“สาหร่ายพวงองุ่น” เป็นพืชเศรษฐกิจกำลังมาแรง อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ต่อร่างกาย สามารถตอบโจทย์กลุ่มคนชอบทานอาหารคลีนที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน ทำให้ตลาดมีความต้องการสูง

ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งพังงา อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เริ่มศึกษาและทดลองเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นมาหลายปี ค่อยๆพัฒนาปรับวิธีจากเดิมใช้ปุ๋ยเคมีหันมาใช้ปุ๋ยชีวภาพ

นางฉันทนา แก้วตาปี ผอ.ศูนย์วิจัยฯ เปิดเผยว่า สาหร่ายพวงองุ่นเป็นสาหร่ายทะเลชนิดหนึ่ง ให้พลังงานน้อย มีโปรตีน วิตามิน แร่ธาตุ และไอโอดีนสูง ช่วยปรับสมดุลในร่างกาย รักษาความชุ่มชื้นของเซลล์ผิว บำรุงสมอง และเส้นผม เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ

เดิมมีการเลี้ยงด้วยปุ๋ยวิทยาศาสตร์ ตอนนี้ปรับมาใช้ปุ๋ยน้ำหมักที่ได้จากการเลี้ยงสัตว์น้ำ เช่น ปลากะพงขาว และเต่าทะเล ซึ่งมีแร่ธาตุเหมาะสมกับสาหร่ายพวงองุ่น เทียบกับเคมีจะเจริญเติบโตดีกว่า ทำให้เก็บเกี่ยวได้เร็วขึ้น

ที่สำคัญหมดห่วงเรื่องสารตกค้าง มีความปลอดภัยกับผู้บริโภคร้อยเปอร์เซ็นต์

ส่วนวิธีการเลี้ยงเริ่มจากนำพันธุ์สาหร่ายพวงองุ่นมาเพาะในตะกร้า ตะกร้าละ 500 กรัม ใช้เวลา 1 เดือน สาหร่ายจะโตเต็มตะกร้า มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว พร้อมเก็บเกี่ยวส่งจำหน่ายให้กับลูกค้า

หากเป็นสาหร่ายเกรด A เม็ดโตเป็นพวงสวยสีเขียวมรกต ราคาอยู่ที่ กก.ละ 150 บาท ส่วนเกรดรองจะขายลดหลั่นลงมา โดยรวมถือว่าเป็นพืชเศรษฐกิจที่ให้ผลตอบแทนสูง

ขณะนี้เกษตรกรพื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามันให้ความสนใจนำไปเลี้ยงควบคู่ไปกับการเลี้ยงปลาในบ่อหรือในกระชังและปลาสวยงาม สร้างรายได้งามไม่แพ้อาชีพอื่น

สำหรับสาหร่ายพวงองุ่นสามารถนำไปรังสรรค์เป็นอาหารจานเด็ดได้หลากหลาย จะทำสลัด หรือผักสดกินกับน้ำพริกก็เข้ากันได้ดี แต่เมนูขึ้นชื่อต้องยกให้ส้มตำสาหร่ายพวงองุ่น แซ่บถูกใจสายรักสุขภาพแน่นอน

...

ใครสนใจเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ศูนย์วิจัยฯ โทร.06–5048–7015.

สุขสันต์ สมทรัพย์