สาวเจ้าของทัวร์ที่กระบี่ เจอวิกฤติโควิดรายได้หดหายแทบเป็นศูนย์ ต้องแบกค่าใช้จ่ายเดือนละ 2 แสน แต่สู้ไม่ถอยเปิดขายสเต็กริมทางสร้างรายได้จนอยู่รอด
วันที่ 18 ก.พ. จากผลกระทบวิกฤติโควิด-19 ที่ระบาดในประเทศไทยนานกว่า 1 ปี ส่งผลให้ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวซบเซา มานานกว่า 1 ปี ทำให้เจ้าของธุรกิจด้านการท่องเที่ยว พนักงาน ลูกจ้าง พากันตกงานขาดรายได้กันทั่วทุกพื้นที่ แต่ยังมีคนหนุ่มสาวหลายคน ที่ไม่ยอมย่อท้อกับชีวิต พยายามมองหาธุรกิจใหม่ ๆ เข้ามาเติมเต็มเพื่อสร้างรายได้ขึ้นมาทดแทนภาคการท่องเที่ยว
น.ส.จีราภา ทองจิตต์ อายุ 36 ปี เจ้าของรถตู้บริการรับส่งนักท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของ จ.กระบี่ หนึ่งในผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ทำให้รายได้หาย แต่ยังมีภาระที่ต้องแบกรับในแต่ละเดือนกว่า 2 แสนบาท ทั้งค่าผ่อนรถตู้ 3 คัน ค่าใช้จ่ายสำหรับพนักงาน แต่เธอก็ไม่ท้อกับผลกระทบที่เจอ ใช้เงินเก็บสะสมที่มีอยู่มาลงทุนเปิดร้านขายสเต็กราคาถูก แต่คุณภาพเน้น ๆ
โดยเปิดขายอยู่ริมทางเท้าปากซอยมหาราช 24 ต.ปากน้ำ อ.เมืองกระบี่ ชื่อร้านสเต็กเด็กแนว ปรากฎว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าชาวไทย ที่เป็นคนในตัวเมืองกระบี่ พากันมาอุดหนุนกันแน่นร้านทุกวัน สร้างรายได้อย่างงามในช่วงวิกฤติเช่นนี้ นับเป็นอีกตัวอย่างของผู้ที่ไม่ย่อท้อ
...
น.ส.จีราภา กล่าวว่า ก่อนนี้ ตนเคยทำธุรกิจรถรับส่งนักท่องเที่ยว โดยเริ่มทำมาเมื่อ 3 ปีก่อน ลงทุนซื้อรถตู้ 3 คัน เพราะเห็นว่ามีนักท่องเทียวเดินทางมาจ.กระบี่ในแต่ละปีจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังเปิดร้านขายอาหารซีฟู้ดในพื้นที่หาดอ่าวนาง ซึ่งในช่วงก่อนโควิด-19 ระบาดรอบแรก มีรายได้ดีสามารถผ่อนชำระค่ารถ มีเงินผ่อนเงินกู้ที่มาลงทุนทำธุรกิจด้านการท่องเที่ยวเดือนละกว่า 2 แสนบาท แต่พอเริ่มมีการระบาดของโควิด-19 นักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางมาเที่ยวได้ ธุรกิจหยุดชะงักทันที
นักธุรกิจสาวใจสู้ กล่าวอีกว่า แต่ละเดือนอาจจะมีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทย เช่าเหมารถตู้บ้าง แต่ได้เพียงเดือนละ 1-2 วันเท่านั้น โดยราคาเช่าเหมาจะอยู่ที่วันละ 800-1,000 บาท ต่อคัน จึงเริ่มมองหาธุรกิจอื่นที่ต้องทำทดแทน เพราะยังมีภาระที่แบกอยู่เดือนละกว่า 2 แสนบาท โดยไปหาธุรกิจเฟรนไชส์ราคาไม่แพง ก็ไปพบกับเฟรนไชส์สเต็กเด็กแนว ที่ลงทุนเพียงหมื่นกว่าบาท แต่ต้องใช้ทุนซื้อวัสดุอุปกรณ์ ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ และค่าเช่าที่อีกจำนวนหนึ่ง เริ่มเปิดขายมาได้ประมาณ 8-9 เดือน โดยหาเช่าหน้าร้านของเพื่อน ๆ ที่เปิดธุรกิจตอนกลางวัน แต่ตอนกลางคืนไม่ได้ใช้พื้นที่ทำอย่างอื่น
ปรากฏว่ารายได้ดีเกินคาด แต่ละวันจะเปิดขายในช่วงเย็นตั้งแต่ 17.00-24.00 น. ทุกวัน ช่วงหลังการระบาดของโควิดรอบแรกเริ่มคลี่คลาย ยังขายได้วันละ 1-2 หมื่นบาท แต่พอมาเจอการระบาดรอบ 2 รายได้ก็ลดลงไปบ้าง แต่ยังพอประคองตัวไปได้ ซึ่งหลังจากนี้ หากสถานการณ์คลี่คลาย การท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง ก็คงกลับไปยึดธุรกิจท่องเที่ยวเหมือนเดิม แต่ร้านสเต็กที่เปิดมาแล้ว หากกระแสตอบรับยังดี ก็จะเปิดขายต่อเนื่องควบคู่ไปด้วย.