สาวขายผ้าหนีเสือปะจระเข้ เผ่นจากเกาะภูเก็ตเพราะพิษโควิด มาเปิดร้านที่นครศรีธรรมราชได้ 2 เดือน เจอจังๆ โจรเมืองคอน มาเยือนตอนเที่ยงคืน ชักปืนจ่อหน้าผาก คนร้ายสุดแสบ หลอกตำรวจหัวปั่น แต่ไม่รอดเงื้อมมือกฎหมาย
เวลา 11.30 น. วันที่ 11 พ.ค. พ.ต.ท.ธีระวุฒิ เทพเลื่อน รองผกก.สส.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช พ.ต.ท.จรินทร์ ขาวเอี่ยม รองผกก.(สอบสวน) พ.ต.ต.ณัฐภัทร พุทธังกุโร สว.สส. พร้อมกำลังชุดสืบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้ควบคุมตัว นายอภิสิทธิ์ กาหวาย อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53/24 ซอยรวมแพทย์ ถนนกะโรม ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมืองนครศรีธรรมราช ผู้ต้องหาคดีชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เหตุเกิดที่ร้านขายเสื้อผ้า ชื่อร้าน “พริตตี้ เกิร์ล” เลขที่ 944/17 ถนนศรีปราชญ์ ต.คลัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช ของนางสาวสิรินยา ไล่ชะพิษ อายุ 23 ปี
คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 6 พ.ค. ขณะที่ น.ส.สิรินยากำลังจะปิดร้าน โดยยืนเคลียร์บิลอยู่ที่โต๊ะทำงานในร้าน ประตูด้านหน้าได้ปิดไปแล้ว 1 คูหา ยังเหลืออีก 1 คูหายังไม่ได้ปิด มีคนร้ายเป็นชาย รูปร่างค่อนข้างสูง สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีแดง สวมกางเกงวอร์มขายาวสีเขียว สวมหมวกแก๊ป คาดแมสก์ปิดใบหน้า บุกเข้าไปในร้าน ใช้ปืนพกสั้นแบบลูกโม่สแตนเลส จี้ที่หน้าผากของ น.ส.สิรินยา ขู่บังคับด้วยภาษาปักษ์ใต้หรือสำเนียงใต้ไม่ให้ขัดขืน
จากนั้นบังคับให้เปิดลิ้นชัก และให้หยิบเงินทั้งหมดในลิ้นชัก ซึ่งเป็นเงินธนบัตรใบละ 100 บาท, 50 บาท, 20 บาท เป็นเงินที่ใช้สำหรับไว้เป็นเงินทอนให้ลูกค้า รวมทั้งหมดประมาณ 2 พันบาท ส่งให้
โดย น.ส.สิรินยา ให้การกับตำรวจว่า ตกใจมาก ได้พูดกับคนร้ายว่า ทำได้ยังไง ของก็ขายยาก ขายไม่ได้ คนร้ายได้ตะคอกกลับว่าอย่าส่งเสียงดัง หลังได้เงินแล้วคนร้ายได้ออกจากร้าน ขี่รถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ริมถนนหลบหนีไป
...
ผู้เสียหายให้การด้วยว่า ก่อนหน้านี้เธอเปิดร้ายขายส่งและขายปลีกเสื้อผ้าอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต แต่เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด ไม่มีนักท่องเที่ยวหรือลูกค้ามาซื้อสินค้าเหมือนเมื่อก่อน จึงตัดสินใจปิดร้านที่ภูเก็ตมาเช่าบ้านพักที่นครศรีธรรมราช และเช่าอาคารพาณิชย์ที่เกิดเหตุ เปิดเป็นร้านขายส่งขายปลีกเสื้อผ้าได้ราว 2 เดือนเศษ ก็มาเกิดเหตุคนร้ายบุกจี้ชิงเงิน โชคดีที่ในลิ้นชักมีเพียงเงินทอน ส่วนเงินก้อนอยู่ในกระเป๋าคาด คนร้ายรีบร้อนจึงไม่ได้เงินก้อนใหญ่ไป
หลังเกิดเหตุ ตำรวจได้ไล่ดูภาพวงจรปิด แต่ทำงานด้วยความยากลำบาก เนื่องจากหลังก่อเหตุคนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์วนเวียนไปตามเส้นทางต่างๆ ทั้งสี่มุมเมือง ทำให้ตำรวจหัวปั่น เพราะตรวจสอบเส้นทางหลบหนีของคนร้ายอย่างยากลำบาก
อย่างไรก็ตามในที่สุดเจ้าหน้าที่ได้ภาพวงจรปิดจากสถานประกอบการแห่งหนึ่ง ที่สามารถบันทึกหมายเลขทะเบียนรถของคนร้ายได้ จึงได้แกะรอยจนสามารถขออนุมัติศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชออกหมายจับคนร้ายรายนี้เมื่อวานนี้ ก่อนนำกำลังบุกเข้ารวบตัวเอาไว้ได้ขณะนั่งคร่อมรถจยย.ฮอนด้าเวฟ 110 I ทะเบียน 1 กผ 6380 นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นรถที่ใช้ก่อเหตุ อยู่ที่ลานจอดรถภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดนครศรีธรรมราช (บขส.) ถนนกะโรม ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมืองนครศรีธรรมราช เมื่อช่วงพลบค่ำของวันที่ 10 พ.ค.
สำหรับนายอภิสิทธิ์ ผู้ต้องหารายนี้มีอาชีพเป็นลูกจ้างแผงขายผักอยู่ในตลาดหัวอิฐ ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมืองนครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่นำตัวไปตรวจค้นบ้านพัก พบของกลางเสื้อ กางเกง และปืนที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นปืนบีบีกัน และรับว่าหลังก่อเหตุได้ขี่รถจยย.ไปตามถนนหลายสาย หลายสถานที่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สับสน ไม่ให้ติดตามตัวได้จากภาพวงจรปิด
จากนั้นได้ควบคุมตัวไปทำแผนประทุษกรรมในที่เกิดเหตุ ก่อนคุมตัวกลับไปที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ดำเนินคดีต่อไป.