กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แถลงปิดจ๊อบ โชว์ผลงานการปะทะ จนนำไปสู่วิสามัญ 4 คนร้ายระดับแกนนำปฏิบัติการในพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี หลังการเจรจายืดเยื้อกว่า 7 วัน พบแต่ละศพมีอาวุธปืนสงคราม ระเบิด ตกเกลื่อน และแต่ละคนมีหมายจับ จำนวนหลายคดี
จากกรณีเหตุการณ์เจ้าหน้าที่สนธิกำลัง 3 ฝ่าย เข้าพิสูจน์ทราบและบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่เข้ามาหลบซ่อนในพื้นที่ บ้านชะเมาสามต้น ตำบลเตราะบอน และ บ้านบือแนบาแด ตำบลกะดุนง อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี และได้เกิดการยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ เมื่อวันที่ 5-11 กรกฎาคม 2564 ยืดเยื้อ กว่า 6 วัน เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องวิสามัญผู้ก่อเหตุรุนแรงจำนวน 2 ราย ปิดปฏิบัติการในวันที่ 7 แม้จะใช้ความพยายามเจรจาเป็นสำคัญ นำผู้นำศาสนา ผู้นำท้องที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เข้าเกลี้ยกล่อม หวังให้ออกมามอบตัว โดยดำเนินการตามขั้นตอนจากเบาไปหาหนัก เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสีย
และในวันนี้ (12 ก.ค.) ที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิริธร จ.ปัตตานี พ.อ.เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แถลงสรุปผลการบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการขยายผลจากแหล่งข่าวหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี สืบทราบว่ามีกลุ่มคนร้ายเข้ามาหลบซ่อนตัวในพื้นที่จึงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่สนธิกำลัง 3 ฝ่าย เข้าพิสูจน์ทราบและบังคับใช้กฎหมาย โดยกลุ่มคนร้าย เมื่อตรวจพบว่าเจ้าหน้าที่ได้ปิดล้อมเข้ามา จึงได้เปิดฉากใช้อาวุธปืนยิงใส่ เพื่อเปิดทางหลบหนี โดยกลุ่มคนร้ายได้หลบหนีเป็น 2 ชุด ชุดแรกเข้าไปหลบซ่อนอยู่ใน โรงเรียนเอกชนสอนศาสนามะอูฮัดซูบูลูซซาลาม บ้านชะเมาสามต้น หมู่ที่ 5 ตำบลเตราะบอน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี
ส่วนอีกชุดหลบหนีเข้าไปในป่า ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดที่พักของกลุ่มคนร้ายได้ ซึ่งมีการกางเต็นท์ 2 จุด มีอุปกรณ์สนาม อาหารแห้ง รองเท้าแตะ และยังพบซองกระสุนปืนอาวุธสงคราม รวมทั้งยังพบรอยเลือดหยดเป็นทาง คาดว่าคนร้ายน่าจะได้รับบาดเจ็บขณะยิงต่อสู้เพื่อเปิดทางและหลบหนีเข้าไปซ่อนตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เชิญผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนาพื้นที่ รวมทั้งญาติของผู้ก่อเหตุรุนแรง เกลี้ยกล่อมให้ยอมเข้ามอบตัว และให้มีการปฏิบัติอย่างรัดกุม แต่กลุ่มคนร้ายยังคงหลบซ่อนภายในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนามะอูฮัดซูบูลูซซาลาม และได้ขว้างระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 นาย ประกอบด้วย 1. ส.ต.อ.ธงชัย ศรีสวัสดิ์ ผบ.หมู่ สังกัด กก.3 บก.สอ.บช.ตชด. 2. อส.ทพ.วิโรจน์ ภัยชำนาญ รอง ผบ.ชป. สังกัด ร้อย.ทพ.4309 3. ส.ต.ท.ธีรณัฐ นิตยวิมล สืบ จว.ฯ
...
