Ocean for Life หรือ “ทะเลเพื่อชีวิต” แนวคิดที่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. จัดทำขึ้น เพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศทางทะเล สร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับชุมชนรอบชายฝั่ง

ปิยะ สุขุมภาณุเมศร์ รองกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานทรัพยากรบุคคล กิจการองค์กร และกำกับดูแล ปตท.สผ. เล่าให้ฟังว่า ปตท.สผ.วางเป้าหมายดำเนินงานตามแนวทางการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและนิเวศทางทะเลอย่างยั่งยืน ในบริเวณ 17 จังหวัดรอบอ่าวไทย ในระยะยาว 10 ปี โดยมีกระบวนการผลิตที่สะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทางทะเล นำความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเข้าไปสนับสนุนการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับทะเล เพื่อตรวจติดตามสุขภาพของมหาสมุทรและความหลากหลายทางชีวภาพ ฯลฯ ในช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมาที่เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม เช่น โครงการแหล่งเรียนรู้เรือหลวงไทยใต้ทะเล บริเวณเกาะง่ามน้อย จังหวัดชุมพร และเกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศของนักดำน้ำจากทั่วโลก สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนถึงปีละกว่า 59 ล้านบาท

...

โครงการศูนย์การเรียนรู้เพาะฟักสัตว์น้ำเศรษฐกิจ ซึ่งขยายผลมาจากโครงการศูนย์การเรียนรู้เพาะฟักลูกปู ได้จัดตั้งศูนย์ฯ ไปแล้วทั้งในจังหวัดสงขลา จังหวัดปัตตานี และจังหวัดนครศรีธรรมราช สร้างรายได้ให้ชุมชน เพิ่มขึ้นเฉลี่ยครัวเรือนละ 60,000 บาท ต่อปี โดยทำควบคู่ไปกับ โครงการการอนุรักษ์ชายฝั่งทะเลและบ้านปลา ซึ่งมีแผนในการขยายศูนย์ฯ เพิ่มขึ้นในอีกหลายจังหวัด เพื่อเป็นทั้งแหล่งถ่ายทอดองค์ความรู้ อนุรักษ์ และขยายพันธุ์สัตว์ทะเลไม่ให้ลดน้อยลงหรือสูญพันธุ์ไปได้ ยังมี โครงการอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล ซึ่ง ปตท.สผ.เข้าไปสนับสนุนศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือสัตหีบ ปรับปรุงบ่ออนุบาลเต่า เพื่อเพิ่มอัตรารอดของลูกเต่าให้มากขึ้น และสนับสนุนอุปกรณ์ในการรักษาพยาบาลเต่า เช่น อุปกรณ์การผ่าตัดเต่า เครื่องเลเซอร์รักษา ก่อนจะปล่อยคืนกลับสู่ธรรมชาติ สามารถช่วยเหลือเต่าที่ได้รับบาดเจ็บได้กว่า 2,000 ตัว ตั้งแต่ปี 2560 ยังได้ปล่อยเต่าคืนสู่ธรรมชาติไปแล้วกว่า 10,000 ตัว

อีกหนึ่งโครงการที่ ปตท.สผ.มุ่งหวังจะทำให้เกิดผลสำเร็จ คือ โครงการปลูกป่าชายเลน เพื่อให้เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำชายฝั่ง โดยมีแผนปลูกป่ากว่า 5,000 ไร่ ในพื้นที่จังหวัดชุมพร จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งไม่เพียงเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมฟื้นฟูระบบนิเวศ แต่หมายถึงการสามารถเพิ่มพื้นที่ป่าในประเทศไทยด้วย รวมถึง โครงการบริหารจัดการขยะทะเล ที่ตั้งเป้าภายในปี 2573 จะลดปริมาณขยะลง 50% และโครงการที่ริเริ่มแล้วคือ โครงการเพิ่มคุณค่าผลิตภัณฑ์อาหารทะเล ซึ่งได้นำผู้เชี่ยวชาญเข้าไปอบรมเพื่อช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารทะเลและอาหารทะเลแปรรูป พร้อมจัดหาช่องทางจัดจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ จนกลายเป็นโครงการที่ช่วยยกระดับคุณภาพมาตรฐานผลิตภัณฑ์ สร้างอาชีพและรายได้ให้กับชุมชนเพิ่มขึ้นอีกด้วย

เพราะทะเลคือชีวิต หากเราไม่ทอดทิ้งทะเล ทะเลก็จะไม่ทอดทิ้งเรา “ทะเลเพื่อชีวิต” (Ocean for Life) ช่วยย้ำเตือนได้ว่าการอนุรักษ์และฟื้นฟูท้องทะเลเป็นหน้าที่ของคนทุกคน และเป็นหน้าที่ที่มีความหมายต่อทุกชีวิตอย่างชัดเจน.