สสจ.พังงา แจงหลังเกิดเหตุผู้เสียชีวิต 1 ราย และเส้นเลือดสมองตีบ หลังทั้งคู่ฉีดซิโนแวคมาจากภูเก็ต ส่งข้อมูล คกก.วัคซีนส่วนกลางเพื่อวินิจฉัย รายแรกมีไขมันเลวในเลือดสูง รายที่สองความดันฯสูง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา สั่งให้ทาง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพังงา แถลงข่าวกรณีมีผู้เสียชีวิตและมีผลข้างเคียงหลังจากเข้ารับการฉีดวัคซีนจากพื้นที่บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดในภูเก็ต โดยใช้ ห้องประชุมดาหลา โรงพยาบาลพังงา เขตเทศบาลเมืองพังงา เป็นห้องแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ซึ่งมี นายแพทย์วิเศษ กำลัง รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพังงา พร้อม แพทย์หญิงทิพยรัตน์ ต้นสกุลประเสริฐ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพังงา นายแพทย์พีรวิชญ์ ปิ่นพิทักษ์ แพทย์อายุรศาสตร์ โรงพยาบาลพังงา และสื่อมวลชนในจังหวัดพังงา เข้าร่วม.

นายแพทย์วิเศษ กำลัง รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพังงา กล่าวถึงกรณีผู้เข้ารับบริการฉีดวัคซีนซึ่งเป็นบุคคลในพื้นที่จังหวัดพังงา แต่เข้าฉีดวัคซีนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เนื่องจากมีสถานที่ทำงานในพื้นที่ภูเก็ต รายแรก เป็นผู้ป่วยชายวัย 43 ปี มีภูมิลำเนาในเขตเทศบาลเมืองพังงา เสียชีวิตหลังจากเข้ารับการฉีดวัคซีนซิโนแวค ที่หน่วยฉีดวัคซีนท่าอากาศยานภูเก็ต เมื่อวันที่ 23 พ.ค.64 เวลา 16.20 น. ซึ่งทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพังงาเตรียมประสานกับทางสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต เพื่อหาข้อมูลและเปรียบเทียบข้อมูลการให้บริการวัคซีนในกลุ่มบุคคลที่ฉีดวัคซีนในลอตเดียวกัน หรือในช่วงเวลา สถานที่เดียวกัน

...

รอง นพ.สสจ.พังงา กล่าวต่อว่า อีกราย เป็นผู้ป่วยชายไทย อายุ 52 ปี มีภูมิลำเนาในพื้นที่ อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา อาชีพ รปภ.แห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต วันที่ 23 พ.ค.64 เวลา 09.00 น. เดินทางเข้าฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลถลาง จ.ภูเก็ต ขณะฉีดปกติดี ขณะก่อนขับขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน สตาร์ตรถจักรยานยนต์รู้สึกขาซ้ายไม่มีแรง จึงใช้ขาขวาช่วยสตาร์ต สามารถขับขี่กลับถึงบ้านในพื้นที่ อ.ตะกั่วทุ่ง ถึงบ้านรู้สึกปวดเมื่อยตามตัว ปวดศีรษะ แขน ขาอ่อนแรงเพิ่มขึ้น หยิบจับสิ่งของตก กระทั่งวันที่ 24 พ.ค.64 ช่วงเช้ารู้สึกอ่อนแรงขาด้านซ้ายเดินไม่ถนัด เริ่มชาที่ใบหน้า พูดไม่ชัด ปวดศีรษะมากขึ้น หัวหน้างานจึงส่งโรงพยาบาลถลาง มีอาการขาซ้ายอ่อนแรง แพทย์วินิจฉัยหลอดเลือดสมองตีบ จึงส่งต่อ โรงพยาบาลพังงาตามสิทธิ์ผู้ป่วย ต่อมาอายุรแพทย์โรงพยาบาลพังงา ตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์

