเจ้าหน้าที่เข้าไป อุ้มร่างนายสุทธิศักดิ์ไปโรงพยาบาลทันที
"ตอนนี้ก็มีหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือแล้วมีประมาณ 3 หน่วยงาน ซึ่งเป็นเงินเยียวยาและให้ตนกรอกเอกสารจะได้รับเงินเยียวยาประมาณ 5 แสนบาท แล้วก็อีกหน่วยก็จะได้อีก 2 แสนบาท และเงินผู้พิการตลอดชีวิตเดือนละ 3 พันบาท ใจจริงตนไม่อยากได้เลย ถ้าแลกกันได้ตนอยากให้กลับมาเหมือนเดิมเพราะตนไม่อยากได้เงิน ถึงจะมีกินบ้างไม่มีกินรู้สึกสบายใจมากกว่า ส่วนคนร้ายที่วางระเบิดนั้นเขาก็เป็นมุสลิมด้วยกันเค้าก็ยังทำได้ ตนรู้สึกเสียใจมากไม่รู้จะพูดยังไงพูดไม่ออก" ภรรยาของนายสุทธิศักดิ์ กล่าว
...
อย่างไรก็ตาม หลัง นางฮามาน๊ะ ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าว ก็ได้มีประชาชนที่มานอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลได้ควักเงินตัวเอง 200 บาท ช่วยเหลือสมทบนายสุทธิศักดิ์ด้วย ทั้งนี้ หากผู้ใจบุญท่านใดอยากจะร่วมช่วยเหลือครอบครัวของนายสุทธิศักดิ์และนางฮามาน๊ะ ก็สามารถช่วยเหลือสมทบทุนได้ที่ธนาคารกรุงเทพ ชื่อบัญชี นางฮามาน๊ะ หมีนเส็น เลขบัญชี 471-0-67449-2 หรือโทรศัพท์ 0980377099 นางฮามาน๊ะ หมีนเส็น.