ผู้ก่อเหตุเสียชีวิต 2 ราย หนึ่งในนั้น คือ นายคูไมดี รีจิ อายุ 33 ปี ข้างศพพบ อาวุธปืน AK-47 จำนวน 1 กระบอก เป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ มีหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 2 หมาย และนายอัมรี มะมิง อายุ 26 ปี มีอาวุธปืนพกสั้น 1 กระบอก, อาวุธปืนยาว AK47 จำนวน 1 กระบอก และลูกระเบิดขว้าง 1 ลูก มีหมายจับจากคดีลอบวางระเบิดหลายจุดในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ทั้งนี้ห่างจากจุดแรก 20 กิโลเมตร ในพื้นที่บ้านบือแนบาแด ตำบลกะดุนง อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี จนท. เข้าปิดล้อมมาตั้งแต่ เวลา 06.30 น. ของวันที่ 5 ก.ค. และกระชับวงล้อมเข้าไป จนตรวจพบที่พักพิงพร้อมอุปกรณ์เครื่องใช้จำนวนหนึ่ง จึงใช้สุนัขทหาร ดมกลิ่นเข้าพิสูจน์ทราบ กลุ่มคนร้ายที่หลบซ่อนภายในเห็นดังนั้นจึงได้ใช้อาวุธสงครามยิงใส่ ทำให้สุนัขทหารได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหู เจ้าหน้าที่จึงทราบว่า มีผู้ก่อเหตุรุนแรงหลบซ่อนอยู่ในป่าสาคูประมาณ 6-7 คน จึงได้เชิญผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนาพื้นที่ รวมทั้งญาติของผู้ก่อเหตุรุนแรงมา เกลี้ยกล่อม เจรจาให้ยอมเข้ามอบตัว แต่ไม่เป็นผล ผู้ก่อเหตุรุนแรงกลับใช้ความรุนแรงยิงตอบโต้ใส่เจ้าหน้าที่
เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย เจ้าหน้าที่ได้นำเจ้าหน้าที่ได้นำอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงรถแบ็กโฮเข้าเคลียร์พื้นที่ เพื่อตรวจหาร่องรอยหลักฐานและศพของคนร้าย จนกระทั่งพบคนร้ายถูกวิสามัญจำนวน 2 ราย นอนเสียชีวิต แต่ละศพห่างกันประมาณ 30 เมตร โดยศพแรกเสียชีวิตบริเวณริมคลอง คือ นายสูไลมาน ดอเลาะ ผู้ก่อเหตุรุนแรง ระดับปฏิบัติการ มีหมายจับ ป.วิอาญาฯ จำนวน 3 หมาย อีกราย คือ นายอัซมาน สะมะแอ อยู่บ้านเลขที่ 52 ม.4 ต.ตะกะดุนง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ โดยผ่านการชักชวนและสาบานตน (ซูมเปาะห์) และผ่านการฝึกยุทธวิธีขั้นปอเนาะ มีหมายจับ จำนวน 2 หมาย
ตลอดระยะเวลา 7 วันที่ผ่านมา คนร้ายเสียชีวิตทั้งสิ้น 4 ราย เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ทั้งนี้การเข้าพิสูจน์ทราบและบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้พยายามบังคับใช้กฎหมายตามขั้นตอนจากเบาไปหาหนักมาโดยตลอด ประกอบกับสภาพพื้นที่เกิดเหตุเป็นทุ่งนาและมีป่าสาคู ทำให้การปฏิบัติเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยยึดหลักตามแนวทางสันติวิธีแต่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงเลือกที่จะใช้ความรุนแรงในการตอบโต้จนทำให้เกิดความสูญเสียดังกล่าว ขอให้พี่น้องประชาชนได้มีความมั่นใจในมาตรการการควบคุมพื้นที่ และบังคับใช้กฎหมายของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เพื่อสร้างความปลอดภัยและสันติสุขให้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หากพบเห็นสิ่งปกติ บุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 หมายเลข 061-173-2999 หรือเบอร์สายด่วน 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.