นายแพทย์วิเศษ กล่าวอีกว่า เบื้องต้นผู้ป่วยมีประวัติปัจจัยเสี่ยง และส่งตรวจร่างกายมีอาการเข้ากับ หลอดเลือดสมองตีบ ให้การรักษาด้วยยา สารน้ำ จากนี้เตรียมติดต่อส่งตัวเพื่อตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสมอง ที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี จากเหตุดังกล่าว ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพังงา ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ทั้งคู่มีประวัติโรคประจำตัว อาจจะเกิดอาการในช่วงหลังที่ให้บริการฉีดวัคซีนขึ้นมาได้ หรือ อาจจะเกิดจากผลข้างเคียงของวัคซีน ซึ่งได้ประสานทางคณะกรรมการวัคซีนส่วนกลางเข้าสอบสวน เพื่อดำเนินการค้นหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

ด้าน แพทย์หญิงทิพยรัตน์ ต้นสกุลประเสริฐ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพังงา กล่าวว่า รายผู้เสียชีวิตหลังจากฉีดวัคซีนที่ภูเก็ต กลับมาพักบ้านที่พังงา ญาติให้ประวัติว่า มีไข้ต่ำๆ ซื้อยามากินเอง จนช่วงเช้าวันที่ 24 พ.ค.64 มีอาการชาแปลบๆ ที่ใบหน้า มีไข้ต่ำๆ ช่วงกลางคืน มีอาการเจ็บหน้าอก และหมดสติที่บ้าน ในช่วงเวลา 01.30 น. ของวันที่ 25 พ.ค.64 จึงเข้ารับการรักษาที่ห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลพังงา แรกรับผู้ป่วยมีอาการตัวเขียวคล้ำ ไม่มีชีพจร ทีมแพทย์จึงปั๊มนวดหัวใจตามแนวทางการรักษา 40 นาที พบว่าไม่มีชีพจร แพทย์ที่รักษาลงความเห็นพร้อมกับอายุรแพทย์ วินิจฉัยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันรุนแรง

ผอ.รพ.พังงา กล่าวอีกว่า ทีมแพทย์ชันสูตรแนะนำส่งชันสูตรพลิกศพที่ศูนย์วิทยาศาสตร์ จ.สุราษฎร์ธานี ตามแนวทาง แต่ทางญาติปฏิเสธไม่ประสงค์ชันสูตร เนื่องจากต้องทำพิธีฝังศพตามศาสนาอิสลามโดยเร่งด่วน จึงประสานกรมควบคุมโรคเก็บสิ่งส่งตรวจจากผู้เสียชีวิตรายนี้ และส่งข้อมูลผู้เสียชีวิตเข้าสู่คณะกรรมการวัคซีนส่วนกลางเพื่อวินิจฉัย เบื้องต้นพบประวัติว่ามีไขมันเลว 231 ซึ่งเป็นค่าไขมันเลวไม่ควรเกิน 130 เท่านั้น จึงเป็นปัจจัยเสี่ยงการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันได้

...

ส่วน นายแพทย์พีรวิชญ์ ปิ่นพิทักษ์ แพทย์อายุรศาสตร์ โรงพยาบาลพังงา กล่าวว่า ผู้ป่วยรายที่ 2 พบว่ามีประวัติความดันโลหิตสูง เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาไม่เคยขาดยา แต่พบว่ามีการขาดนัดพบแพทย์ประจำตัว จนกระทั่งเข้ารับการฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลถลาง เกิดอาการแขนขาอ่อนแรง และพบอาการหลอดเลือดสมองตีบ ล่าสุดผู้ป่วยสามารถพูดจาได้ ทางโรงพยาบาลพังงาเตรียมส่งตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสมอง ที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี และส่งข้อมูลผู้ป่วยเข้าสู่คณะกรรมการวัคซีนส่วนกลางตามแนวทางเพื่อวินิจฉัยต่อไป.