กองทัพเรือเชือดวินัย พ.จ.อ.เมากร่างสนามบิน หาดใหญ่ สั่งขัง 14 วัน ธำรงวินัย 1 เดือน เจ้าตัวยอมรับผิดอ้างคะนองปาก ขณะที่ผู้บังคับบัญชาแสดงความรับผิดชอบธำรงวินัยด้วย เจ้ากรมสื่อสาร 3 วัน ผอ.กอง 5 วัน หลังคลิปพฤติกรรม ฉาวว่อนโซเชียล เมาแอ๋พูดเรื่องตรวจสอบระเบิดใน กระเป๋า อ้างตัวเป็นองครักษ์ แถมเคลียร์กับนายกฯได้ สุดท้ายยอมกราบขอโทษ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอมให้ขึ้น เครื่อง รุ่งขึ้นเจ้าหน้าที่สนามบินไปลงบันทึกประจำวันไว้ เป็นหลักฐานที่โรงพัก ส่วนเจ้าตัวหายเมาหอบกระเช้ามาขอขมาก่อนบินกลับกรุงเทพฯ

กรณีโลกออนไลน์แชร์คลิปว่อนโซเชียลความยาวกว่า 10 นาที พฤติกรรมชายคนหนึ่งอยู่ในอาการคล้ายคนเมาสุราพูดจาอวดเบ่งก่อกวนเจ้าหน้าที่บริเวณจุดตรวจสัมภาระ ท่าอากาศยานหาดใหญ่ จ.สงขลา พูดเรื่องการตรวจสอบระเบิดในกระเป๋าเดินทาง ซึ่งเป็นคำต้องห้ามในสนามบิน รวมทั้งอ้างตัวเป็นองครักษ์ และยังเคลียร์กับนายกรัฐมนตรีได้ ต่อมามีเจ้าหน้าที่สนามบินอีกคนระดับหัวหน้าออกมาพูดคุยจนชายเมากร่างมีท่าทีอ่อนลง สุดท้ายยอมกราบขอโทษไม่ให้เอาผิด แต่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ยืนยันไม่ให้ขึ้นเครื่องก่อนเชิญตัวไปสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอน

ต่อมาเมื่อวันที่ 28 ม.ค. พล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงกรณีสื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่คลิปชายมีอาการคล้ายคนมึนเมาพูดจาก่อกวนและสร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้อื่นที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่ว่า จากการตรวจสอบพบว่าชายคนดังกล่าวคือ พ.จ.อ.ไพโรจน์ ขาวแก้ว สังกัดกรมการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศทหารเรือ ขณะเกิดเหตุกำลังจะเดินทางจากท่าอากาศยาน หาดใหญ่ไปยังท่าอากาศยานดอนเมืองเพื่อเตรียมเข้าปฏิบัติงาน เจ้าตัวรับสารภาพว่ามีอาการมึนเมาจริง สาเหตุเนื่องจากไม่ทราบว่าการพูดจาดังกล่าวจะผิดกฎการบิน

...

โฆษกกองทัพเรือเผยต่อไปว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศมาตรา 22 กองทัพเรือขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการกระทำที่ไม่สมควร ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดได้รับรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ได้เรียก พ.จ.อ.ไพโรจน์ให้เข้ารายงานตัวและตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อลงโทษทางวินัยรวมทั้งยังได้ขออภัยกับทางท่าอากาศยานหาดใหญ่ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำท่าอากาศยานทุกท่านที่กำลังพลของกองทัพเรือคนดังกล่าวกระทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและแสดงกิริยาวาจาที่ไม่สมควรด้วย

พล.ร.ท.ปกครอง เผยถึงผลสอบสวนของคณะกรรมการว่า พ.จ.อ.ไพโรจน์ยอมรับผิดทุกประการ ระบุว่าพูดไปโดยไม่รู้และคะนองปาก หน่วยต้นสังกัดออกคำสั่งลงโทษทางวินัยด้วยการขัง 14 วัน ธำรงวินัย 1 เดือน นอกจากนี้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นได้ทำหนังสือเรียน พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผบ.ทร. เพื่อพิจารณา ขอแสดงความรับผิดชอบด้วยการธำรงวินัยด้วย โดยผู้อำนวยการกองกลาง กรมสื่อสารทหารเรือ ธำรงวินัย 5 วัน และเจ้ากรมสื่อสารทหารเรือ ธำรงวินัย 3 วัน ทั้งนี้เหตุที่ไม่ปลดออกจากราชการเหมือนนายทหารที่ตกเป็นข่าวก่อนหน้า เพราะกรณีหลังเจ้าตัวยอมรับผิดและได้รับการลงทัณฑ์ตามเหตุที่กระทำ การถูกจำขังตามวินัยทหารจะมีผลกระทบตามมาหลายเรื่อง เช่น ถูกงดบำเหน็จประจำปีด้วย ถือว่าหนักพอสมควรในชั้นนี้ ยังให้โอกาสเพราะเป็นทหารชั้นผู้น้อย การปลดออกจะตกงานกระทบต่อความเป็นอยู่ของตัวเองและครอบครัว ต่างจากกรณีแรกที่เป็นนายทหารถูกร้องเรียนหลายเรื่องไปข่มขู่หลายแห่งและถูกดำเนินคดีด้วย อย่างไรก็ตาม กองทัพเรือยังเข้มงวดกวดขันวินัยกำลังพล แม้จะมีเหตุลักษณะนี้เกิดขึ้นติดๆกัน แต่ยืนยันว่าจะไม่ปิดบังปกปิด เมื่อเกิดเหตุที่กำลังพลประพฤติตนไม่เหมาะสมจะต้องถูกดำเนินการ

ด้าน ร.ท.ธนันท์รัฐ ประเสริฐศรี ผู้อำนวยการท่าอากาศยานหาดใหญ่ เผยว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 21.15 น. วันที่ 26 ม.ค. พฤติกรรมชายคนดังกล่าวเป็นไปตามที่ปรากฏในคลิป เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ขึ้นเครื่องพร้อมเชิญตัวไปสอบสวนเบื้องต้นมีการขอขมาและว่ากล่าวตักเตือนก่อนจะปล่อยตัวไป รุ่งขึ้นวันที่ 27 ม.ค.ให้เจ้าหน้าที่ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.คลองหอยโข่ง แล้ว อยู่ระหว่างการหารือกับฝ่ายกฎหมายว่าพฤติกรรมดังกล่าวเข้าข่ายความผิดหรือไม่ ส่วน พ.จ.อ. ไพโรจน์ ผู้ก่อเหตุนำกระเช้ามาขอขมาเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่แล้ว ก่อนจะขึ้นเครื่องเดินทางกลับกรุงเทพฯ ไปรายงานตัวต้นสังกัด